แจ๊ค เชิญยิ้ม รู้ซึ้ง สัจธรรมชีวิต ทำงานหาเงินรักษาตัวหมด ได้สติอย่าตกเป็นทาสเงิน

แจ๊ค เชิญยิ้ม รู้ซึ้ง สัจธรรมชีวิต ทำงานหาเงินรักษาตัวหมด ได้สติอย่าตกเป็นทาสเงิน

พักรักษาตัวอาการป่วย วัณโรคปอด อยู่นานหลายเดือน จนร่างกายซูบผอม น้ำหนักลดฮวบ ถึงกับมีคนลือว่าป่วยเป็นโรคเอดส์ ล่าสุด ตลกดัง แจ๊ค เชิญยิ้ม ออกงานครั้งแรก ร่วมงานแถลงข่าว วาไรตี้ คอมเมดี้ คอนเสิร์ต 39 ปี เชิญยิ้ม ที่เซ็นทรัลเวิลด์ วันก่อน ได้อัพเดตอาการ ดีขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ กลับมารับงานมากขึ้น พร้อมฝากข้อคิดการใช้ชีวิต จากที่ไม่เคยเชื่อคำคนเตือน ทำงานหนักระวังหาเงินมาใช้รักษาตัวจนหมด จนมาเจอกับตัวเอง

อ่านข่าว : แจ๊ค เชิญยิ้ม ป่วยผอมหนัก ลุกไม่ได้ รักษามา 5 เดือน ตั๊ก บริบูรณ์ ห่วงเพื่อน-รุดเยี่ยม(คลิป)

อ่านข่าว : แจ๊ค เชิญยิ้ม อาการป่วยล่าสุด สู้ต่อ-อยากหาย ขอบคุณทุกกำลังใจ (คลิป)

อ่านข่าว : แจ๊ค เชิญยิ้ม อัพเดตโรครุมเร้า ผอมจนคนคิดว่าเป็นเอดส์ หลังน้ำหนักลด 10 โล.

หลังจากหายป่วย กลับมารับงานอีกครั้ง?
“จะบอกว่ายังไม่ได้หายป่วยร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ เรากินยาตั้งแต่เริ่มจนมาถึงตอนนี้ 6 เดือนเต็ม ตามเกณฑ์โรคนี้หกเดือนจะหายขาด แต่กรณีของแจ๊ค เชื้อน่าจะดื้อยา เราอาจจะต้องกินยาอย่างน้อยปีหนึ่งถึงปีครึ่ง มันจะหายขาดเอง น้ำหนักก็จะเริ่มขึ้นเอง ตอนนี้แข็งแรงมากๆ เริ่มรับงานได้แล้ว เป็นเรื่องดีพอรับงานได้เดือนหนึ่ง มีผู้ใหญ่ทุกท่านที่อยากจะใช้งานเรา กรุณาเรา ขอบคุณมากครับ รายการเต็มเลย พิธีกร ซิทคอม หนัง คอนเสิร์ต 39 ปี เชิญยิ้ม และอีกหลายงานเยอะแยะมากมาย ที่ผู้ใหญ่ยังไว้ใจเรา ที่ให้งานอยู่บวกกับงานเก่าๆที่เราลาไป ตอนนี้กลับมาทำงานได้ พอเราเริ่มลองทำงาน ภายใน 1 วัน เราสามารถทำงานได้เยอะแค่ไหน จะมีเหนื่อยบ้าง ก็น่าจะกลับมาประมาณสัก 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว”

มีงานไหนที่ต้องระวังเป็นพิเศษมั้ย?
“ต้องระวังงานที่เคลื่อนไหวเยอะๆ กระโดดโลดเต้น มันจะทำให้เราเหนื่อยง่าย เหมือนคนที่ไปวิ่งไปออกกำลังกายมา แต่เราจะเหนื่อยมากกว่าเขาหลายเท่า ก็ต้องมานั่งพักแป๊บนึง ขณะที่พูดอยู่ก็เริ่มเหนื่อยแล้ว”

