ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ทูลกระหม่อมฯ ให้คนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดีรับนักท่องเที่ยวมา “55 เมืองรอง” รับสั่งพระไม่ให้โกรธ โมโหใคร ถือสุภาษิตโกรธคือโง่โมโหคือบ้า ถ้าโกรธ โมโห แก่เร็ว อัลไซเมอร์ เรื่องไม่จริงก็ไม่แคร์
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเยือนกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ณ ศูนย์การจัดนิทรรศการ Messe Berlin Exhibition Ground สถานที่จัดงาน International Tourismus Börse (ITB) 2019 งานส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คณะกรรมการ และผู้บริหาร ททท. นำเสด็จเยือนคูหาประเทศไทย หมายเลข 221 Hall 26B เมื่อวันที่ 7 มีนาคม
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ประทานสัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับนโยบายการท่องเที่ยวเมืองรอง ใจความว่า เราต้องทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวเพราะนักท่องเที่ยวคือแขกของเรา ซึ่งการที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทยเพราะเขาชอบเรา ดังนั้นเราในฐานะเจ้าของบ้านก็ต้องทำให้เขามีความสุขความสบายใจ
ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามมากมายทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง เราไม่ได้มีแค่ชายทะเล อย่างเราเองก็เคยไปหลายที่ จนบางทีก็รู้สึกประหลาดใจ เพราะแต่ละที่มีอัตลักษณ์ และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง นับเป็นเสน่ห์ของแต่ละที่แต่ละชุมชน เราเป็นเจ้าของบ้าน เราต้องมีความภูมิใจในอัตลักษณ์ และแสดงอัตลักษณ์ของตัวเอง เพราะเรามีสิ่งที่คนอื่นไม่มี เพราะฉะนั้นเราต้องชูอัตลักษณ์ให้มันแตกต่าง
สิ่งที่เราพูดมาเสมอคือ คนไทยจะต้องมีจิตใจที่เป็นมิตร มีความเต็มใจที่จะบริการ ทำให้ทุกคนสะดวกสบาย และสิ่งที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสำคัญมากที่สุดคือเรื่องความปลอดภัย หากนักท่องเที่ยวรู้สึกไม่ปลอดภัยก็จะไม่กลับมาเที่ยวอีก เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยให้นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัย ต้องช่วยกันดูแล ให้อยู่ดีกินดี มีความสุข และในขณะเดียวกันเราก็ต้องดูแลคนไทยกันเองด้วย เพราะทุกคนคือครอบครัวเดียวกันในการที่จะโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวบ้านเรา และทุกคนต้องช่วยกันร่วมมือร่วมแรง ในการทำงานของข้าพเจ้าก็คือ ร่วมแรงร่วมใจ ให้ทุกคนช่วยกัน ทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นเพื่อนกัน
วันนี้ทาง ททท. ได้โปรโมตเมืองรอง 55 จังหวัด พวกเราทุกคนต้องให้โอกาส สามารถมีโอกาสที่จะต้อนรับและเป็นเจ้าของบ้าน สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก เราต้องช่วยกัน เพราะการทำงานด้านท่องเที่ยวต้องช่วยกันในหลายๆ ส่วน
