หมอกควันเหนือวิกฤตอีก ผงะ! ไฟป่าโหมพร้อมกัน 9 จว.กว่า 3,088 จุด รับข่าวนายกฯไปเชียงใหม่

หมอกควันเหนือวิกฤตอีก ผงะ! ไฟป่าโหมพร้อมกัน 9 จว.กว่า 3,088 จุด รับข่าวนายกฯไปเชียงใหม่

วันที่ 1 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์มลพิษ ฝุ่นควันในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ว่า ล่าสุดสถานการณ์กลับมาอยู่ในสภาพที่เลวร้ายอีกครั้ง โดยค่าดัชนีคุณภาพอากาศขึ้นสูงอยู่ในระดับไม่ดีอย่างยิ่ง จนถึงอากาศเป็นอันตราย

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 05.00 น. ค่าสูงสุดอยู่ที่สถานีเทศบาลตำบลบ้านแม่ อ.สันป่าตอง ค่า AQI 486 ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 อยู่ที่ 478.49 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ในเขตตัวเมือง สถานีวัดโรงพยาบาล (รพ.) มหาราชนครเชียงใหม่ ต.ศรีภูมิ ค่าAQI อยู่ที่ 244 ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 193.73 มคก./ลบ.ม.

ขณะที่ข้อมูลดาวเทียมระบบ VIIRS ตรวจพบจุดความร้อน Hotspot ภาคเหนือตอนบนสูงมาก จำนวน 3,088 จุด ณ วันที่ 1 เมษายน 2562 เวลา 02.00 น. ได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 981 จุด จ.เชียงใหม่ จำนวน 615 จุด จ.เชียงราย จำนวน 370 จุด จ.ลำปาง จำนวน 302 จุด จ.น่าน จำนวน 219 จุด จ.แพร่ จำนวน 214 จุด
จ.ตาก จำนวน 211 จุด จ.พะเยา จำนวน 116 จุด และ จ.ลำพูน จำนวน 60 จุด

ทั้งนี้ กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือกองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ระบุว่ารายงานข่าวแจ้งว่าการเกิดไฟป่าจำนวนมากขนาดนี้ เกิดขึ้นภายหลังจากที่ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้เดินทางมาที่ จ.เชียงใหม่ ตามการสั่งการของนายกรัฐมนตรี และแจ้งว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาติดตามตรวจสอบการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือด้วยตัวเอง ที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 2 เมษายนนี้ โดยช่วงที่เกิดวิกฤตหมอกควันรุนแรง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีไฟป่าในภาคเหนือรวมกันสูงสุดไม่เกิน 1,000 จุด เท่านั้น

ศ.ขวัญชัย ศุภรัตน์ภิญโญ ผู้อำนวการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) กล่าวว่า เป็นไปตามคาดหมายว่า อากาศจะกลับมาเลวร้ายได้อีก

“วันนี้ 21 พื้นที่ อากาศอันตรายสีน้ำตาล 47 พื้นที่ อากาศไม่ดีอย่างยิ่งสีม่วง พื้นที่ที่เหลืออากาศไม่ดีสีแดงหากช่วงเย็นหรือค่ำ ยังมีการเผาป่าอีก​ เหตุการณ์​ก็จะหมุนกลับมาซ้ำรอยเดิม​ จนกว่าจะควบคุมหรือป้องกันการเผาป่าได้สำเร็จ หรือมีพายุฤดูร้อนจึงจะบรรเทาเบาบางลงไปได้” ศ.ขวัญชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดประชาชนที่อาศัยในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ ต้องเก็บตัวอยู่ในบ้านที่เปิดเครื่องฟอกอากาศ ภายในห้องปิด พบว่าตัวเลขเครื่องฟอกอากาศมีค่าขึ้นสูงถึงกว่า 200 มคก./ลบ.ม. ทำให้ขณะนี้ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เครื่องฟอกอากาศขาดตลาด และกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตไปแล้ว