ชี้ให้ชัด! ประกันชั้น 2 กับ 3+ คุ้มครองต่างกันอย่างไร

ไม่ว่าใครที่มีรถยนต์ เชื่อว่าก็จะต้องมองหาประกันรถที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในการใช้งานของตัวเอง มีตัวเลือกหลากหลาย ตั้งแต่การทำประกันชั้น 2 และประกันชั้น 3+ โดยแต่ละกรมธรรม์ก็มีความแตกต่างด้านความคุ้มครองและครอบคลุมในเงื่อนไขที่ต่างกัน หากจำเป็นต้องเลือกจ่ายเบี้ยประกันเพื่อคุ้มครองรถยนต์ของเรา จะเลือกอันไหนดี แล้วทั้ง 2 อันนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร

ประกันชั้น 2 กับ 3+ มีความคุ้มครองต่างกันอย่างไร

ถึงแม้การทำประกันรถยนต์จะเป็นสิ่งที่เจ้าของรถทุกคนอุ่นใจ แต่ก็มีเงื่อนไขที่จำเป็นต้องคำนึงอยู่ด้วย ก่อนจะเลือกจ่ายค่าเบี้ยประกัน ควรเปรียบเทียบความแตกต่าง วันนี้เรามีความแตกต่างของทั้งประกันชั้น 2 และ 3+ มาบอกกัน

เนื่องจากเป็นประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองค่อนข้างคล้ายกัน การทำประกันรถชั้น 2 และ 3+ ครอบคลุมถึงรถยนต์ที่อายุไม่เกิน 15 ปี และจะรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก เช่น คู่กรณีตามเงื่อนไขตามที่ตกลงในกรมธรรม์ ถึงแม้จะครอบคลุมค่อนข้างคล้ายกัน แต่ก็มีข้อยกเว้นในกรณีต่อไปนี้ เช่น ความคุ้มครองรถหาย รถไฟไหม้ รถโดนน้ำท่วม เป็นต้น

ความคุ้มครองรถหาย

กรณีรถยนต์หาย รถยนต์ที่มีประกันชั้น 2 จะได้รับการคุ้มครองที่ครอบคลุมถึงกรณีนี้ด้วยเช่นเดียวกัน แต่กลับกัน ตามเงื่อนไขของประกันชั้น 3+ จะไม่ได้ครอบคลุมในส่วนนี้

ความคุ้มครองรถไฟไหม้

กรณีที่รถไฟไหม้ ไม่ว่าจะเกิดจากเหตุการณ์ธรรมชาติหรือการทำงานของเครื่องยนต์ที่ผิดปกติก็เจอไฟลุกลามขึ้น รถยนต์ที่ถือครองประกันภัย 2 ไว้ในครอบครองก็จะได้รับความคุ้มครองนี้ กลับกัน ผู้ที่ทำประกันชั้น 3+ ไว้ ก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนี้เอง

ความคุ้มครองรถโดนน้ำท่วม

เช่นเดียวกันกับกรณีรถไฟไหม้ ในวันที่ฝนตกหนักและเกิดอุทกภัย รถโดนน้ำท่วมจะอยู่ในความคุ้มครองภัยพิบัติทางธรรมชาติ หากซื้อกรมธรรม์ประกันชั้น 3+ ไว้ก็จะไม่คุ้มครองในส่วนนี้

ประกันชั้น 2 กับ 3+ เลือกแบบไหนดีกว่ากัน

แล้วรถยนต์ที่เราใช้อยู่เหมาะกับประกันชั้นไหน ข้อแรกที่ควรคำนึงถึงคือ อายุการใช้งานของรถ หากรถที่เราขับอยู่มีอายุไม่เกิน 15 ปี ก็สามารถมาดูความคุ้มครองในกรมธรรม์ที่รองรับการใช้งานของเรา เช่น คุณใช้รถบ่อยแค่ไหน มีประสบการณ์และความชำนาญในการขับรถมากน้อยแค่ไหน หากคุณใช้รถบ่อยทางเลือกจ่ายเบี้ยประกันชั้น 2 ก็จะครอบคลุมได้ดีกว่า เนื่องจากคุ้มครองการเดินทางทั้งรถของเรา และกรณีเกิดความเสียหายจากคู่กรณี

กรณีที่รถยนต์ของคุณมีอายุเกิน 15 ปี หรือความถี่ในการใช้รถต่ำ จอดรถอยู่บ้าน นานๆ ครั้งจึงสตาร์ตรถออกไปขับตัวเลือก 3+ ในการทำประกันภัยก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีราคาค่าเบี้ยที่ถูกกว่าการทำประกันชั้น 2 แน่นอน

สรุป

การตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ที่คุ้มครองรถยนต์ของเรา ไม่ว่าจะประกันชั้น 2 หรือชั้น 3+ มีความแตกต่างที่ไม่ต่างกันมาก เพราะฉะนั้น หากจะเลือกซื้อประกันให้เหมาะสม สามารถพิจารณาจากอายุของรถ และไลฟ์สไตล์ในการขับขี่ของคุณ รวมทั้งค่าเบี้ยประกันที่คุ้มค่าได้เลย