บัตรคนจน เงินหมดเกลี้ยง คลังของบเพิ่ม 3 หมื่นล้าน ต่ออายุให้ใช้ได้ถึง ก.ย.62

กระทรวงการคลัง จัดงบเพิ่มเติม 3 หมื่นล้าน เข้ากองทุนประชารัฐ ภายในเดือนมี.ค.นี้ เพื่อนำไปใช้ในโครงการบัตรคนจน เนื่องจากเงินในโครงการจะหมดแล้ว ซึ่งจะทำให้ใช้เงินในโครงการได้ต่อเนื่องถึง ก.ย.62 พร้อมโชว์ผลงาน 2 ปี ใช้เงินแสนล้าน ช่วยคนจนให้มีรายได้ดีขึ้นกว่า 14.5 ล้านคน

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ภายในเดือน มี.ค.นี้ สำนักงบประมาณจะจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมอีกกว่า 3 หมื่นล้านบาท เข้าในกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อนำไปใช้ในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่ม หลังจากเงินในกองทุนฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบันจะใช้หมดภายในเดือน มี.คนี้ และเมื่อเติมเงินแล้ว กองทุนฯจะมีงบใช้ได้จนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2562 หรือเดือน ก.ย.2562 และมีเงินเพียงพอดูแลผู้ถือบัตรทั้ง 14.5 ล้านคน

ทั้งนี้สาเหตุที่สำนักงบฯ ต้องจัดสรรงบเพิ่มเนื่องจาก ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการจัดทำโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมหลายโครงการ จนทำให้งบที่ได้รับจัดสรรจากงบประจำปีไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นโครงการให้เงินสวัสดิการช่วงปีใหม่คนละ 500 บาท การช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาลแก่ผู้สูงอายุคนละ 1,000 บาท การช่วยเหลือค่าเช่าบ้านแก่ผู้สูงอายุคนละ 400 บาท การช่วยเหลือค่าน้ำค่าไฟฟ้า รวมถึงยังมีการขยายโครงการบัตรสวัสดิการ ภายใต้ไทยนิยมยั่งยืนให้กับประชาชนอีก 3.1 ล้านราย และการขยายมาตรการพัฒนาคุณภาพแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการระยะสองอีก 6 เดือน ถึงสิ้นเดือนมิ.ย.นี้

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะภาครัฐมีการคาดการณ์ไว้แล้ว และที่ผ่านมาได้มีการจัดทำกฎหมาย พ.ร.บ.การจัดประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม พ.ศ.2562 เพื่อรองรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม โดยผ่านการพิจารณาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อปลายปีก่อน และขณะนี้ ได้รับพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้มีผลบังคับใช้ ทำให้สำนักงบประมาณสามารถจัดสรรนำงบที่เหลือค้างจ่าย จากส่วนต่างๆ มาจัดสรรใส่ในกองทุนฯ แทน

น.ส.สุทธิรัตน์ กล่าวว่าการจัดสรรงบฯ ครั้งนี้ส่งผลให้ตั้งแต่เริ่มโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมีการตั้งกองทุนประชารัฐฯ ตลอดเวลา 2 ปี คลังได้ใช้เงินไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท ในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น 14.5 ล้านคน และในจำนวนนี้ก็มีหลายล้านคนที่พ้นเส้นความยากจน นอกจากนี้ ในปีงบประมาณหน้า กรมฯ ยังได้เสนอขอจัดทำงบประมาณปี 2563 วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในอนาคตอีกด้วย

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า สำหรับการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ เพิ่งประกาศในราชกิจจานุกเบกษาเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการจัดสวัสดิการให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม กระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ตลอดจนยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน

โดยมีการดำเนินการร่วมกันระหว่างภาครัฐภาคเอกชน และประชาชน ซึ่งจะมีผลทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยมีปัจจัยที่เพียงพอและสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ รวมทั้งมีความ เป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการจัดสวัสดิการเป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้