เผยแพร่ |
---|
วิธีการเทรดฟอเร็กในตลาดประเทศไทย
ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับฟอเร็ก
ฟอเร็ก (Forex) หรือที่เรียกกันว่า “ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ” เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีปริมาณการซื้อขายต่อวันสูงถึงหลายล้านล้านดอลลาร์ เทรดเดอร์สามารถเข้าซื้อและขายคู่สกุลเงินต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นวันหยุดสุดสัปดาห์ ตลาดนี้เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงและมีโอกาสทำกำไรได้ทั้งในขาขึ้นและขาลงของราคา
ในตลาด ฟอเร็ก นักเทรดสามารถใช้คำสั่งประเภทต่างๆ เพื่อเข้าและออกจากตลาดได้ หนึ่งในเครื่องมือที่นิยมใช้กันคือคำสั่ง pending order ซึ่งเป็นคำสั่งล่วงหน้าที่กำหนดให้ดำเนินการเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ คำสั่งนี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมจุดเข้าและจุดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา
ประเภทของคำสั่งซื้อขายในฟอเร็ก
การเทรดในตลาด ฟอเร็ก สามารถทำได้โดยใช้คำสั่งที่หลากหลาย ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ :
Market Order – เป็นคำสั่งซื้อขายทันทีตามราคาตลาด ณ ขณะนั้น เทรดเดอร์สามารถเข้าและออกจากตลาดได้อย่างรวดเร็ว
Pending Order – เป็นคำสั่งที่ตั้งล่วงหน้า โดยราคาต้องถึงระดับที่กำหนดก่อนคำสั่งจึงจะถูกดำเนินการ ประเภทของคำสั่ง pending order มีดังนี้ :
– Buy Limit : คำสั่งซื้อที่ตั้งราคาต่ำกว่าราคาปัจจุบัน
– Sell Limit : คำสั่งขายที่ตั้งราคาสูงกว่าราคาปัจจุบัน
– Buy Stop : คำสั่งซื้อที่ตั้งราคาสูงกว่าราคาปัจจุบัน
– Sell Stop : คำสั่งขายที่ตั้งราคาต่ำกว่าราคาปัจจุบัน
การใช้ pending order เหล่านี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวางแผนการซื้อขายได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยไม่ต้องนั่งรอดูการเคลื่อนไหวของราคาตลอดเวลา
กลยุทธ์การเทรดฟอเร็กที่เหมาะสมกับตลาดไทย
การเทรด ฟอเร็ก ในประเทศไทยมีข้อจำกัดบางประการเกี่ยวกับกฎหมายและข้อบังคับ อย่างไรก็ตาม นักเทรดสามารถเทรดผ่านโบรกเกอร์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลสากล นอกจากนี้ การใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างของกลยุทธ์ที่นิยมใช้ ได้แก่ :
Scalping – เป็นกลยุทธ์ที่ใช้การเทรดระยะสั้น โดยทำกำไรจากความผันผวนของราคาในช่วงเวลาสั้นๆ
Day Trading – การเทรดภายในวันเดียวกัน โดยปิดคำสั่งทั้งหมดก่อนตลาดปิด เพื่อลดความเสี่ยงจากการเปิดสถานะข้ามคืน
Swing Trading – การถือสถานะการซื้อขายในช่วงเวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์ โดยอาศัยแนวโน้มของราคา
Position Trading – เป็นการเทรดระยะยาว โดยเน้นปัจจัยพื้นฐานและแนวโน้มระยะยาวของตลาด
การเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและเป้าหมายของนักเทรดแต่ละคน การเรียนรู้และฝึกฝนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สามารถพัฒนากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความเสี่ยงและแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยง
แม้ว่าการเทรด ฟอเร็ก จะมีโอกาสทำกำไรสูง แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน นักเทรดควรมีแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีเพื่อปกป้องเงินทุนของตนเอง เทคนิคที่สามารถใช้ได้ ได้แก่ :
1. การใช้ Stop Loss – กำหนดจุดหยุดขาดทุนล่วงหน้าเพื่อลดความเสี่ยงของการสูญเสียมากเกินไป
2. การใช้ Leverage อย่างระมัดระวัง – แม้ว่า Leverage จะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรได้ แต่ก็ควรใช้อย่างมีสติและไม่มากเกินไป
3. การกระจายความเสี่ยง – ไม่ควรนำเงินทั้งหมดไปลงทุนในคู่สกุลเงินเดียวกัน แต่ควรกระจายการลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยง
4. การติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจ – เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและข่าวสารที่สำคัญสามารถส่งผลกระทบต่อราคาในตลาดฟอเร็ก นักเทรดควรติดตามข่าวสารเหล่านี้เพื่อวางแผนการซื้อขายอย่างเหมาะสม
โดยสรุป การเทรดฟอเร็กในตลาดประเทศไทยสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพหากมีความรู้และกลยุทธ์ที่ดี การเข้าใจประเภทของคำสั่งซื้อขาย การใช้ pending order อย่างถูกต้อง และการบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในตลาดนี้