วอนช่วย! สาวตั้งครรภ์ ถูกรถชนขาพิการ ซ้ำร้ายลูกเกิดมาสมองลีบ ผัวทิ้งให้อยู่ลำพัง

ชีวิตรันทด แม่วัย 30 ตั้งครรภ์ 5 เดือน ถูกรถชนขาพิการ เคราะห์ซ้ำฤทธิ์ยารักษาส่งผลกระทบลูกน้อยในครรภ์ หลังคลอดออกมาเป็นโรคลมชัก-สมองลีบ ผัวหนีมีเมียใหม่ วอนผู้ใจบุญช่วย เผยต้องยืมเงินข้างบ้านพาลูกไปหาหมอ

เมื่อวันที่ 9 มี.ค.​ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พบครอบครัว 4 แม่ลูก มีชีวิตยากลำบาก เนื่องจากผู้เป็นแม่ไม่สามารถออกไปหางานทำได้ เพราะต้องเลี้ยงดูลูกน้อยวัยขวบเศษที่พิการสมองลีบ และเป็นโรคลมชัก ทำให้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้งผู้เป็นแม่ร่างกายพิการจากการประสบอุบัติ

หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 43/4 ม.7 ต.นครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก พบ นางกนกวรรณ บานเย็นงาม อายุ 30 ปี เป็นเจ้าของบ้าน โดยอาศัยตามลำพังกับลูกชาย 1 คน และลูกสาวอีก 2 คน คือ น้องเฟิร์ส อายุ 10 ปี, น้องเฟิร์น อายุ 3 ขวบ และน้องพลอย อายุ 1 ขวบเศษ

นางกนกวรรณ กล่าวว่า ชีวิตตนเองพลิกผันหลังจากประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์ชน ขณะกำลังขับรถจักรยานยนต์เดินทางไปทำงานเป็นแม่บ้านที่ห้างบิ๊กซี ชูเปอร์เซ็นเตอร์ ในเขตตัวเมืองพิษณุโลก ทำให้บาดเจ็บสาหัส กระดูกแขนและขาหักตั้งแต่สะโพกถึงขาล่างหักหลายท่อนต้องเสริมเหล็ก แต่อาการบาดเจ็บครั้งนั้น ยังส่งผลกระทบให้ลูกน้อยในครรภ์ที่อายุครรภ์ช่วงนั้นประมาณ 5 เดือน ได้รับผลจากยาที่รักษาร่างกายตน

นางกนกวรรณ กล่าวต่อว่า จนเมื่อหลังคลอด ลูกสาวคนเล็กตนก็เป็นโรคลมชักและสมองลีบต้องกินยากันชักทุกวัน ๆ ละ 3 มื้อ โดยขนาดสมองไม่เติบโตมากกว่านี้ ปัจจุบันสมองเล็กมาก วัดขนาดรอบศีรษะเพียง 28-30 เซนติเมตร ขณะที่เด็กวัยขวบเดียวกันปกติ มีขนาดรอบศีรษะ 50-60 เซนติเมตร

“และด้วยความที่ต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง เพราะสามีทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่ตนตั้งครรภ์น้องพลอยได้เพียง 1 เดือนแล้ว ทำให้ไม่สามารถออกไปหางานทำได้เลย ตลอดเวลา 2 ปีที่หยุดงาน ทำให้ทุกวันนี้เงินเก็บไว้ใช้จนหมด แทบไม่มีเงินเหลือซื้อนมให้ลูกดื่มกิน บางวันลูกก็ไม่มีข้าวไม่มีอาหารกิน อดมื้อกินมื้อ ที่สำคัญคือช่วงที่ต้องเดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ยังต้องขอเงินป้าข้างบ้าน 100 บาท เพื่อเติมน้ำมันไปหาหมอ บ่อยครั้ง ในช่วงที่หมอให้น้องนอนดูอาการที่โรงพยาบาล ก็ไม่สามารถนอนได้ เพราะไม่มีเงินซื้ออาหารกินต้องขอกลับมารักษาตัวที่บ้านตลอด” นางกนกวรรณ กล่าว

นางกนกวรรณ กล่าวอีกว่า สำหรับสิ่งที่อยากได้คือ อยากวิงวอนผู้ใจบุญที่พอมีกำลังช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว ได้มีเงินซื้อค่านมลูกที่ป่วย และค่าอาหารให้ลูกทั้ง 3 คนได้มีกินทุกวัน หรือซื้อแพมเพิร์สส่งมาช่วยเหลือก็ยินดีมาก เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ เพราะทุกวันนี้ ยอมรับว่าอับจนหนทาง มีสามารถหาเงินรายได้อะไรได้เลย เงินที่ใช้ทุกวันนี้มาจากเบี้ยผู้พิการของตนและลูกสาว ซึ่งก็ไม่เพียงพอกับรายจ่าย โดยเฉพาะค่านมที่ราคาแพง แต่จำเป็นเพราะลูกน้อยต้องดื่มกิน

สำหรับผู้มีจิตเมตตาสามารถช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขา ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เลขบัญชี 986-2-58268-5 ชื่อบัญชี นางกนกวรรณ บานเย็นงาม หรือโทรศัพท์ หมายเลข 080-9813757