ร้านค้า ค้าน! ยกเลิกใส่ชุด นร. ห่วงเด็กแข่งกันแต่งตัว ยิ่งแพงกว่าเก่า

ร้านค้า ค้าน! ยกเลิกใส่ชุด นร. ห่วงเด็กแข่งกันแต่งตัว ยิ่งแพงกว่าเก่า

จากกรณีข่าวที่ คุณมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ยกเลิกใส่ชุดนักเรียนทั่วประเทศ โดยอ้างว่าเป็นการลดภาระให้กับผู้ปกครอง รวมทั้งสร้างบรรทัดฐาน และความเสมอภาคของเด็กนักเรียนด้วย 

คุณปอ-คณินธร มณีธรรมนิตย์ ผู้จัดการทั่วไป ห้างหุ้นส่วนจำกัด คอตตอน สปอร์ต ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ชุดนักเรียน คอตตอน สปอร์ต ดำเนินธุรกิจร่วม 20 ปี ผลิตเสื้อนักเรียนส่งห้างค้าปลีกบิ๊กซี สาขากรุงเทพฯ และปริมณฑล 34 สาขา มีรายได้หมุนเวียนในธุรกิจกว่า 20 ล้าน ให้ความเห็นว่า กรณีดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อกิจการแน่นอน แนะว่าถ้าต้องการยกเลิกชุดนักเรียนจริงๆ ควรทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรยกเลิกในทันที ต้องแจ้งล่วงหน้าหรือปรับใช้ก่อน เพราะนอกจากกระทบต่อธุรกิจ ยังส่งผลถึงผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่ซื้อชุดนักเรียนแล้ว

ด้าน คุณสุดาลักษณ์ อักฌราศิวโรจน์ เจ้าของร้านสุพัตรา จำหน่ายชุดนักเรียนมายาวนานร่วม 30 ปี ให้ความเห็นว่า โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการเสนอให้ยกเลิกใส่เครื่องแบบนักเรียนทั่วประเทศ เพราะนิสัยคนไทยส่วนใหญ่มักติดแบรนด์ ชุดนักเรียนบางคนยังเลือกซื้อยี่ห้อดัง หากมีกฎหมายยกเลิกการใส่ชุดนักเรียนแล้วอาจทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมทางสังคม

“คิดว่าแนวทางนี้ยังเป็นไปได้ยาก เป็นเพียงความเห็นของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น บริษัทหรือร้านค้าใหญ่ๆ ที่อยู่ในวงการชุดนักเรียนคงไม่ปล่อยให้ล้มกันง่ายๆ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง คงส่งผลกระทบโดยตรง เพราะขายแต่เสื้อผ้านักเรียนมาโดยตลอด อาจต้องปรับตัวกันใหม่ แต่กว่าจะถึงวันนั้นคงต้องฝ่าด่านขาใหญ่อีกหลายเจ้า”

รูปจากเฟซบุ๊ก : ร้านกึกก้องรุ่งทรัพย์-ชุดนักเรียนตราสมอ-ปาร์ตี้ชุดนักเรียนแฟนซี

สอดคล้องกับ คุณโบ๊ท-ธนเชษฐ์ ศรีนวลจันทร์ ทายาทรุ่นสอง ร้านกึกก้องรุ่งทรัพย์ ซึ่งดำเนินกิจการขายชุดนักเรียนมากกว่า 40 ปี ระบุว่า หากมองในฐานะบุคคลทั่วไปยังอยากให้มีการใส่เครื่องแบบนักเรียนอยู่ อย่างน้อยๆ จะได้ไม่มีการแบ่งแยกกัน ถ้ามองอีกมุม ชุดนักเรียนคือเสื้อผ้าที่ใส่กันในชีวิตประจำวันคล้ายเสื้อผ้าทั่วไปที่ใส่ไปเที่ยว

“ถ้ายกเลิกใส่เครื่องแบบนักเรียนแล้วให้ใส่ชุดไปรเวต ดีไม่ดีในหนึ่งปีเราอาจจะต้องเสียค่าชุดไปรเวตมากกว่าค่าชุดนักเรียนด้วยซ้ำ อย่างไปเดินสยามพารากอน หรือ จตุจักร เห็นเสื้อสวยๆ เด็กก็อยากซื้อ ต่างกับชุดนักเรียนที่ซื้อครั้งเดียวใส่ได้ 1-2 ปี  ซึ่งเป็นราคาที่กระทรวงพาณิชย์ยังตรึงไว้อยู่แล้ว แต่ละแบรนด์ราคาไม่หนีกันมาก แต่ชุดไปรเวตอาจมีราคาแพงกว่าชุดนักเรียนด้วยซ้ำ สื่อเดี๋ยวนี้ทั่วถึง แฟชั่นมีเยอะแยะ เด็กอาจแต่งตามดารา ตามกระแสเกาหลีก็เป็นได้”

ส่วนมุมมองในฐานะผู้ประกอบการ ยังมองว่าการใส่ชุดนักเรียนยังเป็นเรื่องจำเป็น อย่างน้อยๆ ชุดนักเรียนก็เป็นเครื่องบ่งบอกถึงความเป็นตัวตน สถาบัน ความเป็นเด็ก-ผู้ใหญ่ บุคคลทั่วไป ถ้าบางโรงเรียนไม่ได้เข้มงวด ไม่ต้องใส่ชุดนักเรียนมา ยิ่งคาดเดาได้ยากว่า เด็กคนนี้ไปโรงเรียนหรือเปล่า มาเดินตามห้างฯ ได้อย่างไร

“ถ้ามาตรการนี้เกิดขึ้นจริง แน่นอนย่อมส่งผลกระทบอยู่แล้ว เพราะชุดนักเรียนคือธุรกิจหนึ่ง แต่ยังมีความเชื่ออยู่ว่าเป็นไปได้ยาก จากกระแสโซเชียลเกือบ 90% ยังไม่เห็นด้วย ถึงเกิดขึ้นคงไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่นอน”