แห่กราบหลวงปู่ อายุยืน 115 ปี ผ่านรบสงครามโลกครั้ง 2 จำวัดโดดเดี่ยว

แห่กราบหลวงปู่ อายุยืน 115 ปี ผ่านรบสงครามโลกครั้ง 2 จำวัดโดดเดี่ยว

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากลูกศิษย์ว่า มีพระเกจิรูปหนึ่งมีอายุยืนยาวมากถึง 115 ปี พบว่าเกิดในช่วงยุคสงครามครั้งที่ 2 ชาวบ้านและศิษย์ยานุศิษย์ที่ทราบข่าวจากโลกออนไลน์ ต่างแวะเวียนไปกราบไหว้ไม่ขาดสาย

โดยพระรูปดังกล่าวจำวัดอยู่ที่  วัดโพธิ์ชัยมงคล บ้านพันห่าว หมู่ 13 ต.นาทม อ.นาทม จ.นครพนม
พบลูกศิษย์ซึ่งเป็นพระภิกษุ เซียนพระ พร้อมลูกหลาน เดินทางนำภัตตาหารเพลมาถวายหลวงปู่พัน ฐานกโร เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ซึ่งมาสอบถามสภาพความเป็นอยู่ เนื่องจากในวัดแห่งนี้มีหลวงปู่ อาศัยอยู่โดดเดี่ยวรูปเดียว โดยไม่มีพระลูกวัดมาคอยปรนนิบัติแต่อย่างใด มีเพียงบุตรสาวบุตรธรรม และบุตรเขย แวะเวียนมารับใช้เท่านั้น

พระอธิการไพยงค์ กันตสีโล วัย 53 ปี เจ้าคณะตำบลนาทม พระผู้ปกครองและดูแล กล่าวว่า หลวงปู่พัน หรือ พระพันธ์ศรี ฐานกโร ท่านเกิดในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ตรงกับวันที่ 6 มิ.ย.2448 ตรงกับปีมะเส็ง ปัจจุบันอายุมากถึง 115 ปี พรรษา 46 ปัจจุบันวัดก็รกร้าง มีเพียงศาลาการเปรียญยงพื้นสูง ปลวกก็เริ่มแทะไว้ประกอบกิจของสงฆ์ทำสังฆกรรม มีเพียงนางหนูหลง ทองกันทม วัย 53 ปี บุตรสาวบุญธรรม นำข้าวปลาอาหารมาถวายช่วงเช้าและเพล

เจ้าคณะตำบลนาทม กล่าวต่อว่า หลวงปู่พัน เล่าให้ฟังว่า ขณะหลวงปู่อายุ 13 ขวบ ได้บวชเณรอยู่ 1 พรรษา พอย่างเข้าวัยหนุ่ม 19 ปีได้ถูกเกณฑ์ไปร่วมรบในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ฝั่งลาว สังกัดทหารบก ทำหน้าที่ยิงปืนใหญ่ ช่วงนั้นมีเงินเดือนแค่ 2 บาท ย้ายฐานไปที่ไหนก็ได้ไปมีภรรยาที่นั้น ใช้ชีวิตฆราวาสระยะหนึ่ง ก่อนตัดใจทางโลกอุปสมทบครั้งแรก เมื่ออายุ 25 ปี ก่อนจะสึกอีกรอบและถูกเกณฑ์ไปรบครั้งที่ 2

“ช่วงที่เข้าป่าไปรบได้พบกับฤาษี ต้องนุ่งขาวห่มขาว อาบน้ำหว่าน 108 และฝึกวิชาคงกระพันชาตรีที่ภูเขาควาย และสักอักขระยันต์เต็มแผ่นหลังเสียค่ายกครู 20 สตางค์ เมื่อสงครามสงบจึงใช้ชีวิตเฉกเช่นปุถุชนทั่วไป ทำนาและรับจ้างตีเหล็กและตีมีดพร้า ผ่านการครองเรือนมีภรรยามากถึง 10 คน กระทั่งอายุ 69 ปี จึงเบื่อหน่ายทางโลก ก่อนกลับเข้าสู่ร่วมกาวสาวพัตร์อีกครั้ง” พระอธิการไพยงค์ ระบุ

พระพงษ์ศักดิ์ ภัทรวุธโธ อายุ 32 ปี เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอบ้านแพง กล่าวว่า ตามใบสุทธิระบุว่าหลวงปู่พัน อุปสมบทครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 ส.ค.พ.ศ. 2544 ขณะมีอายุ 44 ปี มีพระครูรัตนคุณาวสัย เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอินทร์ตา สุจิตโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสมัคร วิสุทฺโธ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ก่อนจำพรรษาที่วัดยอดแก้ว อ.นาทม จ.นครพนม จึงย้ายมาจำพรรษาที่วัดโพธิ์ชัยมงคล พ.ศ.2545 สอบนักธรรมตรีได้ จึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ เมื่อ พ.ศ.2553

“หลวงปู่เล่าว่าท่านเป็นศิษย์สืบสายธรรมหลวงปู่บุญมา สุชีโว ที่วัดใน ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ในช่วงนั้นท่านยังร่ำเรียนวิชาจากหลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปัณโณ พระเกจิชื่อดังผู้สร้างพระธาตุท่าอุเทน ด้วยในช่วงสมัยยังหนุ่ม หลังปลีกวิเวกธุดงค์โดดเดี่ยว จึงกลับมาสู่มาตุภุมิเป็นเจ้าอาวาสที่วัดแห่งนี้จนถึงปัจจุบัน” พระพงษ์ศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนางหนูหลง ทองกันทม อายุ 53 ปี บุตรสาวบุตรธรรม กล่าวว่า หลวงปู่เป็นบุตรชายคนโตในจำนวนพี่น้อง 5 คน ก่อนนี้ท่านรับกิจนิมนต์ แต่ระยะหลังมีโรคประจำตัวหอบหืด รับนิมนต์บางครั้งแต่ไปไม่ไกล ไม่เคยเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล มีแต่ไปรับยาพ่นหอบหืดเดือนละครั้ง ส่วนสาเหตุที่หลวงปู่อายุยืนยาว อาจชอบฉันเนื้อปลา อาหารพื้นบ้านเช่นลาบวัว แต่ฟันหมดปากแล้ว สูบยาเส้นเป็นบางครั้ง ผลไม้โปรดชอบฉันทุเรียน ชอบพุดคุยแต่หูซ้ายดับมีเครื่องช่วยฟัง หลวงปู่มีวิชาสมัยคนโบราณ เคยนำรากไม้ต้นมะขามป้อง มะขามเทศ มาปิ้งย่างฝนน้ำให้กินรักษาตนที่เป็นโรคหัด จนรอดตายมาได้จึงรับเป็นบุตรบุญธรรม