กทม.เพิ่ม’เต็นท์-รถสุขา-ซีซีทีวี’รับพสกนิกรสักการะพระบรมศพ29ตุลาฯเป็นต้นไป

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะโฆษก กทม.แถลงภายหลังประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอ.รส.) ที่สนามหลวง ว่า พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ได้ประกาศเลื่อนการเข้าสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นวันที่ 29 ตุลาคมนี้ เวลา 08.00-21.00 น. ทุกวัน สำหรับการเปิดให้ประชาชนเข้าลงนามแสดงความอาลัยระหว่างนี้ ถึงวันที่ 28 ตุลาคม ขอให้รับบัตรคิวที่จุดแจกบัตรคิวบริเวณกลางสนามหลวง โดยจัดให้เข้าแสดงความอาลัยเป็นรอบ รอบละ 100 คน วันละประมาณ 40,000 คน ส่วนวันที่ 29 ตุลาคมเป็นต้นไป คาดว่าจะสามารถเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพได้ขั้นต้นวันละประมาณ 10,000 คน ทั้งนี้ สำหรับประชาชนในต่างจังหวัดหากเดินทางเป็นหมู่คณะสามารถติดต่อขอลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่จุดประสานงานของแต่ละจังหวัด

น.ส.ตรีดาวแถลงอีกว่า กทม.ได้เพิ่มเต็นท์กลางสนามหลวงเพื่อเป็นจุดพักคอย 2 หลัง มีที่นั่งพักหลังละ 900 ที่นั่ง พร้อมทั้งเพิ่มเต็นท์สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ รวมทั้งเพิ่มรถสุขาสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการอีก 2 คัน เพื่อสมทบกับรถสุขาที่จัดไว้ก่อนหน้า 36 คัน สามารถรองรับประชาชนได้เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังสามารถใช้บริการห้องสุขาได้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และวัดมหาธาตุฯ ส่วนเรื่องที่พักนั้น ได้จัดที่พักไว้ให้ 3 แห่ง ได้แก่ 1.อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง รองรับได้ 500-600 คน พร้อมจัดรถรับส่งในเวลา 20.00 น. และเวลา 22.00 น. 2.บ้านอิ่มใจ 50-60 คน และ 3.สนามม้านางเลิ้ง ประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ทุกวันที่กองอำนวยการฯ ส่วนประชาชนที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะ หากต้องการที่พักสามารถติดต่อลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือที่กองอำนวยการร่วม กทม. บริเวณสนามหลวง โทร.09-6870-7242

ด้าน พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าฯกทม.แถลงว่า กทม.ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) รอบสนามหลวงครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันมิจฉาชีพและเด็กหายในบริเวณสนามหลวง ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ปกครองที่นำเด็กไปด้วยเขียนชื่อเด็ก ชื่อผู้ปกครอง พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ไว้ให้เด็กพกติดตัว เพื่อความสะดวกในการติดต่อกรณีพลัดหลงกับผู้ปกครอง และว่า มีรายงานเด็กพลัดหลงจำนวนหนึ่ง แต่สามารถตามตัวคืนให้ผู้ปกครองได้ทั้งหมด

ขณะที่นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.แถลงว่า กทม.ได้ประกาศให้พื้นที่รอบสนามหลวงเป็นพื้นที่ปลอดการพาณิชย์ โดยที่ผ่านมาได้มีการตักเตือนผู้ค้าไปแล้ว แต่ผู้ค้าหลายรายยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนและยังนำสินค้ามาขาย เช่น การจำหน่ายสินค้าและอาหารบริเวณทางเท้า ตั้งโต๊ะบริเวณทางเท้า นอกจากนี้ ยังตรวจพบสินค้าที่นำมาจำหน่ายหลายประเภทไม่เหมาะสม เช่น จำหน่ายพระบรมฉายาลักษณ์ ขอย้ำว่า กทม.ไม่อนุญาตให้ทำการค้าขายในท้องสนามหลวงและบริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง หากพบเห็นจะจับกุมและใช้มาตรการเด็ดขาดตามกฏหมาย

นางวรรณวิไล พรหมลักขโณ รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนเดินทางมายังท้องสนามหลวง เฉลี่ยวันละ 80,000 คน อาหารและเครื่องดื่มที่ประชาชนนำไปบริจาคยังสามารถให้บริการได้เพียงพอ สำหรับประชาชนที่นำอาหารไปบริจาคเพิ่มเติมเป็นรายวัน ขอให้ลงทะเบียนที่ศูนย์ประสานงานอาสาสมัคร โดยมีจุดลงทะเบียนที่หอประชุมศรีบูรพา บริเวณทางเข้าประตูตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)

นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าฯกทม.แถลงว่า ขณะนี้ไม่อนุญาตให้รถทั่วไปจอดในพื้นที่สนามหลวง ยกเว้นรถที่ขนส่งวัตถุดิบประกอบอาหารอนุญาตให้เข้าบริเวณท้องสนามหลวงก่อนเวลา 05.30 น. หากหลังจากนั้นขอให้ประชาชนที่นำอาหารมาบริจาคนำรถไปจอดที่สนามม้านางเลิ้ง จะมีรถของ กทม.ช่วยลำเลียงวัตถุดิบให้ฟรี