หนุ่มซื้อบ้าน 80 ล.เปิดใจ ผ่อนเกือบ 2 ล./ด. ไร้เอกสาร-ที่ดินอยู่ในน้ำ เจ้าของเที่ยวตปท.สบายใจ

จากกรณีกลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับการแชร์ในโลกออนไลน์อย่างหนัก เมื่อสมาชิกเฟซบุ๊ก Thanaphan Limruaysrap หรือ บอย เคบี เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมยี่ห้อหนึ่ง ได้เล่าประสบการณ์ซื้อบ้านริมทะเลสาบหรู แต่กลับกลายเป็นฝันร้าย และส่อแววว่าจะเกิดปัญหา โดยได้เสียเงินไปแล้วถึง 7.8 ล้านบาท แต่กลับไม่ได้ตามสัญญา

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 มี.ค. นายธนพรรณ ลิ้มรวยทรัพย์ อายุ 23 ปี ได้เปิดใจกับ ข่าวสดออนไลน์ ถึงกรณีที่ได้ตัดสินใจซื้อบ้านหรู ติดทะเลสาบ ในราคา 80 ล้าน แต่ไม่ได้บ้านตามสัญญา ว่า รู้จักโครงการ เพราะพี่ที่สนิทแนะนำมาว่า มีโครงการบ้านติดทะเลสาบเมืองทอง สวยมาก จึงแนะนำให้ไปดู ตนจึงเข้าไปดู และเห็นถึงความสวยงาม ดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร วิวดีมาก ลมโกรก ตนได้ปรึกษาครอบครัว กว่า 1 เดือน จึงคิดว่าอยากจะเข้าไปคุยรายละเอียด จึงมีการคุยรายละเอียดกับเซลส์ ในตอนแรก บ้านราคา 89 ล้าน แต่เซลส์ลดให้ 80 ล้าน วันทำสัญญา วางเงินจองทันที

นายธนพรรณ กล่าวต่อว่า ในวันเซ็นสัญญา ทางเจ้าของโครงการก็มาด้วย และมีการเซ็นสัญญาเพียงคนเดียว ซึ่งตามปกติแล้ว หนังสือบริษัทระบุว่า มีการเซ็น 2 คน แต่ทางเจ้าของโครงการเซ็นคนเดียว นอกจากนี้มีการดึง สเปกบ้านออกไป โดยเป็นเอกสารสำคัญ ที่จะบอกว่า ทางโครงการ สร้างด้วยวัสดุอะไรบ้าง ซึ่งเซลส์ดึงออกไปหมด แล้วบอกว่าบ้านหลังอื่น ไม่ใช่ของเรา จะเอาให้ใหม่ ตนก็มีการถามซ้ำ แต่ก็ไม่เคยได้ จนกระทั่งตอนนี้

จากนั้น ตนก็จะต้องผ่อนค่าบ้าน ทั้งหมด 12 เดือน เดือนละ 1.8 ครบ เป็นเวลา 1 ปี บ้านก็จะเสร็จ ตนจ่ายได้ 1-2 เดือน เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ เอกสารไม่ชัดเจน จึงได้เริ่มปรึกษากับทนาย ซึ่งทางทนายก็ได้ถามว่ามีใบ อนุญาตก่อสร้างและ แบบบ้าน หรือไม่ ซึ่งตนเห็นว่าไม่มี จึงได้ติดต่อไปยังเซลส์ที่ดูแล ทราบว่า ยังไม่ได้ขอ แบบบ้าน ยังไม่ได้ และได้ให้แบบบ้านข้างๆ ตนมา ซึ่งเป็นแบบบ้านคนละฝั่ง แต่เซลส์บอกว่า ลักษณะโครงสร้างเหมือนกัน แต่คนละฝั่ง ให้ไปปรับเอา ตนจึงรู้สึกไม่สบายใจ

ตนได้ตัดสินใจปรึกษากับทางวิศวกร เงินที่จ่ายไป และ โครงสร้างของบ้านสอดคล้องกันหรือไม่ เพราะตอนนี้ ตนจ่ายเงินไปกว่า 7.8 ล้านบาท ซึ่งทางวิศวกรบอกว่าไม่สอดคล้องกัน โครงสร้างบ้านความคืบหน้าช้ามาก ตามปกติแล้ว ทางโครงการบ้าน จะต้องมีเอกสารระบุให้เราทราบว่า เดือนนี้ความคืบหน้าของบ้านจะเป็นอย่างไร แต่ทางโครงการไม่ได้แจ้งเลย และบอกอีกว่า หากไม่จ่าย ก็จะยึดเงินมัดจำ

ตนได้ทราบจากเซลส์ว่า บ้านข้างๆ ก็มีการฟ้องร้องกันอยู่หลายหลังแล้ว ตนจึงได้สังเกต ว่าภายในหมู่บ้าน ไม่มีบ้านหลังไหนสร้างเสร็จเลย บางหลัง ก็เป็นซากคล้ายพื้นที่รื้อถอน นอกจากบ้านของเจ้าของโครงการและบ้านตัวอย่าง นอกจากนี้ ยังทราบว่า เนื้อที่บ้าน ที่ทางโครงการแจ้งว่าจะมีประมาณ 400 กว่าตารางวา ในพื้นที่นั้น เป็นพื้นที่รุกล้ำทะเลสาบด้วย จึงมีการตรวจสอบ พบว่า ทะเลสาบ ไม่ใช้พื้นที่ของโครงการ ตนเห็นว่าทุกอย่างชัดเจนว่าผิด จึงส่งเอกสารไปแจ้งว่าขอยุติสัญญาทันที และได้ดำเนินการฟ้องร้อง จากนั้นทางโครงการจึงรีบสร้างบ้านของตนให้เสร็จเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาทันที

ตนทราบว่า ตนไม่ใช่รายแรกที่เสียหาย ยังมีอีกหลายราย บางรายเป็นคนสนิท จะซื้อเรือนหอให้ลูก แต่กลับเสียหายไป 18 ล้าน มีการฟ้องร้องกว่า 2 ปี แต่ไม่คืบหน้า ตนทราบมาว่า มีคนอยู่เบื้องหลัง จึงไม่สามารถทำอะไรได้ ตนจึงได้ปรึกษาทนายความ และตัดสินใจโพสต์เรื่องราวทันที

นายธนพรรณ กล่าวว่า ภายหลังจากมีการฟ้องร้อง ทางเจ้าของโครงการ ไม่เคยมาไกล่เกลี่ยตามที่ศาลนัด มีเพียงส่งตัวแทนมาเท่านั้น โดยทางเจ้าของโครงการ ยังคงไปเที่ยวต่างประเทศ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และบอกกับทางเพื่อนในเฟซบุ๊กว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง เป็นเพียงเด็กเกเร ที่ผ่อนไม่ไหว จึงสร้างเรื่องขึ้นมา ทันทีที่ตนเห็น ตนรู้สึกโกรธมาก เพราะหากตนไม่พร้อมจริง ตนจะตัดสินใจจองบ้านในราคาสูงแบบนี้ได้ยังไง ซึ่งหลักจากนี้ ตนจะขอให้เป็นกระบวนการในชั้นศาล โดยศาลได้นัดสืบพยาน เดือน มิ.ย.นี้ ช่วงหลังว่าจะมีความคืบหน้าในคดีของตนและตนจะได้รับเงินคืน