ปิ๊งไอเดีย ‘หมอธี’ หนุนครู ขายออนไลน์หลังเลิกงาน ชูธุรกิจสตาร์ตอัพ – เพิ่มรายได้ ใช้หนี้

ปิ๊งไอเดีย ‘หมอธี’ หนุนครู ขายออนไลน์หลังเลิกงาน ชูธุรกิจสตาร์ตอัพ – เพิ่มรายได้ ใช้หนี้

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพฯ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมและบรรยายพิเศษในการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมา สกสค. สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี มีการจัดสวัสดิการต่างๆ ทั้งเรื่องการดูแลสุขภาพ ที่พัก รวมถึงยังมีเงินเหลือมากพอที่จะทำสวัสดิการเพิ่มให้กับครู ซึ่งเท่าที่ตนสังเกต

ครูมีความทุกข์ในเรื่องกฎหมาย ดังนั้น ตนมีข้อเสนอให้มีฝ่ายกฎหมายอย่างน้อยจังหวัดละ 1 คน เพื่อเข้ามาช่วยดูแลและให้คำปรึกษาเรื่องข้อกฎหมายกับครู เช่นเรื่องเกณฑ์ประเมินการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ การถูกสอบวินัย หรือกรณีมีข้อเรียกร้องต่างๆ ก็สามารถปรึกษาทีมกฎหมายได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนได้พูดคุยกับนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ. ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. แล้ว โดยจะเร่งติดตามเงินที่ธนาคารออมสินหักจากกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) เพื่อชำระหนี้แทนครูที่ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไป ซึ่งยังค้างอยู่ประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาทคืน เพื่อดำเนินการดังกล่าว

“บางคนอาจมองว่าการที่ สกสค. ยกเลิกบันทึกข้อตกลง โดยไม่รับเงินที่ธนาคารออมสินส่งคืนผ่านทางกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ร้อยละ 0.5-1.0% แล้ว สกสค. จะไม่มีเงินมาจัดสวัสดิการให้กับครูนั้น ไม่จริง ตรงกันข้าม หากยิ่งรับกลับ จะยิ่งไม่มีเงิน เพราะธนาคารออมสินหักเงินในส่วนนี้ไปใช้หนี้แทนครูที่ค้างชำระเกิน 3 งวด และขณะนี้ธนาคารออมสินยังไม่ได้คืนเงินให้ สกสค. อีกกว่า 1 หมื่นล้านบาท แม้ธนาคารออมสินจะทยอยคืนเงินมาบ้างแล้ว แต่ก็เป็นเงินแค่หลักร้อยล้าน ดังนั้นต้องเร่งติดตามเงินจำนวนนี้คืนมาให้เร็วที่สุด เพื่อนำมาจัดทำเป็นสวัสดิการให้กับครู ขณะนี้ นายอรรถพลอยู่ระหว่างรวบรวมรายละเอียดจัดทำฐานข้อมูล เพื่อทำข้อตกลงกับธนาคารออมสิน คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้ ผมมีนโยบายไปแล้วว่า จะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ” นพ.ธีระเกียรติ กล่าวและว่า นอกจากนี้ ยังเสนอเปิดช่องทางให้ครูสามารถทำธุรกิจสตาร์ตอัพ ขายของออนไลน์ในช่วงเย็นหลังเลิกงานได้ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ จากเดิมที่มักจะพูดกันมากว่า ครูจะใช้เวลาไปขายตรง เพราะมีหนี้มาก คิดว่าหากส่งเสริมให้ครูมีรายได้เพิ่มหลังเลิกงานจะช่วยแก้ไขปัญหาได้อีกแนวทางหนึ่ง

นายอรรถพล กล่าวว่า สกสค. จะเร่งจัดทำข้อมูล คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน จากนั้นจะส่งให้ธนาคารออมสิน จัดทำข้อมูลให้ตรงกัน ก่อนส่งหนังสือทวงหนี้ครูที่ค้างชำระ ขณะเดียวกัน สกสค. จะประสาน สกสค.จังหวัดให้เร่งติดตามโดยมีเป้าหมายว่า ให้แต่ละจังหวัดติดตามหนี้ให้ได้เท่าไร ซึ่ง สกสค. อยากทวงคืนให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเงินที่ สกสค. จะต้องนำมาจัดสวัสดิการให้ครู