พอตอบรับงานเยอะขึ้น มีผลกระทบยังไงบ้าง?
“มี จริงๆแล้วคุณหมออยากให้พักจนหายขาด แต่ว่าในทุกวันที่เราป่วย พอมันเริ่มเข้าสู่ 3 เดือนแล้ว 4 เดือนแล้ว มีความกรุณาจากผู้ใหญ่ทุกค่าย ทุกช่อง โทรเข้ามาถามไถ่เป็นยังไงบ้าง และงานเก่าที่เราลาไป ถามว่าพร้อมจะกลับมาทำงานหรือยัง เขายังรออยู่ บวกกับมีงานใหม่เข้ามาที่เขายังอยากใช้บริการเราอยู่ พอเขาโทรมาเยอะๆ บางทีเราก็ปฏิเสธไปเยอะเพราะเรายังไม่ไหวจริงๆ จนเราอยากทำงาน จนเราไม่อยากปฏิเสธกับงานแล้ว แต่ก็ยังเลือกรับงานที่มันไม่ต้องกระโดด ซึ่งเขาก็จะไม่เขียนบทอะไรเยอะ พิธีกรนั่งชิลๆไปเที่ยว เป็นงานที่ไม่หนักมาก ต้องขอบคุณมากครับ”

แจ๊ค เชิญยิ้ม
อัพเดตอาการป่วย

ต้องเริ่มกลับมารับงานแล้ว เพราะเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยมั้ย?
ใช่ๆ ทุกคนต้องใช้เงิน ไม่ว่าจะคนรวยคนจน แต่สุดท้ายแล้ว แจ๊คจะบอกว่า อย่าเป็นทาสเงิน เงินสำคัญมั้ย สำคัญ สุขภาพสำคัญ ครอบครัวสำคัญ เพื่อนสำคัญ พี่น้องสำคัญหมด ต้องบาลานซ์ทุกอย่างให้พอดี

ค่าใช้จ่ายต่อเดือนเยอะแค่ไหน?
“ค่าใช้จ่ายของการป่วยมันเยอะอยู่แล้ว บวกกับแฟนเราที่เป็นโรคไตด้วย บวกกับค่าใช้จ่ายประจำวันต่างๆ เราก็ต้องใช้เงิน ซึ่งแจ๊คทำงานมาตลอด 20 ปี มันมีงานมาตลอดทุกปี ทุกวัน จะไม่รับเลยก็คิดถึงการแสดงของเรา อยากมอบความสุข จะไม่รับเลย แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนมารักษาอาการป่วยเรากับแฟน ซึ่งมันก็จะเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว คนธรรมดาที่ไม่ป่วยก็ต้องใช้เงินใช้จ่ายทุกเดือนอยู่แล้ว มันสำคัญไปทุกอย่าง เพราะฉะนั้นต้องบาลานซ์ให้ดีครับ พักผ่อน รับงาน เราเป็นมาก่อน มีคนเคยบอกแจ๊คว่า ทำงานเยอะอย่างแจ๊ค ระวังจะเอาเงินไปรักษาตัวเองนะ เราไม่เชื่อหรอก คนที่ยังไม่ป่วยจะไม่เชื่อว่าสุดท้ายเงินทั้งหมดต้องเอาไปรักษาตัวเองจริงๆจนหมดเลยแบบนี้ สุดท้ายแล้วต้องบาลานซ์ให้ดีแค่นั้นเอง

ค่ารักษาพยาบาล แจ๊คกับแฟน รวมกันต่อเดือนเกือบแสนมั้ย?
“เกือบแสนต่อเดือน อยู่ที่การรักษาในแต่ละสัปดาห์ แฟนฟอกไตมั้ย เปลี่ยนเครื่องกรองหรือเปล่า เราต้องเอ็กซเรย์ปอดมั้ย เจาะเลือด บางเดือนแค่ตรวจแล้วก็รับยา บางเดือนก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายประจำวัน การได้ทำงานเหมือนการที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสและให้ค่ารักษาเราด้วย เราก็ยังพอทำงานได้ ตอนนี้เริ่มดีขึ้นทุกวัน แจ๊คไม่คิดว่าจะกลับมารับงานได้เยอะและได้ไวขนาดนี้ ก็รู้สึกดี เรายังไหว ยังพร้อมอยู่ และทุกคนอยากดูอยู่”

