ขาดทุนยับ เลี้ยงไก่ตามโครงการรัฐ ไร้ตลาดรับซื้อ หมดทุนซื้ออาหาร หิวจัดจิกกันตายจกไส้มากิน

ขาดทุนยับ เลี้ยงไก่ตามโครงการรัฐ ไร้ตลาดรับซื้อ หมดทุนซื้ออาหาร หิวจัดจิกกันตายจกไส้มากิน

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจาก นายไพศิลป์ พรมมา อายุ 50 ปี ประธานกลุ่มการเลี้ยงไก่พันธุ์พื้นเมือง ชุมชนหันคา จ.ชัยนาท ว่า ได้เลี้ยงไก่ตามโครงการรัฐ แต่กลับขายไม่ได้ และขาดทุนจนแทบหมดตัว ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่บ้านหนองค้อ หมู่ 7 ต.หันคา อ.หันคา จ.ชัยนาท พบว่าเกษตรกรกลุ่มการเลี้ยงไก่พันธุ์พื้นเมือง ชุมชนหันคา กำลังหั่นหยวกกล้วย เพื่อเลี้ยงไก่กว่า 700 ตัว ที่ถูกเลี้ยงรวมกันอย่างแออัดในโรงเรือน ทางกลุ่มหมดทุนในการซื้ออาหารมาเลี้ยง ทำให้ไก่หิวโหยถึงขั้นจิกกันจนตายแล้วจกไส้กิน ต้องตัดสินใจยอมเป็นหนี้กู้เงินมาซื้ออาหารให้ไก่กิน ซึ่งช่วงตรุษจีนนี้ วอนผู้สนใจช่วยซื้อไก่ของกลุ่มเกษตรกรฯ ชุมชนหันคา เพื่อช่วยเหลือลดภาระหนี้สินที่กำลังเพิ่มขึ้นทุกวัน

นายไพศิลป์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2561 ทางชาวบ้านหนองค้อ ได้รวมตัวกัน 30 คน ตั้งกลุ่มขึ้นเพื่อรองรับโครงการเลี้ยงไก่พื้นเมืองสร้างเสริมรายได้ ตามโครงการเสริมสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรรายย่อย ภายใต้โครงการสร้างทักษะและส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตร โดยใช้ชื่อกลุ่ม “การเลี้ยงไก่พื้นเมือง ชุมชนหันคา” ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ 120,800 บาท ใช้ในกิจกรรมสร้างโรงเรือน 20,000 บาท ค่าอาหาร 60,000 บาท (จำนวน 150 กระสอบ) ค่าลูกไก่ 40,000 บาท (1,000 ตัว)

แต่เมื่อเลี้ยงได้เพียง 2 เดือนครึ่ง อาหารไก่หมด แต่ตัวไก่ยังขายไม่ได้เพราะไม่มีตลาดรับซื้อ เนื่องจากพบว่าไก่ที่ซื้อมาเลี้ยงเป็นไก่ไทยลูกผสม 3 สายเลือด (พื้นเมือง+ไก่เนื้อ+ไก่ไข่) จึงทำให้พ่อค้าปฏิเสธการรับซื้อ ตอนแรกคิดว่าเป็นไก่พื้นเมือง หวังว่าจะขายได้ราคาดี คำนวณแล้วน่าจะได้เงินเป็นแสน แต่พอไก่โตขึ้นจึงทราบว่าเป็นไก่ไทย 3 สายเลือด จึงถูกตลาดปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายไก่ต้มน้ำปลา แม่ค้าขายไก่สดในตลาดหันคา เพราะเขาอ้างว่ากินไม่เหมือนไก่ไทยแท้ ขณะที่ทางผู้ขายไก่ก็บอกว่าจะมาซื้อคืนตามที่รับปากไว้ครั้งแรก ตอนนี้เงียบหายไปแล้ว

ขณะนี้เวลาผ่านไป 5 เดือนแล้ว เกษตรกรขาดเงินทุนซื้ออาหาร ต้องไปหาหยวกกล้วยที่ชาวบ้านตัดทิ้งมาหั่นให้ไก่ที่เหลือกว่า 700 ตัว กินประทังชีวิต ซึ่งมีไก่บางส่วนตายไป เนื่องจากถูกรุมจิกจนตายแล้วจกไส้กินด้วยความหิวโหย ได้ปรึกษากับคณะกรรมการกลุ่มแล้วจะแบ่งให้ลูกกลุ่มไปเลี้ยงก็ไม่มีใครรับเพราะศักยภาพของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงต้องทนเลี้ยงต่อไปโดยส่วนตัวได้ไปกู้ยืมเงินเพื่อนบ้านมา 22,000 บาท เพื่อแบ่งซื้ออาหารไก่จากฟาร์มใหญ่ๆ ราคาจะถูกกว่าซื้อจากร้านค้าทั่วไป

“ตอนนี้เครียดมาก อยากจะวอนให้มีคนช่วยซื้อไก่ไปบริโภค เพื่อลดภาระของกลุ่มเกษตรกรที่คาดหวังว่าจะมีรายได้เสริมจากโครงการของรัฐบาล แต่กลับเป็นภาระจนเป็นหนี้สิน สำหรับผู้สนใจจะซื้อไก่ไปบริโภค ขนาด 1.5 กิโลกรัม/ตัว 70 บาท/กก. ทำแล้วกิโลกรัมละ 90 บาท/กก. หากต้องการจะซื้อเหมาทั้งหมดจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง ติดต่อได้ทางโทรศัพท์ 097-9532836 หรือ 087-0812157” นายไพศิลป์ กล่าว