ททท. เล็งชง ‘สมคิด’ ขอยืดเว้นวีซ่า ยาวถึงวันชาติจีนเดือนต.ค. หวังกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยว

ททท. เล็งชงสมคิดขอยืดเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ยาวถึงวันชาติจีนเดือนต.ค. หวังกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยว คงเป้าโต 11.5% หรือทั้งปี 3.4 ล้านล้านบาท

ททท. เล็งชง ‘สมคิด’ ขอยืดเว้นวีซ่า – นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น ต่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะเดินทางมามอบนโยบายแก่คณะกรรมการและผู้บริหาร ททท. ในวันที่ 5 เม.ย. 2562 โดยจะเสนอเรื่องขยายเวลามาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival : VoA) สำหรับชาวต่างชาติ 20 ประเทศ อัตรา 2,000 บาทต่อคน ไปจนถึง 31 ต.ค.นี้ หลังจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่ออายุไปอีก 3 เดือน จากเดิมจะหมดอายุมาตรการในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เป็นหมดอายุในวันที่ 31 ก.ค.นี้ เพื่อให้ครอบคลุมช่วงหยุดยาววันชาติจีน

นอกจากนี้ ยังเตรียมเสนอต่อนายสมคิด เรื่องพิจารณาเริ่มใช้มาตรการดับเบิล เอนทรี่ วีซ่า ให้เป็นอีกหนึ่งมาตรการช่วยกระตุ้นการเดินทางซ้ำของนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมขยายเวลาเปิด-ปิดด่านตรวจคนเข้าเมืองตามชายแดนเฉพาะในวันศุกร์เป็น 24 ชั่วโมง เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้า-ออกชายแดนมาเที่ยวไทยได้นานขึ้น

สำหรับการเสนอต่ออายุมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม VoA จะช่วยพยุงรายได้ภาคท่องเที่ยวไทยให้เติบโตเป็นไปตามเป้าหมายภาพรวมปีนี้ที่ 3.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5% จาก 3.04 ล้านล้านบาทของปีที่แล้ว เพราะภาคท่องเที่ยวไทยต้องเผชิญกับปัญหาทั้งภายในและภายนอก คือเรื่องของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าโลกระหว่างสหรัฐและจีน ที่กระทบต่อกำลังซื้อนักท่องเที่ยว รวมถึงความกังวลต่อสถานการณ์การแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร หรือ เบร็กซิต ส่วนเงินบาทแข็งค่า ที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจปรับแผนไปเที่ยวประเทศอื่นซึ่งมีค่าเงินเอื้อต่อต้นทุนการท่องเที่ยวที่ถูกกว่าไทย

ทั้งนี้ การแข็งค่าของเงินบาทยังส่งผลดีต่อตลาดนักท่องเที่ยวไทยไปต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ คาดแนวโน้มคนไทยกลุ่มคนชั้นกลางซึ่งใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวสูงจะนิยมเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น โดยจากตัวเลขประมาณการของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. รายงานว่าจะมีคนไทยไปต่างประเทศในช่วงสงกรานต์มากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงอื่นๆ เฉลี่ยวันละ 40,000 คน

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ททท. ยังคงจับตาพื้นที่ภาคเหนือซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันจนเกิดวิกฤตค่าฝุ่นละอองในช่วง 03.00-11.00 น. จึงคาดว่าจะสูญรายได้ท่องเที่ยว 2,000 ล้านบาท ในช่วงสงกรานต์จาก 3 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟป่า ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน ประกอบกับนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเปลี่ยนแผนการเดินทางไปเที่ยวสงกรานต์ในพื้นที่อื่นเพื่อหลีกเลี่ยงความหนาแน่นในเชียงใหม่ซึ่งเป็นจุดหมายยอดนิยมของการเล่นน้ำสงกรานต์ในทุกๆ ปี

อย่างไรก็ตาม ททท. ยังมองว่าเชียงใหม่จะเป็นจุดหมายยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในปีนี้ โดยจากการสอบถามไปยัง ทอท. เกี่ยวกับปริมาณผู้โดยสาร พบว่าไม่ได้ลดลง แม้ก่อนหน้านี้สายการบินบางกอกแอร์เวย์สจะมีการลดเที่ยวบินไปแล้วก็ตาม แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มเติมว่าจะบริหารเที่ยวบินอย่างไรให้สอดรับกับสถานการณ์