สุภาพแต่เจ็บมาก! ชาวเน็ตแห่ชื่นชม ร้านนาฬิกาหรูห้างดัง แจงเหตุ “ขายตรง” แต่ไม่ตรง

สุภาพแต่เจ็บมาก! ชาวเน็ตแห่ชื่นชม ร้านนาฬิกาหรูห้างดัง แจงเหตุ “ขายตรง” แต่ไม่ตรง

เกิดพฤติการณ์ “ความไม่ตรง” ของผู้คนในแวดวงอาชีพ “ขายตรง” จำนวน 3 คน ที่นำกล่องนาฬิกายี่ห้อแพงของตัวเอง ไป “แอ๊บ” ถ่ายรูปในร้านขายสินค้ายี่ห้อดังกล่าวแห่งหนึ่ง ซึ่งเปิดอยู่ในห้างหรูกลางกรุง ก่อนคนกลุ่มเดิมจะนำภาพดังกล่าวไปโพสต์บนโลกโซเชียล พร้อมระบุข้อความ ให้คนทั่วไปอ่านและเข้าใจผิดว่าอาชีพที่พวกเขาทำอยู่นั้น สามารถหาเงินซื้อของแพงได้แบบสบาย เพียงหวังสร้าง “ฝันลวง” ให้กับบรรดา “ลูกทีม” ทั้งหลายแหล่

แต่หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าของร้านนาฬิกา ผู้ใช้ชื่อบนเพจฟซบุ๊กว่า Natee Masathienvong ได้ออกมาชี้แจง “ความจริง” ตีแผ่ให้โลกโซเชียลได้รับรู้ถึงพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลของกลุ่มคนดังกล่าว ร่ายยาวเป็นข้อๆ ละเอียดยิบเห็นภาพชัด ชนิดชาวเน็ตแห่คอมเมนต์ชื่นชมกันเป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น

“ชี้แจงได้น่ารักมากค่ะ”  “ร้านนี้จรรยาบรรณดีมากค่ะ น่าไปอุดหนุน”  “เป็นการตอบคำถามอย่างมืออาชีพมากครับ”

“เป็นคำอธิบายที่สุภาพแต่เจ็บมาก” เป็นต้น

สำหรับเนื้อหาโพสต์จากเจ้าของร้านนาฬิกา ผู้ใช้นามบนเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้

“เนื่องจากมีการแชร์เรื่องราวที่มีบุคคลมาถ่ายรูปการซื้อขายนาฬิกากันในร้านของผม และต่อว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องกันอย่างแพร่หลาย

ผมขออธิบายเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง สำหรับท่านที่ไม่ได้เห็นโพสต์ของผมทั้งหมด เพื่อจะไม่เข้าใจผิด และเผื่อจะช่วยยุติการประณาม ด่าทอ เสียดสี ต่อบุคคลทั้งสามที่เกี่ยวข้องลงเพียงเท่านี้

ข้อเท็จจริง คือ ดังนี้

  1. สองท่านในภาพ เข้ามาในร้านพร้อมกับผู้ขายสุภาพสตรีอีกท่าน เพื่อนำนาฬิกามาถอดข้อ
  2. ทางร้านยินดีบริการ แต่ขอดูใบรับประกันและใบเสร็จรับเงิน เนื่องจากมักมีพ่อค้าแม่ค้าของหนีภาษี ของหิ้ว ชอบมาซื้อขายกันในร้านและใช้ทางร้านเป็นตรายาง สร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้าที่ไม่ได้ซื้อจากทางร้าน
  3. ทั้งสามท่านแจ้งว่า ไม่มีใบรับประกันหรือใบเสร็จมา ทางร้านจึงแจ้งว่าให้นำมาด้วยครั้งหน้า ทางร้านจะบริการให้ (นโยบายของทางร้าน ยินดีให้บริการนาฬิกา Rolex ทุกเรือน ไม่ว่าจะซื้อสินค้ามาจากประเทศใดก็ตาม ขอเพียงมิได้ซื้อจากร้านหรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่หลบเลี่ยงภาษี)
  4. หลังจากได้รับทราบนโยบายของทางร้านแล้ว ทั้งสามท่าน ได้ย้ายไปนั่งที่โซฟา เอากล่องและนาฬิกาออกมาวางบนโต๊ะรับแขก และท่านหนึ่งเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปให้ ทำทีท่าเหมือนซื้อนาฬิกาเรือนในภาพจากทางร้าน หลังจากนั้น ผู้ถ่ายภาพ (เข้าใจว่าเป็นผู้ขายนาฬิกาให้) ยังได้นำบัตรเครดิตของตนเอง ออกมาจากกระเป๋า และวางไว้บนโต๊ะใกล้ๆกับนาฬิกา และถ่ายภาพต่ออีก
  5. พนักงานของทางร้าน ไม่กล้าห้าม เพราะกลัวเป็นการไม่สุภาพ
  6. ทางร้านไม่ทราบเจตนา จึงต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะเกรงว่าจะมีการนำภาพเหล่านี้ไปหลอกขายสินค้าให้กับผู้อื่น ซึ่งอาจทำให้ทางร้านเสียหายได้
  7. ทั้งสามท่าน ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอโทษเรียบร้อยแล้ว และสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรลักษณะนี้อีก ที่ทำไปเพียงต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกทีมคนอื่นๆ
  8. ทางร้านยินดีรับคำขอโทษ และไม่ติดใจอะไร ยินดีให้บริการกับลูกค้าทุกท่านเสมอ ไม่ว่าจะซื้อสินค้ามาจากที่ไหน (กรุณานำใบรับประกันและใบเสร็จมาด้วย)
  9. ผมขอสรุปว่า คนเราทุกคน สามารถทำผิดพลาดได้ ผมได้ตักเตือนไปว่าการสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกทีม มิใช่ความผิดอะไร สามารถทำได้ หากสิ่งที่แสดงออกไปไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง

ผมขอสรุปว่า เรื่องนี้มิใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ทั้งสามท่านทำไปเพียงเพราะคิดน้อยไปนิด มิได้กระทำความผิดเลวร้ายอะไร ผู้ซื้อก็มีเงินซื้อนาฬิกาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เพียงแต่มิได้ซื้อจากทางร้าน แค่มาแอบอ้างด้วยภาพเพราะร้านมีชื่อเสียง

ผมจึงอยากจะขอความกรุณา อย่าด่าทออะไรกันรุนแรงอีกต่อไปเลยครับ ขอจบเรื่องเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณทุกท่านครับ ที่ให้ความสนใจ”