พ่อค้า-แม่ค้าจตุจักรเผย ตลาดควรเปลี่ยนสายไฟ-เพิ่มท่อดับเพลิง หวั่นซ้ำรอย แม้เร่งเยียวยาแล้ว

เมื่อเวลา18.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ลงพื้นที่สำรวจ บรรยากาศบริเวณพื้นที่จำหน่ายสินค้าชั่วคราว ในตลาดนัดจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้แผงค้า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก

เบื้องต้น ทางกองอำนวยการตลาดฯ ได้ตั้งเต็นท์เป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้าชั่วคราว ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ได้จำหน่ายสินค้ากันได้อย่างปกติ

แม่ค้าขายน้ำผลไม้และเสื้อมัดย้อมรายหนึ่ง ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ร้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ เป็นร้านขายผ้าไหมของป้าเธอที่ขายมาแล้วกว่า20 ปี โดยผ้าไหมทั้งหมดในร้าน ได้สูญเสียไปกับกองเพลิงทั้งหมดจนประเมินค่าความเสียหายไม่ได้ เพราะบางผืน เป็นผ้าเก่าราคาหลายหมื่นบาท บางผืนก็เป็นของลูกค้าที่นำมาซ่อมแซมที่ร้าน 

แม้ว่าไฟจะไหม้ไปทั้งหมด และไม่ได้ทำประกันไฟไหม้เอาไว้ เธอและป้าก็รู้สึกเสียใจแต่ไม่คิดท้อ หาสินค้าอื่นอย่าง น้ำเสาวรส และผ้ามัดย้อม มาขายทดแทนในพื้นที่ที่ทางกองอำนวยการฯจัดไว้ให้ เพื่อให้ยังมีรายได้เลี้ยงชีพอยู่

เธอให้สัมภาษณ์ต่อว่า ตลาดก่อตั้งมากว่า30 ปีแล้ว สายไฟที่ใช้ก็ชำรุดไปตามกาลเวลา จึงอยากให้มีความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าจะมีการแก้ไขปัญหา โดยการจัดพื้นที่เต็นท์ให้ขายของได้โดยไม่เสียค่าที่ และมีการยกเว้นการชำระค่าพื้นที่เป็นเวลา1 ปี อีกทั้งยังมีการเร่งเยียวยาความเสียหายภายใน 2-3 เดือนแล้วก็ตาม  แต่อยากให้แก้ไขให้ตรงจุด โดยการเปลี่ยนสายไฟ และทำทางเดินไฟใหม่ด้วย เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำรอย

ด้านพ่อค้ากระเป๋าผ้าแฮนด์เมด ร้านArMong  อีกหนึ่งร้าน ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้  ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ร้านของตนเป็นร้านขายกระเป๋า ที่เปิดขายมาตั้งแต่รุ่นคุณแม่เป็นหนึ่งในร้านที่รับผลกระทบเช่นกัน

โชคยังดี ที่ร้านโดนแต่ประกายไฟและสามารถดับเพลิงไหม้ได้ทันเวลา แต่สินค้าในร้านก็เสียหายไปกว่าครึ่ง มูลค่าความเสียหายก็หลายบาทอยู่เหมือนกัน เพราะโดนทั้งไฟไหม้ของ และน้ำที่ดับเพลิงเปียกสินค้า แต่ยังมีสินค้าบางส่วนที่ไม่โดนไฟไหม้ ก็นำมาขายหารายได้ตามเดิม

เขาให้สัมภาษณ์ทิ้งท้ายว่า แม้ว่าจะมีมาตรการเร่งเยียวยา จัดหาพื้นที่ให้ขายของ อีกทั้งมีการสร้างโครงร้านให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบใหม่ ภายใน 2-3 เดือนแล้วก็ตาม แต่ก็อยากให้มีการเปลี่ยนสายไฟใหม่ทั้งหมด และเพิ่มท่อน้ำดับเพลิงให้มากกว่าเดิม เพื่อความปลอดภัยทั้งทรัพย์สินและชีวิตของผู้ประกอบการเอง และนักท่องเที่ยวที่มาเดินตลาดด้วย