ดร.วี โชว เยา ประธานกิตติคุณและที่ปรึกษา กลุ่มธนาคารยูโอบี ถึงแก่กรรม

ดร.วี โชว เยา ประธานกิตติคุณและที่ปรึกษา กลุ่มธนาคารยูโอบี ถึงแก่กรรม

กรุงเทพฯ, 3 กุมภาพันธ์ 2567 – กลุ่มธนาคารยูโอบีมีความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่จะขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า ดร.วี โชว เยา ประธานกิตติคุณและที่ปรึกษา (Chairman Emeritus and Honorary Adviser) กลุ่มธนาคารยูโอบี ได้ถึงแก่กรรมแล้วในวัย 95 ปี

ในฐานะนักการธนาคารผู้มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล นักธุรกิจผู้มีชื่อเสียงอันเป็นที่เคารพรักและผู้เป็นเสาหลักของชุมชน ดร.วี มีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินกิจการของกลุ่มธนาคารยูโอบี ให้ก้าวสู่การเป็นธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย

ตลอดระยเวลากว่า 5 ทศวรรษ ดร.วี มีวิสัยทัศน์อันแน่วแน่ที่ตั้งอยู่บนความรอบคอบ มีวินัย และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธนาคารให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทำให้กลุ่มธนาคารยูโอบีเติบโตจากธนาคารที่มีเพียงแค่ 1 สาขาเป็นธนาคารระดับภูมิภาคมีสาขาอยู่ใน 19 ประเทศและเขตการปกครอง และมีสินทรัพย์เติบโตเพิ่มขึ้นจาก 2.8 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ เป็น 253 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ ภายในปี 2556 (ปีที่ท่านเกษียณอายุ)

โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 กลุ่มธนาคารยูโอบีมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 516 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ และได้รับการจัดลำดับให้เป็นธนาคารที่มีความแข็งแกร่งในระดับสากลจากบริษัทจัดลำดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้แก่ Aa1 โดย มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และ AA- โดย ฟิทช์ เรทติงส์ และเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์

ดร.วี เป็นที่รู้จักและยอมรับทั่วโลกในฐานะนักธุรกิจผู้มีวิสัยทัศน์โดดเด่นและกว้างไกล บทบาทอันโดดเด่นนี้เห็นได้จากการเข้าซิ้อกิจการธนาคาร 3 แห่งในประเทศสิงคโปร์ ประกอบด้วย ธนาคาร Chung Khiaw Bank ธนาคาร Lee Wah Bank และ ธนาคาร Industrial and Commercial Bank จนนำไปสู่การเข้าซื้อกิจการธนาคาร Overseas Union Bank ในปี 2544 ที่ทำให้ดร.วี ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของประเทศสิงคโปร์

นาย วอง กัง เซียง ประธานกรรมการ กลุ่มธนาคารยูโอบี กล่าวว่า “นาย วี โชว เยา เป็นหนึ่งในนักธุรกิจสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอย่างไม่ต้องเป็นที่สงสัย ความมุมานะของท่านในการทำงาน กอปรกับความแน่วแน่ที่มั่นคงและการยึดมั่นในค่านิยมของความเป็นเอเชีย ทำให้ท่านสร้างยูโอบีให้กลายมาเป็นหนึ่งในธนาคารที่เป็นที่ยอมรับมากที่สุดในโลก อิทธิพลอันโดดเด่นของท่านได้ถูกจารึกไว้ ณ ทุกหนแห่งทั่วประเทศสิงคโปร์ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรม ธุรกิจ บุคคล และชุมชน ผ่านการสนับสนุนจากกลุ่มธนาคารยูโอบี  และท่านยังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ประเทศสิงคโปร์ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลกอีกด้วย”

