ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
หมอธีระวัฒน์ เสนอ 13 ข้อ ‘กัญชา’ การครอบครองต้องดูวัตถุประสงค์
เมื่อวันที่ 7 เมษายน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudhaระบุว่า
ความเห็นเรื่องกัญชา
1-ถือเป็นพืชสมุนไพรประจำบ้านสามารถปลูกและ/หรือครอบครองและใช้เพื่อประโยชน์ตนเองและครอบครัวรวมกระทั่งถึงสามารถแบ่งปันให้กับชุมชนได้
2- บุคคลเดี่ยว หรือครอบครัวตามหัวข้อที่หนึ่ง ต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ทั้งนี้โดยที่ปริมาณของกัญชาที่ครอบครองไม่ว่าจะมากกว่าหรือน้อยกว่า 10 กิโลกรัม ถ้าสามารถชี้แจง วัตถุประสงค์ของการปลูก สกัดและการใช้ รวมทั้งการแจกจ่ายได้
3- กระบวนการของบุคคลหรือครอบครัวตามข้อหนึ่งและข้อสอง สามารถได้รับการอนุมัติและถูกตรวจสอบและติดตามได้โดยโปร่งใสและเป็นไปด้วยความสะดวกทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของคนในพื้นที่
4- กระบวนการอนุมัติดังข้อสามสามารถกระทำได้โดยติดต่อด้วยวิธีการหลายทางทั้งทางจดหมาย โทรสารจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีทางโซเชียลซึ่งสามารถส่งข้อมูลได้โดยสะดวก
5- หน่วยงานที่ทำการอนุมัติติดตามและตรวจสอบต้องเป็นหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใสและมีองค์กรภายนอกคอยตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริต
ด้วยลักษณะดังกล่าวไม่จำเป็นต้องเป็นสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาซึ่งขาดคุณสมบัติโดยรวมดังกล่าวหลายข้อ ทั้งนี้อาจจะเป็นสภาเกษตรกรเป็นต้น
6- ต้องมีการประกาศโดยด่วนถึงการที่ต้องให้กันชง รวมทั้งสารสกัด(ไม่ว่าจะด้วยกระบวนการใดๆ ) ที่สารออกฤทธิ์เป็น CBD เป็นส่วนใหญ่ ออกจากการเป็นยาเสพติดโดยสิ้นเชิงและจัดเป็นยา
7- ต้องมีการประกาศโดยด่วนถึงการที่ต้องให้กัญชารวมทั้งสารสกัด ( ไม่ว่าด้วยกระบวนการใด) ที่สารออกฤทธิ์เป็น THC ออกจากการเป็นยาเสพติดและจัดเป็นยา ทั้งนี้ยังคงต้องมีกระบวนการติดตามเพื่อประเมินการใช้ และมีการส่งเสริมให้ใช้อย่างถูกวิธีทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาทางจิตโดยเฉพาะในคนที่มีภาวะเปราะบาง ทางพันธุกรรม อยู่แล้ว
8- จัดตั้งหน่วยงานเพื่อรับรองความสะอาดของผลิตภัณฑ์กัญชาว่าปราศจากสารเคมีกำจัดแมลงและวัชพืชรวมทั้งถึงสารโลหะหนักปนเปื้อนจากดิน โดยหน่วยงานดังกล่าวจะทำงานบริการให้ประชาชนทั่วไปโดยไม่คิดมูลค่า
9- กระบวนการของหน่วยงานในข้อแปดสามารถกระทำได้ตั้งแต่การสร้างมาตรฐานของการปลูกโดยวิธิการง่าย สะดวกประหยัด การประเมินคุณภาพของดินในพื้นที่การเพาะปลูก แม้กระทั่งถึงการจัดหาดินบริสุทธิ์เพื่อการปลูก ของบุคคลเดียวหรือของครอบครัว ทั้งนี้โดยไม่จำเป็นจะต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการหาสารเคมีในทุกตัวอย่างเสมอไป
10- การสร้างหลักสูตรการอบรมแพทย์แผนปัจจุบันเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและแพทย์แผนไทยต้องมีบุคคลผู้เชี่ยวชาญในการเพาะปลูก สกัด และการพัฒนาสายพันธุ์ โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดวุฒิการศึกษา แต่เป็นผู้รู้ และเป็นผู้ดำเนินการให้ชุมชนส่วนรวมมาตลอดโดยมิได้กระทำโดยมุ่งหวังผลกำไรในเชิงพาณิชย์
11- สืบเนื่องจากข้อห้าหน่วยงานที่ทำการอนุมัติและติดตามจะต้องสามารถรวบรวมข้อมูลจากทั่วประเทศได้ และสามารถประมวลข้อมูลของผู้ใช้ที่ได้รับยากัญชาจากแหล่งต่างๆไม่ว่าจากในพื้นที่หรือในสถานพยาบาล ร้านยา เป็นต้นทั้งนี้เพื่อสามารถทำการวิเคราะห์ประสิทธิภาพประสิทธิผล ผลข้างเคียงและประโยชน์ซึ่งอาจจะมีมากกว่าที่เคยได้รับทราบกันมาก่อน
12- ข้อมูลจากข้อ 11 เมื่อนำมาควบรวมกับตำรับแพทย์แผนไทยสามารถนำมาวิเคราะห์ถึงสารออกฤทธิ์ชนิดต่างๆด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นลึกและนำมาสู่การได้ตำรับยาแผนปัจจุบัน โดยมีความคงตัวและความคงที่ของสัดส่วนของสารออกฤทธิ์แต่ละตัวที่ให้ผลสูงสุดในภาวะต่างๆรวมทั้งถึงโรค ต่างๆ ในระยะการดำเนินของโรคตั้งแต่ระยะต้นจนกระทั่งถึงระยะท้าย
13- กระบวนการขั้นสูงสุดอยู่ที่การให้ทราบถึงสารออกฤทธิ์ในกัญชาและสายพันธุ์ที่มีผลในการส่งเสริมสุขภาพโดยยังไม่เกิดโรคใดๆ โดยเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่ยืดชีวิตให้ได้นานที่สุดใกล้อมตะโดยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บ