ยังขายได้ปกติ! ผู้ประกอบการยัน รถหัดเดินไม่อันตรายหากดูแลใกล้ชิด ใช้ถูกวิธีมีประโยชน์

ยังขายได้ปกติ! ผู้ประกอบการยัน รถหัดเดินไม่อันตรายหากดูแลใกล้ชิด ใช้ถูกวิธีมีประโยชน์

จากกรณีเมื่อเร็วๆ นี้ เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 10 ล้อ ทับเด็กเสียชีวิต เหตุเกิดจากแม่เด็กใส่ลูกวัย 8 เดือนไว้ในรถหัดเดิน แต่รถเกิดไหลจากเนินหน้าบ้านลงไปที่ถนน ทำให้รถบรรทุกที่ขับผ่านมาหักหลบไม่ทันและทับเด็กเสียชีวิต นับเป็นข่าวเศร้าสะเทือนใจเป็นอย่างมาก

“เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” สำรวจความเห็นผู้ประกอบการในแวดวงเครื่องใช้เด็กอ่อน โดยผู้ค้าวัย 35 ปี จากเพจจำหน่ายรถหัดเดิน ให้สัมภาษณ์ว่า ข่าวที่ออกมายังไม่ส่งผลกระทบกับยอดขาย แต่อาจจะเงียบเพราะช่วงนี้ใกล้เปิดเทอม

อย่างไรก็ตาม กรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ในมุมมองของคนขายของนั้น เธอให้ความเห็นว่า ต้องแยกออกเป็น 2 ประเด็น ประเด็นแรก อยู่ที่ตัวผู้ปกครองที่ดูแลน้อง ไม่มีการดูแล เอาใจใส่ลูกเท่าที่ควร จึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ที่พ่อแม่ทุกคนไม่อยากให้เกิด ประเด็นสองที่ว่า รถหัดเดินหรือรถพยุงตัวไม่เหมาะสำหรับหัดเดินนั้น อยู่ที่การใช้งานของผู้ปกครองแต่ละคน ซึ่งส่วนมาก ลูกค้าที่มาซื้อ จะนำไปใช้เป็นรถนั่ง เวลาป้อนข้าวลูกเสียส่วนใหญ่

ส่วนที่มีงานวิจัยออกมาบอกว่า รถเข็นเด็กทำให้เด็กมีพัฒนาการในการหัดเดินช้า โดยเด็กจะใช้นิ้วเท้าในการเดินซึ่งส่งผลให้เดินโดยการเขย่งนิ้วไปจนโต ส่วนตัวเธอทราบแต่เพียงว่า การหัดเดินของเด็กเริ่มจากส้น แต่รถหัดเดินทำให้เด็กเริ่มจากปลายเท้าซึ่งผิดวิสัยของการเดินปกติ แต่ก็ยังไม่เคยเห็นคนเดินเขย่งเท้าตามท้องถนน

ส่วนแม่ค้า อีกรายที่สองให้สัมภาษณ์ว่า ข่าวที่ออกมายังไม่ส่งผลกระทบกับยอดขาย ยังสามารถขายได้ปกติ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับรถหัดเดิน แต่เป็นเพราะความประมาทของผู้ปกครองมากกว่า โดยแม่ค้ารายนี้ยังบอกอีกว่า รถหัดเดิน ถ้าใช้ให้ดีก็เป็นประโยชน์เหมือนกัน เช่นใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการป้อนอาหารลูก เป็นต้น

และเรื่องที่มีงานวิจัยออกมาระบุ การใช้รถเข็นช่วยพยุง ทำให้เด็กมีพัฒนาการการเดินช้าส่งผลไปถึงการเดินในตอนโต เธอไม่ทราบว่าจริงแท้แค่ไหน แต่ก็ยังไม่เคยเห็นเด็กเดินเขย่งเท้ากัน อีกทั้งการใช้รถเข็นแล้ว จะมักทำเกิดอุบัติเหตุนั้น ตนมองว่าหากอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด ก็ช่วยลดอุบัติเหตุ หรือไม่เกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้