สต๊อกปาล์มพุ่ง 5.9 แสนตัน ปี’62 จี้รับมือราคาดิ่ง คาดปาล์มน้ำมันอยู่ที่ กก.ละ 2.50–3.10 บาท

สต๊อกปาล์มล้นทะลักพุ่ง 5.9 แสนตัน ปี’62 เตรียมรับมือราคาดิ่ง คาดราคาในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงจาก กก.ละ 19 บาท เหลือ กก.ละ 17 บาท

สต๊อกปาล์มพุ่ง 5.9 แสนตัน – นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ในอัตราไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 22,500 บาท วงเงินรวม 3,458 บาท ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 10 เดือน ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2561 – ก.ย. 2562 นั้น

ขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้ประกาศ ให้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันทุกท่านที่มีคุณสมบัติครบถ้วน มาแจ้งขึ้นทะเบียน ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรแล้ว ก่อนวันที่ 31 ม.ค. 2562 นั้น ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา พบว่า มีเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันมาแจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรแล้วจำนวน 296,946 ครัวเรือน เกษตรกรยืนยันเข้าร่วมโครงการ และผ่านการตรวจสอบรายชื่อแล้วจำนวน 165,287 ครัวเรือน และกรมส่งเสริมการเกษตรส่งรายชื่อเกษตรกรไปยัง ธ.ก.ส. แล้วจำนวน 133,502 ครัวเรือน

รายงานข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า ในการประชุมความก้าวหน้าการดำเนินงานของผู้รับผิดชอบรายสินค้า (Mr.รายสินค้า) ได้รายงานสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในโลกปี 2562 มีการผลิตน้ำมันปาล์มดิบ 72.26 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 4.30% โดยอินโดนีเซียผลิตได้สูงสุด 40.50 ล้านตัน รองลงมา คือ มาเลเซีย 20.50 ล้านตัน ทั้งสองประเทศมีสัดส่วนการผลิต 84.42% สำหรับไทยผลิตได้เป็นอันดับที่ 3 ของโลก ผลิต 2.90 ล้านตันหรือ 4.01%

ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มของโลก 68.77 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5.90% ส่งผลให้ในปี 2562 มีสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ คงเหลือ 10.30 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 3.83% ดังนั้น จึงคาดว่าแนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกจะลดลงและเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง กิโลกรัม (กก.) ละ 15.50-18.50 บาท

สำหรับไทยปี 2562 คาดว่ามีเนื้อที่ให้ผล 5.47 ล้านไร่ ผลผลิต 16.76 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 8.90% ในเดือนม.ค. 2562 คาดว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบของไทยเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง กก. ละ 17.00–18.00 บาท ส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรได้รับเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง กก.ละ 2.50–3.10 บาท

เมื่อนำมาสกัดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ หรือ ซีพีโอ ในปี 2562 จะมีประมาณ 3.02 ล้านตัน เมื่อรวมกับสต๊อกในปี 2561 จำนวน 0.47 ล้านตัน ส่งผลให้ในปี 2562 จะมีน้ำมันปาล์มดิบทั้งหมด 3.49 ล้านตัน ในขณะที่ความต้องการใช้ประมาณ 2.65 ล้านต้น ดังนั้น สิ้นปี 2562 จะมีสต๊อกสูงกว่าระดับสต๊อกที่เหมาะสมที่ 2.5 แสนตัน ถึง 5.9 แสนตัน

เพื่อให้ปริมาณการผลิตและการใช้น้ำมันปาล์มดิบในประเทศเกิดสมดุล และระบบราคามีเสถียรภาพ จำเป็นต้องผลักดันส่งออกอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยประมาณเดือนละ 49,000 ตัน แต่เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันปาล์มในตลาดโลกเริ่มชะลอตัว จากอินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลก นำเข้าน้ำมันปาล์มเฉลี่ยปีละ 10 ล้านตัน และเป็นประเทศคู่ค้าหลักของไทย มีการใช้มาตรการชะลอการนำเข้าโดยการปรับอัตราภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นจาก 30 เป็น 44%
ส่งผลทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกลดลง คาดราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงจากกก.ละ 19 บาท เหลือ กก.ละ 17 บาท หรือต่ำกว่านั้นในบางช่วงเวลา กดดันทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศลดลงตามไปด้วย รัฐบาลจึงเร่งจากเงินช่วยเหลือค่าครองชีพกับเกษตรกร