การป่วยทำให้ได้เห็นธรรมมะของชีวิตมั้ย?
จริงๆแจ๊คได้เห็นมาก่อนป่วยแล้ว เพราะรอบข้างแจ๊คมีแต่คนป่วย ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อสีหนุ่ม เชิญยิ้ม นอนป่วยอยู่แบบนั้น 9 ปี แฟนมาป่วยเป็นโรคไต ต้องฟอกไต เปลี่ยนไต อยู่ 3-4 ปี จนวันหนึ่งเราไม่คิดว่าเราจะมาป่วยเหมือนกับทุกคนที่อยู่รอบตัวเรา มันเข้ามาเองกับความคิดที่เป็นสัจธรรม ทำให้เรามีความคิดว่าต้องอยู่ได้ด้วยหลักธรรมคำสอน ปล่อยวาง ไม่เป็นทาสเงิน คิดดี คิดบวก มันเข้ามาทำให้บางครั้งถึงเวลาที่คุณจะต้องไปแตะธรรมะ มันจะมีบางอย่างที่นำเราไปหาท่านเอง โดยที่เราไม่ต้องบังคับจิตใจหรือฝืนทำ มันจะมาเองโดยที่เราอยากจะรับร้อยเปอร์เซ็นต์ มันเป็นเรื่องดี อยู่ที่ใครจะไปถึงตรงนั้นได้เร็วกว่ากัน แจ๊คถึงโดยที่อายุยังน้อยอยู่ ถามว่าป่วยเป็นเรื่องดีมั้ย มองได้สองมุม อยู่ที่เราจะมอง หาสิ่งที่เป็นบวกในความทุกข์ แค่นั้นชีวิตจะเป็นสุข

ปรับการใช้เงินยังไงจากที่ผ่านมามีรายได้เยอะ?
“แจ๊คเป็นคนใช้เงินน้อยอยู่แล้ว ไม่ค่อยอยากได้อะไร วันๆก็อยู่แต่กองถ่าย สตูดิโอ กินข้าวกอง เต็มที่ก็ซื้อบ้าน ซื้อแล้ว ซื้อรถแล้ว เสื้อผ้าบ้างนิดหน่อย ปีนี้สิ่งที่จะต้องเพิ่มมาในความคิดแจ๊คอีดหนึ่งอย่างคือ เราต้องมีเวลาไว้สำหรับการออกไปดูโลกบ้าง เดือนหนึ่งไปต่างจังหวัดบ้าง แจ๊คทำงานมาตั้งแต่เด็ก การที่รู้ไวแบบนี้ ทำให้เราบาลานซ์ชีวิต ไปเที่ยวได้อีกนาน อายุแจ๊ค 39 ปี แล้ว แบ่งเวลานอกเหนือจากงานแล้วไปเที่ยวกับครอบครัว เราไม่รู้ว่าจะอยู่บนโลกนี้อีกนานแค่ไหน แล้วเรามีโรคของเรา แฟนก็ป่วย แล้วพี่เจี๊ยบก็ออดๆแอดๆด้วยเป็นความดันด้วย ไม่รู้ใครจะไปก่อนใครระหว่างผมกับพี่เจี๊ยบ สุดท้ายมันหนีไม่พ้นการทำงานอยู่แล้ว แต่เราต้องหาสุขของเราที่มันขาดหายไป เราก็จะเริ่มต้นออกไปเที่ยวบ้าง

น้ำหนักขึ้นมากี่โลแล้ว?  “จากลดไป 10 โล แต่ลงมา 6 เดือนแล้วขึ้นมา 5 โล ซึ่งมันจะขึ้นมากกว่าเดิมถ้านานขึ้นไป เราต้องคุมเอง ตอนแรกจะ 68 มันลงมาเหลือ 55 เมื่อประมาณแค่ครึ่งเดือน แจ๊คก็ซีเรียสมากเรื่องน้ำหนักตัวว่าจะเอายังไงดี แล้วเราก็ซีเรียสเรื่องการแต่งตัว หุ่นเรา ความมั่นใจ เขาบอกว่าไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพอถึงเวลา 6 เดือน 9 เดือน มันจะขึ้นเองเพราะว่าหมอไม่ได้ห้ามกินอะไร เวลากินยา พอยามันเริ่มรักษาในร่างกายเราดีขึ้นแล้ว ร่างกายมันเริ่มอิ่มตัวแล้วมันก็จะดีขึ้นทั้งอาการและรูปแบบไขมัน อันนี้ขึ้นมาแล้ว 5 โล ตอนนี้ 60 กว่าแล้ว แจ๊คเริ่มออกกำลังกายได้แล้วโรคนี้มันเป็นโรคที่รักษาหายขาด คนเป็นเยอะ มีคนที่เคยเป็น เขาเคยเป็นพี่น้องเคยเป็น แล้วหายขาด”

มันเกิดจากอะไร?  “นี่ไง เราหายใจเข้าไปทุกวันนี้ ฝุ่น ควัน เชื้อโรค แบคทีเรีย เชื้อไวรัสทุกอย่างก่อนที่จะมีฝุ่น ทีนี้ในตัวของคนเรามันมีเม็ดเลือกขาว มันจะอ่อนแรง มันจะไม่ทำงาน มันจะไม่ขับเชื้อโรคออกจากตัวต่อเมื่อเราภูมิต้านทานน้อย ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย แจ๊คทำงานมาตั้งแต่เด็ก ม.3-ม.4 นอนในสตู ดรายไอซ์ เชื้อโรคอยู่ข้างนอก หายใจเข้าไป เราคอยมีเม็ดเลือดขาวคอยกำจัดออกแต่พอมันอ่อนแรงมันก็เกาะปอดจนมันเต็ม”

มันเป็นสาเหตุที่พบเจอในทั่วไป?  “ถูกครับ คนเป็นได้เยอะ เด็กตัวเล็กๆก็เป็น เรียกว่าวัณโรคปอด”

ตอนมีคนลือว่าเป็นเอดส์ตกใจไหม?  ไม่ค่อยซีเรียส แจ๊คไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องที่มันไม่ใช่ เพราะแจ๊คก็ไม่รู้ว่าแจ๊คจะไปแคร์เขาทำไม ไม่รู้จะไปแก้ข่าวทำไม เพราะว่าถึงเวลาวันนึงเขาก็จะรู้เองว่าสิ่งที่เขาคิดมันไม่ใช่ ก็จบแล้ว ด้วยการรักษาของเราพอมันดีขึ้นภาพที่เขาเห็นมันจะฟ้องเองว่าสิ่งที่เขาคิดมันไม่ใช่ ซึ่งแจ๊ครู้สึกว่าแจ๊คมีกำลังใจในการหายวันหายพรุ่งนี้ เพราะคนมาบอกว่าเป็นเยอะแล้วหายๆ

กำลังใจเราดี?  “ใช่ กับครอบครัว แม่ ทุกคน และงาน พอกินยาทุกวัน มันดีขึ้นทุกวัน มันเริ่มจะไม่เหนื่อยมากแล้ว พอยิ่งทำงานได้มันยิ่งรู้สึกดีเพราะเราเป็นคนชอบทำงานอยู่แล้ว ซึ่ง 3-4 เดือนลางานไป”

รายได้หายไปเยอะไหม?  “ก็หลายตังค์อยู่ ก่อนที่จะป่วยมีประมาณ 4-5 รายการ ซิทคอม พิธีกร ก็ลาเขาหมดเลยเงินก็หายไป แต่โชคดีที่เรามีเงินเก็บอยู่แล้วบวกกับมีผู้ใหญ่หลายท่านที่คอยช่วยเหลือว่าไปโรงพยาบาลนี้สิ เขารู้จักกับคุณหมอคนนี้ซึ่งรักษาโรคแจ๊คสายตรงเลย ก็ดีขึ้นมาเรื่อยๆจน สุดท้ายแจ๊คว่าพอจิตใจมันดี เราอยากจะทำงานมันเห็นคนอื่นทำ สุดท้ายพอเขาให้งานมันกลายเป็นเราไม่ได้ไร้ค่า ทุกคนอยากจะจ้างอยู่เหมือนเดิม สภาพไหนก็เอา โอเคเขาก็ช่วยเหลือเราด้วยหนึ่ง พอเราเล่นได้เขาก็ดีดิ่ งานอื่นเขาเห็นก็เอาเราไปเล่น”

ที่พูดว่ามีคนเตือนไม่ให้ทำงานเยอะเดี๋ยวจะเอาเงินมารักษาหมดตอนนี้เราเห็นด้วยกับประโยคนี้ เราเบางานลงไหม?

“ที่พูดว่ามีคนเตือนไม่ให้ทำงานเยอะ เดี๋ยวจะเอาเงินมารักษาหมด ตอนนี้เราเห็นด้วยกับประโยคนี้ เราเบางานลงไหมอยู่กับตัวเองอยู่แล้วว่า ถึงแจ๊คจะหาย 100 เปอร์เซ็นต์ แจ๊คก็จะรับให้มันน้อยลงกว่าเดิม แจ๊คคิดแบบนั้นแต่แฟนยังต้องใช้เงิน คือเราไม่ได้ต้องการใช้เงินเยอะขนาดนั้นแต่ด้วยงานที่มันปฏิเสธไม่ได้จริงๆด้วยความที่งานน่าสนใจ แล้วความกรุณาของงานผู้ใหญ่ ถ้าเป็นรายการรับเชิญถ้าอะไรที่เราพักได้ก็จะยังไม่รับ แต่งานที่เข้ามานี่มันเป็นรายการประจำทั้งหมด ซึ่งมันยากมากที่ตลกแต่ละคนจะมีรายการประจำ มีพิธีกร แล้วแต่ละงานที่เข้ามามันก็จะเป็นแบบนี้ทั้งหมดซึ่งเราก็ลองดูสภาพของเราแล้วว่าเราไหวนะ เดี๋ยวเหนื่อยก็พัก พอมันมีงานดีๆเข้ามา”

ที่ผ่านมาใช้ชีวิตคุ้มไปแล้ว?  “ใช่ๆ แจ๊คว่าเราโชคดีที่เรามาป่วยตอนวัยรุ่นอยู่ มันทำให้เราหายไว”

คือเลิกทุกอย่าง?  “ปกติแจ๊คก็จะไม่สูบบุหรี่อยู่แล้ว ไม่เคยสูบเลย เมื่อก่อนดื่ม เดี๋ยวนี้ทิ้งเลย เพราะว่าไม่ไหวจริงๆ แต่เมื่อก่อนตอนวัยรุ่นดื่มถึงเช้าเลย ซึ่งเมื่อก่อนเราไหวอยู่ วัยรุ่นเราก็เต็มร้อย มันก็สนุก เห้ย!! เราเคยอยู่ยันตี 1 ตี2 แล้วตื่นมาทำงานก็ยังไหว แต่ตอนนี้แค่นอนดึกนิดเดียวอีกวันนึงก็จะแย่แล้ว ความเป็นผู้ใหญ่ของเรามันเข้ามามันทำให้เราต้องปรับตัวแล้วมีวินัยในการใช้ชีวิตมากขึ้น มีสติให้มากขึ้น

อินสตาแกรม jy555

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์