คุณยายวัย 84 ตรอมใจหลังรู้ข่าวสวรรคต ซึมเศร้า-แขนขาอ่อนแรงถึงขั้นเข้ารพ.

พบคุณยายที่สามร้อยยอดวัย 84 ปี ตรอมใจหลังทราบข่าวในหลวงสวรรคต จนแขนขาอ่อนแรง กินข้าวไม่ได้ พม. และ สสจ.ต้องส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วรุดเยี่ยมพร้อมเยียวยาสภาพจิตใจ

วันที่ 24 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีผู้สูงอายุล้มป่วยด้วยอาการตรอมใจหลังทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับ นางปนัดดา  วงศ์ภูมิ  พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายแพทย์สุรินทร์   สืบซึ้ง  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  นำทีมเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็ว ออกเยี่ยมประชาชนหลังได้รับแจ้งว่า คุณยายพวงเงิน แตงจุ้ย  วัย 84 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 2 ต.ไร่ใหม่  อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์  ล้มป่วยด้วยอาการซึมเศร้า จนร่างกายอ่อนแรง  หลังทราบข่าวการสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  โดยมี ว่าที่ร้อยตรีดนัย ปาน้อยนนท์  นายกเทศมนตรีเทศบาลไร่ใหม่ ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  ได้เดินทางไปเยี่ยมด้วยความเป็นห่วง เบื้องต้นพบว่าคุณยาย เริ่มมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นมาก แม้จะยังคิดถึงในหลวงอยู่

คุณยายพวงเงิน แตงจุ้ย เล่าว่า เสียใจที่ในหลวงทรงจากไป ตนเองคิดถึงทุกวัน ปกติจะกราบท่านทุกคืน ท่านทำงานหนักเพื่อคนไทย และคุณยายก็บอกว่าสามารถทำใจยอมรับความจริงได้เพราะคนเราเมื่อถึงเวลาก็ต้องไป แต่ยังคิดถึงอยู่ทุกคืน  และเมื่อในหลวงจากไปแล้ว คุณยายก็ได้แต่ขออวยพรให้ท่านมีความสุขไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

นางปาริษา  แตงจุ้ย  ลูกสะใภ้ เล่าให้ฟังว่า  ก่อนวันสวรรคตมีข่าวมา คุณยายก็ไม่สบายใจบอกให้เปิดข่าวในหลวงให้ดูหน่อย  ตนเองจึงบอกไปว่าไม่จริงหรอก เป็นข่าวลือ แต่พออีกวันมีแถลงการณ์เรื่องการสวรรคต คุณยายก็มีอาการเศร้าเสียใจทันที และคืนนั้นก็ไม่ยอมนอนเลย ไม่ทานอาหาร ทำให้ไม่มีแรง  จากที่เคยแข็งแรงดี  สามารถเดินเข้าไร่เองได้แต่กลับไม่มีแรงและไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ ครอบครัวเลยรีบพาไปหาหมอเพื่อฉีดยาบำรุง และพักดูอาการที่โรงพยาบาลอยู่ 2 คืน  ตอนนี้ก็ยังมีอาการเวียนศีรษะอยู่บ้าง แต่ก็ดีขึ้นมากแล้ว

นายแพทย์สุรินทร์  สืบซึ้ง  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ได้ให้คำแนะนำเรื่องของการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะเสี่ยงโรคซึมเศร้าว่า  ในช่วงนี้พยายามให้มีการยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น  พยายามอย่าดูสื่อมาก แต่ก็ต้องมีการแจ้งข่าวเป็นระยะๆ เพื่อให้ภาวะเครียดลดลง แต่ที่สำคัญที่สุดในช่วงนี้อยากให้ลูกหลานที่คิดว่าผู้สูงอายุที่บ้านจะมีความเครียด ให้อยู่ดูแล ให้กำลังใจ ที่สำคัญถ้าเป็นไปได้อย่าให้ผู้สูงอายุอยู่คนเดียว หากพบความผิดปกติให้รีบพาไปพบแพทย์หรือปรึกษาเจ้าหน้าที่ อสม. ,รพ.สต. หรือที่โรงพยาบาลทุกแห่ง

ทางด้าน นางปนัดดา  วงศ์ภูมิ  พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า  ข่าวการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของแผ่นดินไทย ทำให้ประชาชนเศร้าสลด กันเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีความผูกพันอยู่กับสถาบันพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ความอาลัยรักอาจทำให้ผู้สูงอายุล้มป่วย ซึ่งกลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีสภาพจิตใจที่เปราะบางจึงควรต้องดูแลมากเป็นพิเศษ ซึ่งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้จับมือกับสาธารณะสุขจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกดูแลประชาชน โดยจะต้องมีการคัดกรองผู้ป่วยที่สภาพจิตใจย่ำแย่ และนำเข้าสู่กระบวนการรักษา โดยสิ่งสำคัญคือของให้ครอบครัวและลูกหลานดูแลผู้สูงอายุมากเป็นพิเศษ เพื่อจะทำให้สภาพจิตใจของผู้สูงอายุดีขึ้นโดยเร็วที่สุด

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์