ธุรกิจความงามดัน ไคลี เจนเนอร์ ขึ้นแท่นเศรษฐีพันล้านอายุน้อยที่สุดในโลก

ธุรกิจความงามดัน ไคลี เจนเนอร์ ขึ้นแท่นเศรษฐีพันล้านอายุน้อยที่สุดในโลก – BBCไทย

น.ส.ไคลี เจนเนอร์ ดาราเรียลลิตีชื่อดัง และนักธุรกิจหญิงชาวอเมริกัน ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ ให้เป็นเศรษฐีพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก ในขณะที่ตำแหน่งบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลกประจำปี 2019 ยังเป็นของ นายเจฟฟ์ เบซอส ซีอีโอแอมะซอน ส่วนในไทยเจ้าสัวธนินท์ แซงหน้า เจ้าสัวเจริญ ขึ้นเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดในประเทศ

น.ส.เจนเนอร์ น้องสาวคนสุดท้องของครอบครัวคาร์แดเชียน ใช้เวลาราว 4 ปีในการสร้างฐานะจากการทำธุรกิจเครื่องสำอาง “ไคลี คอสเมติกส์” โดยเมื่อปีที่แล้วธุรกิจนี้มียอดขายราว 360 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ธุรกิจนี้ทำให้เธอมีทรัพย์สินแตะหลัก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะมีอายุเพียง 21 ปี ทำลายสถิติของ นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กที่ได้เป็นเศรษฐีพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตอนอายุ 23 ปี

น.ส.เจนเนอร์ ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฟอร์บส์ว่า “ฉันไม่ได้คาดหวังอะไร ฉันไม่ได้มองการณ์ไกลไปถึงอนาคต…แต่มันให้ความรู้สึกที่ดีมาก มันเป็นคำชมเชยที่ดี”

บุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก

BBC

การจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บสครั้งนี้ ยังคงจัดให้นายเบซอส ผู้ก่อตั้งอาณาจักรอีคอมเมิร์ซ แอมะซอน เป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลกต่อเป็นปีที่ 2 โดยมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1.31 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเมื่อปี 2018 อันเป็นผลมาจากการที่ราคาหุ้นของแอมะซอนที่ไปได้สวยในรอบปีที่ผ่านมา และยิ่งเพิ่มช่องว่างความร่ำรวยระหว่างเขากับนายบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ที่รั้งตำแหน่งบุคคลร่ำรวยอันดับ 2 ของโลก ขึ้นมาเล็กน้อย

โดยความมั่งคั่งของนายเกตส์ เพิ่มขึ้นเป็น 9.65 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเมื่อปีก่อนที่มีทรัพย์สิน 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนตำแหน่งบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลกอันดับ 3 ยังเป็นของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนอาวุโสชาวอเมริกัน ที่มีทรัพย์สินทั้งสิ้นราว 8.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ฟอร์บส ระบุว่า 2019 นับเป็นปีที่ 2 ในรอบ 10 ปีที่จำนวนเศรษฐีพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั่วโลกลดลง อีกทั้งทรัพย์สินรวมของพวกเขาก็ลดลงด้วย นับเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่า แม้แต่กลุ่มคนร่ำรวยที่สุดในโลกยังไม่สามารถต้านทานภาวะตลาดหุ้นที่ซบเซา และปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการแข่งขันได้

ข้อมูลล่าสุดของ ฟอร์บส ระบุว่า ในปีนี้มีเศรษฐีพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 2,153 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 55 คน ส่วนทรัพย์สินรวมของอภิมหาเศรษฐีเหล่านี้ก็ลดลงมาอยู่ที่ 8.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเมื่อปีที่แล้วที่มีทรัพย์สินรวมกัน 9.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

โดยหนึ่งในอภิมหาเศรษฐีที่ความร่ำรวยลดลงในปีนี้คือ นายซัคเคอร์เบิร์ก ที่ปีนี้เป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดอันดับ 8 ของโลก ด้วยทรัพย์สิน 6.23 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากปีที่แล้วที่มีความมั่งคั่ง 8.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

5 อันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย
มูลค่าทรัพย์สิน อันดับความร่ำรวยในโลก
1. นายธนินท์ เจียรวนนท์ 1.52 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 75
2. นายเจริญ สิริวัฒนภักดี 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 87
3. นายอัยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 290
4. นายสุเมธ เจียรวนนท์ 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 424
5. นายจรัญ เจียรวนนท์ 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 436

ส่วนของไทยนั้น นายธนินท์ เจียรวนนท์ แห่งอาณาจักรเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ด้วยทรัพย์สิน 1.52 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 4.86 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอยู่อันดับ 75 ของโลก ตามด้วยนายเจริญ สิริวัฒนภักดี แชมป์เมื่อปีที่แล้ว ผู้ก่อตั้งบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่มีทรัพย์สิน 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 4.64 แสนล้านบาท) ลดลงจากปีก่อนที่มีทรัพย์สิน 1.79 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ในอันดับ 87 ของโลก

บุคคลร่ำรวยที่สุดอันดับ 3 ของไทยในปีนี้เป็นของ นายอัยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา และครอบครัว เจ้าของกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ ที่มีทรัพย์สินประมาณ 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.88 แสนล้านบาท) ซึ่งฟอร์บสจัดให้เป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับที่ 290 ของโลก

นายอัยวัฒน์ มีชื่อติดโผเศรษฐีโลกของฟอร์บสเป็นครั้งแรก หลังจากต้องรับช่วงธุรกิจต่อจากนายวิชัย ศรีวัฒนประภา บิดาที่เสียชีวิตกะทันหันจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ที่เมืองเลสเตอร์ของอังกฤษ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

บุคคลร่ำรวยที่สุดอันดับ 4 และ 5 ของไทย คือ นายสุเมธ เจียรวนนท์ ประธานที่ปรึกษาเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นพี่ชายคนที่ 3 ของนายธนินท์ โดยมีทรัพย์สินราว 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.44 แสนล้านบาท) ตามด้วยนายจรัญ เจียรวนนท์ ประธานกิตติมศักดิ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งก็เป็นพี่ชายคนโตของนายธนินท์ มีทรัพย์สินประมาณ 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.40 แสนล้านบาท)