เปิดใจพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวเมืองอุทัยฯ ที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับเหรียญพระราชทานลูกเสือสดุดีชั้น 1 จากในหลวง

วันที่ 18 ตุลาคม 2559 เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี  นายสุเทพ อุณหอุทัย หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า เฮียเก้า อายุ 58 ปี ชาวบ้านเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี ประกอบอาชีพเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว อยู่ที่บริเวณวงเวียนน้ำพุ ใกล้กับตลาดริมน้ำสะแกกรัง ได้เปิดเผยถึงเรื่องราวความประทับใจที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ได้เข้ารับรางวัลพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยได้พาผู้สื่อข่าวดูภาพถ่ายที่ตนเองนั้นเคยรับเหรียญรางวัลพระราชทาน และพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์   โดยเฉพาะพระบรมฉายาลักษณ์ของพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะมีมากที่สุดโดยมีตั้งแต่ยังทรงวัยเยาว์ จนถึงปัจจุบันรวมกว่า 100 ภาพ ที่ได้จัดเรียงไว้กำแพงบ้านให้ประชาชนที่เข้ามานั่งทานอาหารได้ชมไปพร้อมกัน

201610180802254-20140425161738-768x439

นายสุเทพ เล่าว่า  ตนนั้นได้เข้าร่วมการอบรมลูกเสือชาวบ้าน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 โดยเมื่อปี พ.ศ. 2519 ได้มีผู้ใหญ่ชวนมาสร้างศูนย์อบรมลูกเสือชาวบ้านแต่ว่าไม่มีทุนทรัพย์ ตนจึงได้ไปช่วยกันสร้างด้วยใจ โดยไม่คิดหวังสิ่งตอบแทนใดๆ  และเมื่อสร้างศูนย์เสร็จทางศึกษาจังหวัด ก็ได้ทำเรื่องไปยังส่วนกลาง เพื่อขอ ความดี ที่ตนช่วยบำเพ็ญประโยชน์แก่ส่วนรวมให้ ปรากฏว่าตนนั้นได้รับเหรียญลูกเสือสดุดีชั้นที่ 1 โดยได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2525 ที่ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดารโหฐาน

นายสุเทพระบุว่า ความรู้สึกในวันนั้นยังจำได้ดี ยอมรับว่ารู้สึกตื่นเต้นมาก ทั้งๆที่ได้เคยเห็นพระองค์ท่านเคยเสด็จมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่จังหวัดอุทัยธานี ถึง 2 ครั้ง แต่ได้แค่มองเห็นไกลๆ พอถึงวันรับพระราชทานจริงๆ เมื่อไปถึงตัวพระองค์ท่านใกล้ๆ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก จนบอกไม่ถูก รู้สึกได้ว่าตนนั้นโชคดีที่ครั้งนึงในชีวิตได้พบพระองค์ท่านแบบใกล้และยังได้รับรางวัลพระราชทานจากพระองค์ท่านเองอีกด้วย ถือว่าชีวิตนี้ตนและประชาชนคนไทยทุกคนโชคดีที่ได้เกิดมาในแผ่นดินไทยที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงห่วงใยราษฎรทุกเวลา พระองค์ทรงพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรือง คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีทุกหนแห่ง นับว่าชาตินี้เกิดมามีบุญยิ่งนักจริงๆ

201610180802256-20140425161738

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ได้ทราบข่าวจากแถลงการณ์สำนักพระราชวัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคต ตนรู้สึกเสียใจมาก เหมือนเสียร่มโพธิ์ร่มไทรของประเทศไทยไป เนื่องจากพระองค์ท่านเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนทั้งประเทศ  โดยมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งที่ยังตรึงตราอยู่ใจของตน ตลอดคือ เมื่อสมัยนั้นบ้านเมืองเกิดความทะเลาะเบาะแว้งกันเพื่อที่จะเอาชนะกัน  ซึ่งในหลวงได้ทรงตรัสว่า “พวกคุณจะชนะกันด้วยเศษปรักหักพังมันจะมีประโยชน์อะไร” ซึ่งตนเองนั้นรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง  และที่สำคัญทุกวันนี้ตนเองยังคงยึดหลักใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงตาม แนวพระราชดำริมาโดยตลอด เป็นคนที่แต่งตัวธรรมดา ในตอนเช้าจะเปิดร้านขายโจ๊ก และในตอนกลางวันจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ทำมาหากินโดยอาชีพ สุจริต ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย แม้กระทั่งการกินอยู่ ซึ่งทำให้ชีวิตนั้นมีความสุขมากและเคยเดือดร้อนเข็ญใจ ใช้เท่าที่มี ยินดีเท่าที่เราหามาได้ และสัญญาว่ายึดถือตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชตลอดไป

 

ที่มา : มติชนออนไลน์