ผัวเมีย โร่แจ้งความ ร.พ.รัฐ ทำคลอดไม่ได้ ลูกตายในท้อง แฉยัดเงิน 1 หมื่น

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 9 มี.ค. นายบัวขาว ปราณีดุจศรี อายุ 47 ปี และนางจันจิรา ปราณีดุจศรี อายุ 25 ปี อยู่ 99/207 หมู่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา สามีและภรรยา ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ไพรรัตน์ วรรณี สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ให้ดำเนินคดีกับโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ที่ทำให้ลูกของตนเองเสียชีวิต

นายบัวขาว เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 มี.ค. ภรรยาบอกปวดท้องจึงพาไปที่โรงพยาบาลลำลูกกา แต่เนื่องจากทางโรงพยาบาลลำลูกกา ได้ตรวจสอบสิทธิแจ้งให้ทราบว่าบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาท อยู่ที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ทางโรงพยาบาลลำลูกกาจึงช่วยนำตัวภรรยาส่งต่อมาที่โรงพยาบาลรัฐดังกล่าว เมื่อเวลา 11.00 น. ทางแพทย์และพยาบาลก็นำภรรยาไปเข้าห้องฉุกเฉิน

นายบัวขาว กล่าวต่อว่า ตนนั่งรอจนกระทั่งเวลาประมาณ 4 ทุ่ม แฟนเริ่มปวดท้องหนัก พยาบาลออกมาบอกว่า แม่ของเด็กมีน้ำตาลสูง และเป็นเบาหวาน อาจจะคลอดยาก จนกระทั่งเวลาล่วงมาหลายชั่วโมง เกือบประมาณเที่ยงคืน พยาบาลก็ออกมาตามว่าให้ไปให้กำลังใจแฟนหน่อยเป็นเคสสำคัญ เมื่อผมเข้าไปก็เห็นหัวของลูกโผล่มาทางช่องคลอด มีพยาบาลอยู่ 2-3 คน ไม่มีแพทย์ที่ทำคลอดโดยตรง

นายบัวขาว กล่าวอีกว่า ขณะนั้นภรรยาก็จับมือตนไว้แน่น จนมีเจ้าหน้าของโรงพยาบาลไปตามแพทย์ทำคลอดที่พักผ่อนอยู่ในหอพัก เมื่อแพทย์มาถึงก็บอกว่าให้ส่งไปโรงพยาบาลปทุมธานี เนื่องจากเครื่องมือไม่พร้อม เมื่อถึงโรงพยาบาลปทุมธานี แพทย์พยาบาลได้รีบนำภรรยาเข้าห้องฉุกเฉิน หลังจากนั้นแพทย์ได้ออกมาบอกว่าลูกตนเองเสียชีวิตแล้ว

นายบัวขาว กล่าวต่อว่า ทำไมโรงพยาบาลของรัฐดังกล่าว จึงขาดความรับผิดชอบต่อชีวิตมนุษย์ มูลเหตุที่ลูกของตนต้องตายเกิดจากการผิดพลาดของโรงพยาบาลรัฐแห่งนั้น ซึ่งแจ้งว่าผลอัลตร้าซาวด์ลูกของตนมีน้ำหนักเพียง 2.8 กิโลกรัม ทั้งที่ลูกของตนเองเพิ่งไปอัลตร้าซาวด์มาก่อนคลอด เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา พบว่ามีน้ำหนัก 3.8 กิโลกรัม สงสัยว่าทำไมไม่ตรงกัน และนำเงินใส่ซองมาให้ 10,000 บาท

“ผมไม่ได้ต้องการเงิน 10,000 บาท ผมไม่ได้ดูถูกเงิน แต่ผมต้องการลูกกลับคืนมา และหาคนรับผิดชอบโดยตรง เพื่อหาความยุติธรรมให้กับสังคม จึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับโรงพยาบาลรัฐดังกล่าวที่เป็นต้นเหตุให้ลูกของผมเสียชีวิต” นายบัวขาวกล่าว

ทางด้าน พ.ต.ท.ไพรรัตน์ วรรณี สารวัตรเวรสอบสวน ได้ร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลปทุมธานี ชันสูตรศพในเบื้องต้น ก่อนมอบศพให้มูลนิธินำส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด จากนั้นจะเชิญแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลคู่กรณี มาสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนคดีต่อไป