เผยแพร่ |
---|
ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เปิดตัว My Global Trade Services แพลตฟอร์ม AI เพื่อการขนส่งระหว่างประเทศที่ง่ายขึ้น ช่วยธุรกิจเข้าถึงตลาดใหม่ทั่วโลก
- My Global Trade Services (MyGTS) คือแพลตฟอร์มออนไลน์แบบบริการตัวเองที่ช่วยให้การค้นหาพิกัดศุลกากร หรือ HS Codes ง่ายขึ้น
- ผู้ใช้สามารถคำนวณต้นทุนแฝงที่เกี่ยวกับการขนส่งระหว่างประเทศ ช่วยสร้างความโปร่งใสและเพิ่มความเชื่อมั่นระหว่างธุรกิจและลูกค้า
- เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ช่วยธุรกิจเปรียบเทียบและวิเคราะห์ข้อได้เปรียบระหว่างตลาดแต่ละประเทศได้
- บริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องจัดซื้อวัสดุจากต่างประเทศสามารถคุมต้นทุนได้ง่ายและเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มระดับการแข่งขัน
กรุงเทพฯ 26 มิถุนายน 2567 – ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ผู้นำระดับโลกด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ พัฒนา My Global Trade Services (MyGTS) แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อให้การขนส่งระหว่างประเทศสำหรับลูกค้าง่ายขึ้น และเอื้อให้กระบวนการขนส่งข้ามพรมแดนเป็นไปอย่างรวดเร็ว ผู้ใช้แพลตฟอร์มจะได้รับข้อมูลด้านการเดินพิธีศุลกากร ต้นทุนแฝงโดยประมาณ และทราบข้อกำหนดด้านศุลกากรของประเทศต้นทางและปลายทางก่อนส่งของ
แพลตฟอร์มนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับข้อกำหนดที่มีของประเทศต่างๆ ที่ต้องการส่งออกหรือนำเข้าเพื่ออ้างอิงและเปรียบเทียบ เหมาะสำหรับบริษัทที่กำลังวางแผนกลยุทธ์ขยายตลาด โดยสามารถนำโซลูชันนี้ไปใช้ประกอบการตัดสินใจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางการค้า
MyGTS เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับใช้งานด้วยตัวเอง มีฟีเจอร์ที่ใช้งานง่าย รวบรวมข้อมูลด้านศุลกากรได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้วางแผนการขนส่งล่วงหน้า โดยเฉพาะเมื่อธุรกิจต้องการเข้าถึงตลาดใหม่หรือเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในต่างประเทศ แพลตฟอร์ม MyGTS ใช้ AI และ Machine Learning นำเสนอภาพรวมข้อตกลงทางการค้าต่างๆ ไว้ในที่เดียว พร้อมแจ้งภาษีและอากรคร่าวๆ รวมไว้ในต้นทุนแฝงที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งไปยังประเทศต่างๆ ต้นทุนแฝง (Landed Costs) คือค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องตั้งแต่สินค้าออกจากโรงงานและส่งไปถึงมือลูกค้า นอกจากค่าธรรมเนียมในการขนส่งและค่าประกัน ยังมีค่าภาษีศุลกากรและภาษีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งระหว่างประเทศด้วย
ในการใช้งานแพลตฟอร์ม ผู้ใช้เพียงระบุว่าสินค้าที่ต้องการส่งคืออะไร พร้อมประเทศหรือเขตปกครองพิเศษที่จะส่งออกหรือนำเข้าไป แพลตฟอร์มนี้เหมาะกับเอสเอ็มอีหรือธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (SMEs) เป็นพิเศษ เพราะเจ้าของธุรกิจมักประสบปัญหาเรื่องการขาดแหล่งข้อมูล ความรู้ และความเชี่ยวชาญในการดำเนินการตามกระบวนการศุลกากรที่ซับซ้อนในแต่ละประเทศ
“บริษัทต่างๆ รวมถึงเอสเอ็มอีพยายามทำทุกทางเพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้ธุรกิจตนเองก้าวสู่ตลาดโลกให้ได้ แต่สำหรับเอสเอ็มอี หนึ่งในความท้าทายของธุรกิจคือความซับซ้อนด้านข้อกำหนดทางการค้าและการปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ซึ่งทำให้แผนการขยายธุรกิจของเอสเอ็มอีเป็นไปได้ช้า” เฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าว “ฟีเจอร์ใหม่ของ MyGTS ที่เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ทางการค้าของประเทศต่างๆ จะช่วยเพิ่มความเข้าใจเรื่องเงื่อนไขศุลกากรและต้นทุนแฝงสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีได้อย่างดี ซึ่งเป็นไปตามความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบโซลูชันที่ล้ำสมัยช่วยเอสเอ็มอีลดอุปสรรคทางการค้าในต่างประเทศและเพิ่มความมั่นใจในการค้าข้ามพรมแดนกว่าที่เคย”
ใช้งานง่ายเพื่อการดำเนินพิธีด้านศุลกากรที่ราบรื่น