ส่วนประเด็นที่ถามว่าเมืองรองมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย แต่คนไทยไม่ค่อยให้ความสนใจไปเที่ยวนั้น เราจะใช้คำว่า “มองข้ามเมืองรอง” ก็คงไม่ใช่นัก เพราะนักท่องเที่ยวชาวไทยบางคนอาจจะไม่ทราบข้อมูลด้านท่องเที่ยวในเมืองรอง เพราะแหล่งท่องเที่ยวในเมืองรองบางแห่งก็ไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์ ใน 55 เมืองรองเหล่านี้ก็ยังมีอะไรดีๆ อยู่อีกมากที่เราไม่ทราบ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องช่วยกันโปรโมต เพราะตอนนี้มีการแยกกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ดูแล้วเป็นเรื่องน่าเศร้าใจ จังหวัดต่างๆ มีสิ่งดีๆ ทุกจังหวัดต่างก็มีดีทั้งเมืองหลักเมืองรอง เพราะเมืองไทยสวยทุกที่ เท่ทุกเวลาไม่ต้องพึ่งพายาเสพติด
อย่างบางครั้งเราไปจังหวัดนี้ เรายังไม่รู้เลยว่ามีสถานที่หรือของดีอะไร ต้องถามกัน ดังนั้นเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องช่วยกันโปรโมตและประชาสัมพันธ์ เพราะบางทีสิ่งดีๆ ก็อยู่ที่ปลายจมูก เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกันนำข้อมูลเหล่านี้ไปโปรโมตประชาสัมพันธ์
ทุกๆ ที่ในเมืองไทยสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะหน้าร้อน ฝน หรือหนาว โดยเมืองไทยมีทั้งภูเขาและทะเล ศิลปวัฒนธรรม วัดวาอารามที่สวยงาม
ส่วนในการทำงานทูบีนัมเบอร์วัน เราได้มีโอกาสไปต่างจังหวัด ก็ได้ไปครบทุกจังหวัดแล้ว เพราะเราต้องไปทำงานก็ไม่ค่อยได้เที่ยวนัก แต่เมื่อมีเวลาว่างจึงได้ไปเที่ยวในสถานที่ใกล้ๆ แต่บางครั้งก็ไม่ได้ไปเพราะต้องไปเช้ากลับเย็นหรือควบ 2 จังหวัด และจากการไปทำงานก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับเด็กๆ และผู้ปกครอง รับฟังกันและกัน ได้คุยเรื่องต่างๆ รวมทั้งปัญหากับผู้คน เช่น ความเป็นอยู่ ยาเสพติด ปัญหาปากท้อง ซึ่งปัญหามีเยอะมาก ซึ่งเราก็อยากเข้าไปช่วยเหลือแก้ไข แต่เราไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง เพราะบางเรื่องก็ยาก ลึกล้ำ เราก็แก้ไม่ได้ทั้งหมด เพราะเราทำเรื่องยาเสพติดไม่ได้ ขณะที่ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องปากท้อง
บางทีไปไกลๆ ก็จะทำงานควบ 2 จังหวัด ก็จะค้างประมาณ 1 คืน และเมื่อมีเวลาว่างไปในแหล่งท่องเที่ยว มีโอกาสได้ค้นพบสิ่งต่างๆ ที่ได้ไปเช่น นครพนม ที่เป็นเมืองริมโขง เป็นเมืองพญานาคพ่นน้ำขนาดใหญ่มากและสวยงามมากซึ่งก็คือพญาศรีสัตตนาคราช ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราต้องไปกราบไหว้ ส่วนที่มุกดาหารก็มีพญานาคที่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์มีพญานาคคอยปกป้องพระพุทธรูปองค์สีขาวก็ศักดิ์สิทธิ์มากและได้ไปอธิษฐานที่นั่น
โดยมากเดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าชอบไปวัด ทำบุญ เพื่อทำให้จิตใจสงบ จะได้ไม่แก่ไม่เป็นอัลไซเมอร์ เพราะโกรธเกรี้ยวโมโหโทโส อารมณ์เสียก็จะเป็นสาเหตุโรคอัลไซเมอร์ได้ และปีนี้พระท่านบอกว่าไม่ให้เราโกรธใคร ซึ่งเราก็จะไม่โกรธเพราะเราไม่อยากแก่และเป็นอัลไซเมอร์
