จับแล้ว! หนุ่มหื่นเมายา ล็อกคอหอมแก้ม-ลูบก้นสาว กลางสี่แยกเมืองอุบลฯ รับละอายใจ

จับแล้ว! หนุ่มหื่นเมายา ล็อกคอหอมแก้ม-ลูบก้นสาว กลางสี่แยกเมืองอุบลฯ รับละอายใจ

จากกรณีมีการเผยแพร่ภาพกลุ่มวัยรุ่นที่เล่นสงกรานต์ ตรงเข้ามากอดหอมแก้มและใช้มือลูบบริเวณก้นของหญิงสาว ที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากับเพื่อนสาว ขณะจอดติดไฟแดงบริเวณสี่แยกถนนเขื่อนธานีตัดกับถนนอุปราช ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อมุ่งหน้าเข้าไปร่วมเล่นสาดน้ำสงกรานต์ที่ถนนดอกไม้และสายน้ำที่สำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานีจัดขึ้น เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 เม.ย. นั้น

หลังคลิปเผยแพร่ออกไป พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาคผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี สั่งการให้ พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุลย์ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี และ พ.ต.ท.ศิริพงษ์ สุดา รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ออกสืบสวนติดตามชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดี แม้หญิงสาวในภาพจะไม่ได้เข้าแจ้งความ แต่เนื่องจากพฤติกรรมชายคนดังกล่าวกระทำไม่เหมาะสม และสร้างความเสื่อมเสียแก่ภาพลักษณ์ของ จ.อุบลราชธานี เพราะเป็นการอนาจารต่อหน้าธารกำนัล เป็นคดีอาญาที่เจ้าหน้าที่สามารถเป็นเจ้าทุกข์ได้เอง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 เม.ย. ชุดสืบสวนได้เข้าควบคุมตัวนายพิพัฒน์พงษ์ สิงห์แสน อายุ 29 ปี เป็นช่างก่อสร้าง ขณะพักอยู่บ้านเลขที่ 1/1 บ้านโนนรัง หมู่ 3 ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ มารับทราบข้อกล่าวหาว่า กระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท

หลังการสอบสวนนายพิพัฒน์พงษ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยบอกว่ารู้สึกละอายใจ พร้อมทั้งกล่าวขอโทษผู้เสียหายที่เจ้าหน้าที่เชิญตัวมาให้ปากคำในฐานะผู้เสียหาย โดยผู้ต้องหาระบุว่า สาเหตุเกิดจากความคึกคะนองและเมาสุรา โดยสารภาพว่า ได้นั่งอยู่บริเวณท้ายกระบะรถสงกรานต์ พร้อมกับเพื่อนวัยรุ่น และเห็นผู้เสียหาย นั่งซ้อนท้ายมากับเพื่อน ตั้งแต่รถวิ่งขึ้นสะพานเสรีประชาธิปไตย และมีการพูดจาเกี้ยวพาราสีกัน

เมื่อรถของผู้เสียหายและเพื่อนมาจอดติดไฟแดงใกล้กันที่สี่แยกดังกล่าว กลุ่มเพื่อนได้ลงจากรถไปสาดน้ำและปะแป้ง ส่วนนายพิพัฒน์พงษ์ ก็ถือโอกาสลงไปกอดคอผู้เสียหาย พร้อมกับหอมแก้มและใช้มือลูบไปที่ก้น เมื่อไฟเขียว เพื่อนของผู้เสียหายก็ขับรถออกไป นึกไม่ถึงจะมีเรื่องตามมา

หลังเจ้าหน้าที่นำตัวนายพิพัฒน์พงษ์ไปตรวจหาสารเสพติด พบมีผลเป็นบวก โดยผู้ต้องหาสารภาพว่า เพิ่งเสพยาบ้าไปเมื่อ 2 วันก่อน และก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาเคยถูกจับดำเนินคดีฐานครอบครองอาวุธปืน ถูกศาลสั่งจำคุก 9 เดือน และปรับ 6,000 บาท

ด้านผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเป็นคน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี แต่ไปทำงานอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ  และลากลับบ้านมาเที่ยวงานสงกรานต์ โดยวันเกิดเหตุ ตนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ข้ามสะพานแม่น้ำมูล ซึ่งระหว่างนั้นรถชะลอตัว นายพิพัฒน์พงษ์ได้พยายามจะเข้ามาหอมแก้มตนแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตนสะบัดตัวหลบได้

แต่เมื่อรถลงจากสะพานมาติดสัญญาณไฟแดงอยู่ใกล้กัน นายพิพัฒน์พงษ์ได้เข้ามาล็อกคอและหอมแก้มตนอีกครั้ง ซึ่งตนได้ใช้มือตีไปที่ไหล่นายพิพัฒน์พงษ์ และไม่คิดว่ามีคนถ่ายคลิปเอาไว้ เมื่อสัญญาณไฟเขียว เพื่อนก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์แยกจากกลุ่มของนายพิพัฒน์พงษ์ ไปเล่นสาดน้ำที่ถนนดอกไม้และสายน้ำที่อยู่ใกล้กับสี่แยกดังกล่าว

ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า แม้ไม่ได้เข้าแจ้งความหลังเกิดเหตุ แต่ตนก็รู้สึกไม่พอใจที่นายพิพัฒน์พงษ์ ถือโอกาสมาลวนลาม ถ้าปะแป้งธรรมดาก็ไม่เป็นไร ส่วนเรื่องคดีความก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมายต่อไป