ลูกค้าของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส สามารถใช้แพลตฟอร์ม MyGTS ค้นหาพิกัดศุลกากร (Harmonized System codes หรือ HS codes) ที่ต้องใช้ในการขนส่งสินค้า เพียงระบุคีย์เวิร์ดหรือหมวดหมู่สินค้า แพลตฟอร์มจะใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และ Machine Learning เพื่อแสดงพิกัดศุลกากรที่ถูกต้อง ทำให้พิธีการศุลกากรดำเนินเป็นไปได้อย่างรวดเร็วขึ้น ถูกต้องขึ้น และลดความล่าช้าในการขนส่ง นอกจากนี้ ยังช่วยลูกค้าหลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่คาดคิด อย่างเช่น ค่าอากรศุลกากร หรือภาษีเพิ่มเติมอีกด้วย
สำหรับผู้ค้า เมื่อทราบค่าภาษีและอากรโดยประมาณจะทำให้ปรับกลยุทธ์ราคาได้อย่างแม่นยำ และสามารถนำเสนอราคาที่เหมาะสมให้กับลูกค้าได้
ข้อมูลเกี่ยวกับการเปรียบเทียบประเทศคู่ค้า
ฟีเจอร์ใหม่นี้ช่วยธุรกิจวิเคราะห์และเลือกเส้นทางการค้าที่มอบเงื่อนไขที่ดีที่สุดสำหรับการนำเข้าและส่งออกสำหรับธุรกิจคุณ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มผลกำไรให้ธุรกิจ เมื่อต้องค้นหาหรือจัดซื้อวัสดุจากโรงงานหรือผู้ค้าจากที่ต่างๆ ฟีเจอร์นี้จะช่วยผู้นำเข้าหาข้อมูลได้ว่าต้องใช้ใบอนุญาตนำเข้าหรือไม่ ในขณะเดียวกัน ผู้ส่งออกจะได้เข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านศุลกากรสำหรับการนำเข้าสินค้าไปในประเทศปลายทาง ข้อมูลเหล่านี้สำคัญกับธุรกิจมาก เพราะจะช่วยกำหนดกลยุทธ์การขยายตลาดและวางตำแหน่งธุรกิจให้ชัดเจนเพื่อสร้างความแตกต่างในตลาดใหม่ๆ ได้
เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายตลาดไปต่างประเทศ
ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ทางการค้าของประเทศต่างๆ ช่วยทั้งลดความเสี่ยงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้ธุรกิจ บริษัทสามารถใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อลดการผูกขาดธุรกิจกับผู้ค้าในประเทศใดประเทศหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีโอกาสพัฒนาความร่วมมือกับคู่ค้าจากตลาดอื่นๆ เช่นในเอเชียซึ่งเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยโรงงานผลิตจำนวนมากและเป็นตลาดผู้บริโภคที่น่าจับตามอง โดยข้อมูลจากรายงานล่าสุด DHL Global Connectedness Report ระบุว่า โลกาภิวัตน์สำหรับองค์กรกำลังเพิ่มขึ้น เพราะบริษัทเริ่มหันมาลงทุนในตลาดต่างประเทศและขยายธุรกิจให้มีการรับรู้ในตลาดนานาชาติมากขึ้น
MyGTS เป็นส่วนหนึ่งของบริการ Global Trade Services จากดีเอชแอล พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้ธุรกิจ ช่วยผู้ส่งเอาชนะความท้าทายด้านกฎ ระเบียบ และข้อกำหนดศุลกากรและที่ซับซ้อน นอกจากฟีเจอร์เปรียบเทียบประเทศสำหรับการค้าแล้ว MyGTS ยังมีเครื่องมือสำหรับการวางแผนการขนส่งล่วงหน้าที่ช่วยธุรกิจเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านกฎระเบียบศุลกากรทั้งการนำเข้าและส่งออก รวมถึงคำนวณค่าต้นทุนแฝงด้วย
ดีเอชแอล-ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับโลก
ดีเอชแอล คือผู้นำระดับโลกด้านการให้บริการโลจิสติกส์ เรามีบริการที่หลากหลายครอบคลุมตั้งแต่การขนส่งสินค้าภายในและระหว่างประเทศ การขนส่งสินค้าอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์โซลูชันครบวงจร การขนส่งด่วนระหว่างประเทศ การขนส่งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ตลอดจนการบริหารจัดการซัพพลายเชนในธุรกิจต่างๆ
เรามีบุคลากรกว่า 395,000 คน ในมากกว่า 220 ประเทศ จึงสามารถเชื่อมโยงผู้คนและการดำเนินธุรกิจทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่องด้วยบริการขนส่งที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์โซลูชันและสถานะที่แข็งแกร่งในตลาดที่กำลังเติบโต อาทิ ด้านเทคโนโลยี ชีววิทยาศาสตร์และบริการทางการแพทย์ วิศวกรรม อุตสาหกรรมการผลิตและพลังงาน รวมถึงธุรกิจยานยนต์และค้าปลีก ดีเอชแอลจึงมั่นใจว่า เราคือ “ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับโลก” ที่แท้จริง
ดีเอชแอล เป็นส่วนหนึ่งของดีเอชแอล กรุ๊ป ซึ่งมีรายได้มากกว่า 81,800 ล้านยูโรในปี 2565 ด้วยหลักการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน สังคมและสิ่งแวดล้อม กลุ่มบริษัทฯ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประโยชน์คืนสู่โลก โดยตั้งเป้าเป็นบริษัทโลจิสติกส์ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2593