ปัจจุบันการใช้สื่อโซเชียลนั้นเป็นเรื่องที่ได้ผลดีเวลาสื่ออะไรออกไป เราจะใช้โซเชียลเป็นหลักคือไอจี เพราะสื่อโซเชียลไปได้รวดเร็วเข้าถึงทุกที่ทุกแห่งได้ผลดีกว่าด้านอื่น ได้ผลดีเยี่ยม และมีโอกาสได้โต้ตอบกัน ซึ่งต้องเปิดใจกว้างรับฟังทุกคอมเมนต์แม้ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ทุกคนสามารถคุยกับข้าพเจ้าได้ ถ้ามีเวลาก็จะพยายามตอบ คนมาแสดงความคิดเห็นหลายคนก็ให้กำลังใจมาก ซึ่งเรารู้สึกขอบใจ ซาบซึ้งใจที่พวกเรามาให้กำลังใจทำให้สามารถที่จะมีกำลังใจทำงานดีๆ ต่อไป
แต่บางครั้งสื่อออนไลน์ก็มีข้อเสียที่ต้องระมัดระวังในการใช้ อย่างบางคนใช้ในการด่ากัน แต่สำหรับตัวข้าพเจ้าเองก็ไม่ได้โกรธอะไรเพราะมองว่าคนด่าทำให้เราหันมามองตัวเอง ได้ปรับปรุงตัวเองไม่ต้องชมตลอดเวลา อย่างเมื่อก่อนเคยเปิดเฟซบุ๊กสาธารณะก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ก็มันดีสนุกดี แต่ตอนหลังๆ ก็เยอะไปก็เลยปิด และถ้าเป็นเรื่องไม่จริงก็ไม่แคร์ ปีนี้พระท่านบอกว่าไม่ให้โกรธหรือโมโหใคร ตามสุภาษิตที่ว่าโกรธคือโง่โมโหคือบ้า ปีนี้จะไม่โมโหใครเลย เพราะถ้าโกรธและโมโหก็จะทำให้เราแก่เร็วและเป็นอัลไซเมอร์
คนไทยคือจุดแข็งของประเทศไทย ในหลายแง่เพราะคนไทยเป็นคนมีน้ำใจ เมตตา กรุณา ชอบช่วยเหลือ เป็นคนใจดี ซึ่งเป็นนิสัยดั้งเดิมของเรา คนไทยมีทัศนคติเชิงบวก เป็นคนที่ปล่อยวาง เปิดกว้าง ชอบช่วยเหลือเห็นได้จากเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิปี 2547 คนต่างชาติก็ชื่นชมเรื่องความมีน้ำใจของเรา นี่คือจุดแข็งของประเทศ เป็นเสน่ห์ของเจ้าของบ้านที่ดี นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว เรื่องคนไทยคือนัมเบอร์วันที่ทำให้ประเทศไทย เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือน
เมืองไทยมีความหลากหลายในสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม มีความเก่าและความใหม่ผสมผสานกันอยู่ ทำให้ใครชอบอย่างไรก็สามารถไปเที่ยวอย่างที่ตัวเองชอบได้ แต่เราก็ไม่สามารถโปรโมตของเก่าได้ทั้งหมด เพราะเรามีของใหม่ๆ อยู่ด้วย ของเก่าบางอย่างที่ดีก็เก็บไว้ เช่น วัฒนธรรมของความเป็นมิตรเป็นวัฒนธรรมเก่าดั้งเดิมของไทย แต่เราก็ต้องเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ที่แปลกๆ ทั้งนี้ชาวยุโรปชอบหนีหนาวมายังเมืองร้อนอย่างประเทศไทย เขาก็สามารถใส่บิกินีเดินไปไหนมาไหนได้ คนที่อยากมาเที่ยวบ้านเราเพราะเขาต้องการเปลี่ยนบรรยากาศจากที่บ้านเขา บางทีจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องอาหารริมทาง (สตรีตฟู้ด) อาหารบางอย่างราคาแพงยิ่งกว่าอาหารในร้านอาหารบางแห่ง ซึ่งปัจจุบันอาหารริมทางของไทยได้รับรางวัลมิชลินสตาร์หลายร้าน แต่ข้าพเจ้าไม่ค่อยได้ออกไปทานอาหารข้างนอกบ่อยนัก แต่ถ้าถามว่าชอบอะไรข้าพเจ้าชอบอาหารริมทางแบบดั้งเดิม
ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปขายขนม เช่น น้ำตาลสด ข้าวเกรียบปากหม้อ ส่วนที่ข้าพเจ้าชอบรับประทานคือ ก๋วยจั๊บริมคลอง อาหารจำพวกเส้นๆ
ข้าพเจ้าชอบอะไรที่สบายๆ ช่วงหลังมีโอกาสได้ทำกับข้าวบ่อยขึ้น ทำอาหารเป็นหลายอย่างแล้ว สงสัยต้องไปตั้งร้านอาหารสตรีตฟู้ดเอง ไว้ไปแข่งกับร้านที่แพงๆ บ้าง