เหยื่อจ้างทำ กระยาสารท มีกำลังใจ หลังผู้ใจบุญแห่ซื้อ เตรียมทำล็อตใหม่ตอบแทน

ครอบครัวเหยื่อกระยาสารท 2,000 กิโลกรัม เริ่มมีกำลังใจ หลังผู้ใจบุญแห่ซื้อกระยาสารทเข้ามาต่อเนื่อง เตรียมทำล็อตใหม่จำหน่ายทุ่มสุดฝีมือตอบแทนน้ำใจคนที่ช่วยเหลือ

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก PaNg Za หรือ น.ส.ภัทรสุดา เรืองชัยศิริวัฒน์ อายุ 31 ปี ได้โพสต์ข้อความมีเนื้อหาว่า ถูกมิจฉาชีพหลอกให้ทำกระยาสารทส่งให้ตามออร์เดอร์ จำนวน 2 ตัน เพื่อนำไปจำหน่ายตามร้านค้าจำหน่ายสินค้าโอท็อปทั่วประเทศ แต่เมื่อถึงวันรับออร์เดอร์กลับไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากกู้เงินนอกระบบ ดอกเบี้ยร้อยละ 5 จำนวน 6 หมื่นบาท มาลงทุน ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่บ้านของผู้เสียหาย ที่ ต.สุขเกษม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ทั้งครอบครัวของน้องแป้ง น.ส.ภัทรสุดา เรืองชัยศิริวัฒน์ อายุ 31 ปี ผู้โพสต์ข้อความลงในโซเชียล ตามที่เป็นข่าว และที่บ้านพ่อแม่ของนางนงนุช จิณรักษ์ อายุ 50 ปี ลูกพี่ลูกน้องของน้องแป้ง กระจายกระยาสารทไปแจกจ่ายและส่งขายตามออร์เดอร์ที่ผู้ใจบุญที่ช่วยซื้อผ่านทางเฟซบุ๊กของน้องแป้งทั้งหมดแล้ว

เบื้องต้น น้องแป้ง แจ้งว่า ได้เงินคืนมาประมาณ 30,000 บาทเท่านั้น ซึ่งต้องนำไปตัดดอกเงินกู้นอกระบบที่กู้ยืมมาใช้ซื้อวัสดุ-อุปกรณ์ และวัตถุดิบผลิตกระยาสารท ตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 ก่อน ส่วนกระยาสารทที่ญาตินำไปช่วยขายตามที่ต่างๆ ยังไม่รู้ว่าจะได้เงินคืนมาเท่าไร

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือ สั่งซื้อกระยาสารทเข้ามาเรื่อยๆ จึงคิดว่าจะลงทุนซื้อวัตถุดิบใหม่มาอีกรอบ และจะทำให้อร่อยเข้มข้นสุดฝีมือตามสูตรดั้งเดิมที่ชาวปักธงชัยเคยทำสืบต่อกันมา เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ฝีมือของชาวปักธงชัยให้เป็นที่รู้จัก และเป็นการขอบคุณในน้ำใจที่ได้ช่วยเหลือในครั้งนี้

ส่วนด้านครอบครัวของนางนงนุช จิณรักษ์ อายุ 50 ปี ลูกพี่ลูกน้องของน้องแป้ง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ลงทุนซื้อวัตถุดิบ มะพร้าว กระทะ เตา และอื่นๆ ไปร่วม 1 แสนบาท เพื่อผลิตกระยาสารทในปริมาณ 1,000 กิโลกรัม จากออร์เดอร์ที่สั่งทำทั้งหมด 2,000 กิโลกรัม โดยออร์เดอร์อีก 1,000 กิโลกรัม แบ่งไปให้บ้านของน้องแป้งช่วยทำ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องก็นำกระยาสารทไปเททิ้งเป็นปุ๋ยต้นไม้ และบางส่วนกระจายแจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้าน ส่วนที่เหลือประมาณ 500 กิโลกรัม ก็นำไปรวมที่บ้านน้องแป้ง เพราะมีคนติดต่อมาช่วยซื้อได้ทุนกลับคืนมาบ้างนิดหน่อย ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

ส่วนลูกมะพร้าวที่กองรวมอยู่ ก็มีแม่ค้ามารับซื้อในราคาลูกละ 6-7 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด แต่ก็จำใจต้องขายออกไปดีกว่าปล่อยให้เน่าเสีย ซึ่งตอนนี้ขายไปได้ประมาณ 10,000 บาท ยังเหลืออยู่อีกกว่า 100 ลูก ยังไม่มีใครติดต่อขอซื้อเข้ามา

ด้านนางรัชรัน บัวฮองแสง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 9 ต.สุขเกษม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เพื่อนบ้านของทั้ง 2 ครอบครัว ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นกับคนในหมู่บ้านมาก่อน เพราะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ใช้ชีวิตแบบเอื้ออาทรกัน เมื่อทราบข่าวก็รู้สึกตกใจและไม่คาดคิดว่า จะมีมิจฉาชีพที่มาในคราบของคนรู้จักหรือเพื่อนร่วมงาน มาเอาเปรียบหลอกลวงกันได้ จึงรู้สึกเห็นใจหัวอกคนหาเช้ากินค่ำด้วยกัน และพยายามให้กำลังใจทั้ง 2 ครอบครัวให้พยายามสู้ต่อ

อย่าท้อแท้หมดกำลังใจ ซึ่งตนคงทำได้เพียงเท่านี้ ส่วนจะรับซื้อกระยาสารทมาช่วยขายอีกทางนั้น คิดว่านำไปขายที่อื่นจะขายได้ดีกว่า เพราะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ผลิตกระยาสารทกินเองเกือบทุกครัวเรือน อีกทั้งเป็นร้านค้ากลางหมู่บ้านเพียงร้านเดียวเท่านั้น จึงน่าจะระบายสินค้าออกไปจำหน่ายในตลาดอื่นๆ จะได้ราคาที่ดีกว่า และได้ทุนคืนกลับมาโดยเร็ว