นายณัฐพล กัปปิยจรรยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นีโอ สุกี้ไทยเรสเทอรองส์ จำกัด เจ้าของแบรนด์นีโอ สุกี้ เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ทำแคมเปญการตลาด ผ่านเทศกาลบักกุ๊ดเต๋ สิงคโปร์ ซึ่งมีเมนูใหม่ให้เลือกอย่างหลากหลาย โดยเทศกาลนี้จัดไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2561 จนถึงปลายไตรมาส 1 ของปี 2562 ปรากฏว่าลูกค้าให้การตอบรับดีมาก

“ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาให้หัว คือ เราจะทำอย่างไรให้ลูกค้ารู้สึกสนุก สีสันสดใส ไปกับการรับประทานสุกี้ในร้าน อยากให้ลูกค้าทุกคนสนุกไปกับอาหารที่สั่งมา เมนูอาหารที่อยู่ในเทศกาลอาหารรอบนี้จึงถูกตั้งชื่อเครื่องเล่นต่างๆ เน้นความสดใส และมีการจัดวางหรือเกี่ยวข้องกับเครื่องเล่นนั้นๆ ด้วย เพราะอยากให้ลูกค้าคิดถึงช่วงเวลาที่เข้าไปสวนสนุก และทดลองเล่นเครื่องเล่น” นายณัฐพล กล่าว

สำหรับ ไฮไลต์ของเทศกาลนี้คือเมนู “Merry Go Round หรือ ชุดม้าหมุนหรรษา” ชุดสุกี้ที่มีเมนูในเทศกาลทั้งหมดเรียงเป็นรูปม้าหมุน นอกจากนี้ยังมีชุด “Lucky Bags เกี๊ยวกุ้งเสี่ยงทาย” โดยใน 1 จาน ไส้เกี๊ยวมี 2 แบบ เป็น กุ้ง และ หมู ให้ลูกค้าได้เสี่ยงโชคว่า ใครจะได้ทาน กุ้ง หรือ หมู และยังมี “Viking Shrimp กุ้งไวกิ้ง” เวลานำไปลวกตัวกุ้งในแป้งเกี๊ยวจะโค้งงอให้ความรู้สึกคิดถึงเครื่องเล่นไวกิ้งที่สวนสนุก ส่วนทีเด็ดในฝั่งของหวานก็จะมีนาโช่ที่เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม ซึ่งเป็นของหวานประจำเทศกาล Carnival ในต่างประเทศ

นอกจากนี้ยังใส่เมนูอาหารทานเล่นแบบประเภท Finger Food หรือ เมนูที่สามารถใช้มือหยิบทานได้เลยอยู่กล่องกระดาษเหมือนเวลาที่เดินเล่นเดินกินอยู่ในสวนสนุก

อย่างไรก็ตาม แคมเปญการตลาดดังกล่าวถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ และนีโอสุกี้จะไม่เน้นแข่งขันด้านราคา แต่จะเน้นความแปลกใหม่ สำหรับเทศกาล Carnival เริ่มแล้วทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ไปจนถึง 31 สิงหาคม 2562

ทั้งนี้ ปัจจุบันภาพรวมตลาดสุกี้ในเมืองไทยมีมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องปีละ 10% เนื่องจากเทรนด์ของอาหารสุขภาพกำลังมาแรง จึงทำให้ร้านอาหารประเภทสุกี้ ซึ่งถือเป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภค

ขณะที่ภาพรวมของนีโอสุกี้ ในปี 2562 มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น เพราะกำลังซื้อ และเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น หลังมีการเลือกตั้ง แล้วเสร็จ และจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ในเร็วๆ นี้ จะส่งผลดีต่ออารมณ์ในการจับจ่ายให้ดีขึ้นตามลำดับ โดยเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมาธุรกิจเติบโตกว่า 12-15% หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 370 ล้านบาท สำหรับปัจจัยการเติบโต มาจากการขยายสาขาเพิ่มต่อเนื่อง บวกกับเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง รวมถึงการทำแคมเปญการตลาดใหม่ๆ รวมถึงการควบคุมต้นทุนค่าแรง รวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างรัดกุม

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทมีแบรนด์ร้านอาหารอยู่ทั้งหมด 3 แบรนด์ ได้แก่ นีโอสุกี้ ประเภทร้านสุกี้โฮมเมด จำนวน 21 สาขา กังฟู ประเภทร้านอาหารหมูตุ๋นหม้อไฟ จำนวน 1 สาขา และซุนวู ประเภทบาร์บีคิว ปิ้งย่าง จำนวน 1 สาขา