| เผยแพร่ |
|---|
ชาวพิมาย กว่าหมื่นคน ฟัง ปราศรัยพรรคเพื่อไทย สุดารัตน์ ขอประชาชนตัดสินใจ อยากมีชีวิตแบบใด แนะไม่แบ่งคะแนนใครเลือกเพื่อไทยยกจังหวัด
19 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวทีปราศรัยพรรคเพื่อไทย ที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา มีประชาชนและผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยกว่า 10,000 คน ร่วมรับฟังการปราศรัย บนเวทีมีแกนนำขึ้นสื่อสารนโยบาย อาทิ ตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง นายกิตติรัตน์ ณระนอง และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ทันทีคุณหญิงสุดารัตน์ เดินทางมาถึงบริเวณพื้นที่การปราศรัย ทำให้บรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมาก
โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เดินขึ้นเวทีจากบริเวณด้านหลัง เพื่อพูดคุย และ สัมผัสกับพี่น้องประชาชน อย่างใกล้ชิด ใช้เวลากว่า 20 นาที จึงสามารถขึ้นเวทีได้ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวทักทายพร้อมสอบถามความทุกข์ยากประชาชน จากนั้นได้แนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยของแต่ละเขต ขณะเดียวกันได้ สอบถามปัญหาพี่น้องประชาชน ซึ่งพบว่าตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมาต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ
พรรคเพื่อไทยจึงขออาสาเข้ามาแก้ไข ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้น ภายในเวลา 6 เดือน ราคาข้าวหอมมะลิตันละไม่ต่ำกว่า 17,000 บาท ราคามันสําปะหลัง จะต้องไม่ต่ำกว่า 2 บาท 50 สตางค์ ราคาอ้อย จะต้องไม่ต่ำกว่าตันละ 1,000 บาท ซึ่งพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าจะสามารถทำได้เหมือนที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วตลอด17 ปีที่ผ่านมา
พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า จะไม่ยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพราะเป็นสิทธิ ที่พึ่งได้ของพี่น้องประชาชน ขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยจะทำให้ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้น มีรายได้จาก การขายผลผลิต โดยไม่ต้องไปขายที่ดาวอังคารขายที่นครราชสีมาก็รวยได้ พรรคเพื่อไทยจะพักหนี้ให้เกษตรกร ระยะเวลา 3 ปี โดยไม่ต้องใช้เวลาถึง 5 ปีเพราะอยู่กับพรรคเพื่อไทย 3 ปีก็สามารถปลดหนี้ มีรายได้เพียงพอ นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยจะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ตั้งสถาบันสร้างรายได้ ดูแลคนตัวเล็กเกษตรกรเพื่อเป็นการเติมทุนให้คนตัวเล็ก ขายสินค้าเกษตรราคาดี
พรรคเพื่อไทยยังมี มาตรการ ส่งเสริม การออมของประชาชนด้วยนโยบายหวยบำเหน็จซึ่งเป็นการชวนเก็บเงิน ลุ้นรางวัลจากหวยบำเหน็จ เป็นการสะสมเงินไว้ใช้ยามแก่เฒ่าจะได้รับเงินคืนเมื่ออายุครบ 60 ปีพร้อมดอกเบี้ย นอกจากนี้จะพัฒนาโครงการ 30 บาทซึ่งเป็น 30 บาทยุคใหม่ ยาดี รักษาดี ไม่ต้องรอคิว
คุณหญิงสุดารัตน์มองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยถูกเอาเปรียบเพราะฝ่ายผู้มีอำนาจตั้งส.ว.250 คน มาช่วยเลือกนายกรัฐมนตรี โดยที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ดังนั้นพี่น้องจะต้องเอาชนะส.ว.250 คน จึงต้องตัดสินใจว่าอยากมีชีวิตอยู่แบบ 4-5 ปีที่ผ่านมา ก็เลือกพรรคพลังประชารัฐ แต่ถ้าพี่น้องประชาชนไม่พอใจในความเป็นอยู่เหมือน แบบที่ผ่านมา กำลังตัดสินใจเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย
และขออย่าสับสนกับอดีตผู้สมัคร ที่เคยอยู่พรรคเพื่อไทย “อย่าเลือกเพราะกลัวใคร อย่าเลือกเพราะเกรงใจใครไม่ได้ ย้ายไปแล้วไปแต่ตัว แล้วช่วยบ๊ายบายส่งเขาไปแล้วไปโลด” พร้อมยืนยันว่าจะไม่ร่วมงานกับคนเดิมไปแล้วให้ไปลับ “24 มีนาคม ส่งลุงไปดาวอังคาร เอาลุงคืนไป เอาเงินในกระเป๋าขึ้นมา”
