อีสานโดนก่อน! เปิดภาพพายุโซนร้อนมูน ถล่ม 22 จังหวัด เตือนรับมือทั้งท่วม-น้ำป่า

อีสานโดนก่อน! เปิดภาพพายุโซนร้อนมูน ถล่ม 22 จังหวัด เตือนรับมือทั้งท่วม-น้ำป่า

พายุโซนร้อนมูน / กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ พายุ “มูน” (Mun) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน (มีผลกระทบถึงวันที่ 4 ก.ค. 2562) ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 3 ก.ค. 2562 ระบุว่า

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (3 ก.ค. 62) พายุโซนร้อน “มูน” (Mun) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม ประมาณ 290 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 19.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในคืนนี้ (วันที่ 3 ก.ค. 62)

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศลาวและประเทศเวียดนามตอนบนควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย

โดยจะมีฝนตกหนักตามภาคต่างๆ ดังนี้
วันที่ 3 กรกฎาคม 2562
ภาคเหนือ : จังหวัดน่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี และสระบุรี
ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ในช่วงวันที่ 4 กรกฎาคม 2562
ภาคเหนือ : จังหวัดน่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ชัยภูมิ ขอนแก่น และกาฬสินธุ์
ภาคกลาง : จังหวัดราชบุรี และกาญจนบุรี
ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด

อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง