เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2559 เมื่อเวลา 07.00 น. ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม  นายอติชาต  อุณหเลขกะ นายอำเภอธาตุพนม จ.นครพนม เป็นประธานนำข้าราชการ ประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยลาวลาว แต่งชุดดำ ร่วมประกอบพิธีทำบุญตักบาตรเทโว  ถวายเป็นพุทธบูชาต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องในวันออกพรรษา   ตามประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ น้อมจิตอธิษฐานถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชซึ่งได้เสด็จสวรรคต

การทำบุญครั้งนี้ยังได้เป็นการน้อมรำลึกถึง พระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ที่พระองค์เคยเสด็จพระราชดำเนิน เยี่ยมพสกนิกรชาว จ.นครพนม และยังได้เสด็จมาสักการะบูชาองค์พระธาตุพนม รวมถึง 5 ครั้ง  และครั้งล่าสุด เมื่อวันที่23 มีนาคม 2522  ได้เสด็จเป็นองค์ประธาน  ในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ขึ้นประดิษฐานภายในองค์พระธาตุพนม  โดยในช่วงการถวายไว้อาลัย  ทางวัดพระธาตุพนมจะมีการจัดบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรมถวายพระบรมศพ ในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ของทุกวัน  ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมถวายการไว้อาลัย ตลอด 30 วัน

ด้านจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 07.00 น. นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนางมลสุดา ชำนิประศาสน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประกอบพิธีทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ ที่หน้าหอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอก พระอารามหลวง เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ เป็นประธานคณะสงฆ์และสามเณร จำนวน 99 รูป รับบิณฑบาตรเนื่องในเทศกาลออกพรรษา ประจำปี พ.ศ.2559

 

ในการนี้เทศบาลเมืองแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จัดขึ้นโดยมี พ.อ.โรมรัน ชูก้าน รอง ผอ.รมน.จว.ช.ม. นายศรัณยู มีทองคำ  นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ คณะผู้บริหารท้องถิ่น ตลอดทั้งพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวมาร่วมทำบุญตักบาตรบำเพ็ญบุญกุศลถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร และความเป็นสิริมงคลตามประเพณีเป็นจำนวนมาก

ในเวลาเดียวกัน ที่บริเวณถนนสายวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ และนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยกว่า 1,000 คน สวมชุดข้าราชการ และชุดนักศึกษาติดริบบิ้นสีดำ ทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ แด่พระภิกษุสงฆ์ โดยมีพระเทพสิงหวราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร และเพื่อความสิริมงคลเนื่องในเทศกาลออกพรรษา ประจำปี พ.ศ.2559

ส่วนที่จังหวัดมหาสารคาม เมื่อเวลา 07.00 น. ที่วัดบ้านเอียด  ต.เขวา  อ.เมือง  จ.มหาสารคาม  ซึ่งเป็นวัดในชนบทประจำหมู่บ้าน  มีประชาชนสวมใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ  และเสื้อผ้าสีอ่อน  จำนวนมากเดินทางมาร่วมกันตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง  แด่พระภิกษุสงฆ์  พร้อมถวายจตุปัจจัยไทยธรรม  เพื่อสมทบทุนในการก่อสร้างศาลาหลังใหม่  และเพื่อใช้ในกิจของสงฆ์  โดยชาวบ้านต่างเดินทางกันมาทำบุญที่วัดตั้งแต่เช้าตรู่  ซึ่งชาวบ้านได้นำเสื่อมาปูบริเวณโดยรอบสิม  หรือพระอุโบสถโบราณ  ที่มีอายุกว่า 100 ปี  ภายในสิมโบราณประดิษฐานหลวงปู่ป้อ  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเอียด  ต.เขวา  ให้ความเคารพนับถือ  ก่อนที่พระสงฆ์จะเดินออกมาจากโบสถ์  เปรียบเสมือนพระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  เพื่อรับบาตรจากชาวบ้าน เป็นครั้งแรกหลังจากที่เข้าพรรษามา 3 เดือน  ซึ่งการตัดบาตรเทโวจะจัดขึ้นหลังวันออกพรรษา 1 วัน

โดยประชาชนที่มาร่วมทำบุญในครั้งนี้  ต่างอธิษฐานขอพรให้ครอบครัวมีความสุข  สุขภาพร่างกายแข็งแรง  พร้อมตั้งจิตอธิษฐานถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร  มหาภูมิพลอดุลยเดช  รัชกาลที่ 9  เพื่อแสดงความอาลัย  และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย

เช่นเดียวกับที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเมื่อช่วงเช้าตรู่ ที่บริเวณลานหน้าอุโบสถเรือสำเภา วัดศาลาลอย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ศาสนสถานสำคัญของชาวโคราช และสถานที่เก็บอัฐิท้าวสุรนารี หรือย่าโม วีรสตรีไทย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยทั่วสารทิศให้ความเคารพนับถือ พระพระเทพรัตนดิลก (หลวงปุ่วิจิตร จิตฺตทนฺโต) เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา (ธ) เจ้าอาวาสวัดศาลาลอย  นำพระภิกษุสามเณร เดินรับบิณฑบาต จากพุทธศาสนิกชน นับพันคน ได้นำอาหาร คาวหวาน มาทำบุญตักบาตรเทโว เพื่อสืบทอดประเพณีวันสำคัญของพุทธศาสนา รวมทั้งถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ท่ามกลางบรรยากาศอันโศกเศร้าอาลัย สงบ และเรียบง่าย

ที่มา มติชน