เผย ว่าที่รัฐบาลเพื่อไทย เปิดกว้าง! เก้าอี้นายกฯ จะเป็น “ธนาธร” หรือ “อนุทิน” ก็ได้

เผย ว่าที่รัฐบาลเพื่อไทย เปิดกว้าง! เก้าอี้นายกรัฐมนตรี จะเป็น ‘ธนาธร’ หรือ ‘อนุทิน’ ก็ได้

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเสียงสูงสุด 137 ที่นั่ง ทิ้งห่างพรรคพลังประชารัฐที่ได้เพียง 97 ที่นั่ง ทำให้ พรรคเพื่อไทย ได้ประกาศตัวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นถือว่ามีความชอบธรรม ได้จำนวน ส.ส.เขต มากที่สุด ตามกติการะบอบประชาธิปไตย แบบรัฐสภา

โดยเมื่อวานนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ประกาศเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ในฐานะพรรคที่ได้ ส.ส.มากที่สุด เผยพรรคร่วมรัฐบาล ต้องมีอุดมการณ์ประชาธิปไตยเป็นหลักการ ไม่เอาการสืบทอดอำนาจ คสช. โดยประเด็นสำคัญ อยู่ที่ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรค ไม่จำเป็นต้องเป็นแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย

ซึ่งหลังจากการแถลงข่าวของพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ โดยธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ก็ได้แถลงข่าวเช่นเดียวกัน โดยระบุว่า ตนนั้นไม่พร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว แต่ตนเห็นว่า ตามหลักการประชาธิปไตยนั้นควรจะให้แคนดิเดตของพรรคการเมือง ที่ได้เสียง ส.ส.มากที่สุดลำดับที่1 คือคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าจะไม่ได้เป็น ส.ส. เพราะกติกาการเลือกตั้งในรอบนี้ บีบให้คุณหญิงสุดารัตน์ ไม่ได้เป็น ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ

นอกจากนี้ มีรายงานว่า แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้พูดคุยและหารือกับแกนนำพรรคการเมืองหลายพรรค อาทิ พรรคอนาคตใหม่ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคเพื่อชาติ และอีกหลายพรรคการเมือง ซึ่งมีจุดยืนซึ่งเคยประกาศไว้ในช่วงหาเสียงว่า ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช. ซึ่งมีหลายพรรค ตอบรับแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุย กับพรรคประชาธิปัตย์ ถึงท่าทีในการร่วมรัฐบาล เนื่องจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เคยประกาศว่า ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ และการสืบทอดอำนาจเช่นกัน โดยพรรคเพื่อไทยนั้น ได้เปิดกว้าง ถึงผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลหน้า ซึ่งหมายความว่า อาจไม่ใช่แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย และ คาดว่า อาจจะเป็นแคนดิเดต จากพรรคภูมิใจไทย (นายอนุทิน) หรือ พรรคอนาคตใหม่ (นายธนาธร)

ทั้งนี้มีรายงานข่าวจากพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย ยังไม่ขอตัดสินใจในช่วงนี้ รอผ่านพ้นงานพิธีสำคัญ และหลัง กกต.รับรองผลอย่างเป็นทางการก่อน