พี่วินมอ’ไซค์อ่วมรายได้ต่ำ อ้อนรัฐขอขยับราคาเป็น 30 บาท

พี่วินมอ’ไซค์อ่วมรายได้ต่ำ อ้อนรัฐขอขยับราคาค่าโดยสารขั้นต่ำจากปัจจุบัน 2 ก.ม. แรก 25 บาทเพิ่มเป็น 30 บาทเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ

พี่วินมอ’ไซค์ขอขึ้นราคา – นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัย และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจ สถานภาพผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์รับจ้าง ว่า ผู้ขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างส่วนใหญ่ ยังมีปัญหาเรื่องรายได้ต่ำ โดยพบว่ามีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 24,370.25 บาท แต่มีรายได้ที่แท้จริงเหลือเพียง 12,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น เพราะส่วนที่เหลือต้องนำไปจ่ายค่าน้ำมัน ค่าผ่อนมอเตอร์ไซค์ รวมถึงค่าเช่า เสื้อวินมอเตอร์ไซค์มากถึงเดือนละ 12,000 บาท ดังนั้นผู้ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างจึงต้องการให้ภาครัฐขยับราคาค่าโดยสารขั้นต่ำจากปัจจุบัน 2 ก.ม. แรก 25 บาทเพิ่มเป็น 30 บาทเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ

นอกจากนี้ ยังต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยควบคุมต้นทุนค่าน้ำมัน ค่าเช่าเสื้อวิน ค่าสินค้าทั่วไป เป็นต้น รวมถึงจัดระเบียบและบทลงโทษผู้ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ไม่ถูกกฎหมายอย่างเคร่งครัด และสนับสนุนให้มีโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและเข้าถึงง่าย ปล่อยกู้โดยไม่เสียดอกเบี้ย หรือลดอัตราดอกเบี้ย เพิ่มสินเชื่อโดยไม่ต้องมีหลักประกัน

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า ธนาคารจะนำผลสำรวจ และข้อเสนอแนะจากกลุ่มตัวอย่าง ไปพัฒนามาตรการช่วยเหลือ เช่น ส่งเสริมความรู้ให้นำแอปพลิเคชันมาเพิ่มลูกค้า รวมถึงช่วยผู้ขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันจะร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สถาบันยานยนต์ และสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ร่วมสนับสนุนการใช้นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ยกระดับปรับเปลี่ยนรถ สำหรับผู้ประกอบอาชีพให้บริการรถขนส่งสาธารณะต่างๆ สร้างประโยชน์ช่วยลดต้นทุนค่าพลังงาน และช่วยลดมลภาวะทางอากาศ

“ธพว.จะเร่งผลักดันผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะใช้นวัตกรรมอีวีเพื่อยกระดับอาชีพ ผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี บุคคลธรรมดา อัตราดอกเบี้ย 3ปีแรกเพียง 0.42% ต่อเดือน วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาทต่อราย และหากยกระดับเป็นนิติบุคคล อัตราดอกเบี้ยจะถูกลงไปอีก โดย 3 ปีแรกเหลือเพียง 0.25% ต่อเดือนเท่านั้น โดยสามารถใช้เป็นทุนหมุนเวียน ลงทุนนวัตกรรม และปรับปรุงธุรกิจให้มีความทันสมัย”