นาย วี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธนาคารยูโอบี และบุตรชายของดร.วี กล่าวว่า “บิดาของผมได้สร้างคุณูปการอันใหญ่หลวงให้แก่ประเทศสิงคโปร์และภูมิภาคแห่งนี้ ท่านเปรียบเสมือนแรงบันดาลใจในทุกย่างก้าวชีวิตของผม ท่านเป็นที่รู้จักในฐานะนักธุรกิจที่มีความโดดเด่นและประสบความสำเร็จอย่างมากมาย แต่สิ่งที่ท่านจะเป็นที่ระลึกถึงอยู่ตลอดเวลาคือค่านิยมของยูโอบีในด้านคุณธรรม ความสร้างสรรค์ เป็นหนึ่งเดียว และมุ่งมั่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาว การสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และการทำในสิ่งที่ถูกต้องและช่วยเหลือผู้อื่น กลุ่มธนาคารยูโอบียึดมั่นที่จะรักษามรดกและคุณค่าที่ท่านได้ถ่ายทอดให้คงอยู่สืบไป”

ดร.วี ยังเชื่อในความสำคัญของการศึกษาและการตอบแทนสังคมอีกด้วย เขาเป็นผู้ก่อตั้ง Singapore Federation of Chinese Clan Associations (SFCCA) ตั้งแต่ปี 2558 ถึงปี 2553 และดำรงตำแหน่งผู้นำของ Hokkian Huay Kuan ตั้งแต่ปี 2515 ถึงปี 2553 เขาก่อตั้ง Wee Cho Yaw Banking Forum เพื่อเชื่อมโยงระหว่างสิงคโปร์และจีน ในปี 2558 ธนาคารยูโอบียังได้จัดตั้งกองทุนการศึกษา Wee Cho Yaw Future Leaders Award มูลค่า 50 ล้านเหรียญสิงคโปร์ เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เด็กนักเรียนด้อยโอกาส

ดร.วี ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย สะท้อนถึงผลงานและคุณูปการอันเป็นที่ประจักษ์ อาทิ รางวัล Distinguished Service Order (รางวัลวันชาติสูงสุดของสิงคโปร์) รางวัล Asian Business Advisory Council Legacy Award สำหรับสิงคโปร์ และปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง

ธนาคารยูโอบี ภายใต้การดูแลของ วี โชว เยา

พ.ศ. 2492 – เข้าร่วมกับ Kheng Leong ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวที่ซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์

พ.ศ. 2501 – ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการธนาคารยูโอบี

พ.ศ. 2503 – ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการ (ดาโต๊ะ วี เค็ง เชียง ลาออกจากตำแหน่ง)

พ.ศ. 2508 – เปิดสาขาในต่างประเทศแห่งแรกในฮ่องกง

พ.ศ. 2514 – เข้าถือหุ้นใหญ่ในธนาคาร Chung Khiaw / เปิดสาขาโตเกียว

พ.ศ. 2516 – เข้าซื้อกิจการ Lee Wah Bank

พ.ศ. 2517 – ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการและซีอีโอของ UOB

พ.ศ. 2518 – เปิดสาขาลอนดอน

พ.ศ. 2520 – เปิดบริษัทตัวแทนในนิวยอร์ก

พ.ศ. 2523 – เปิดบริษัทตัวแทนในลอสแองเจลิส

พ.ศ. 2526 – เปิดสำนักงานตัวแทนในกรุงโซล

พ.ศ. 2527 – เปิดสำนักงานตัวแทนในกรุงปักกิ่ง

พ.ศ. 2528 – ขยายธุรกิจในซิดนีย์และเซียะเหมิน

พ.ศ. 2529 – ขยายธุรกิจสู่แวนคูเวอร์

พ.ศ. 2530 – เข้าถือหุ้นส่วนใหญ่ใน Industrial & Commercial Bank ในสิงคโปร์

พ.ศ. 2535 – เปิดสำนักงานตัวแทนในเวียดนาม / เปิดสำนักงานตัวแทนในไทเป

พ.ศ. 2537 – เปิดสำนักงานตัวแทนในย่างกุ้ง

พ.ศ. 2540 – รวมบริษัทในเครือของ UOB Malaysia เข้ากับบริษัทในเครือของ CKB Malaysia

พ.ศ. 2541 – เปิดสาขาเซี่ยงไฮ้

พ.ศ. 2542 – เข้าซื้อกิจการ Westmont Bank ในฟิลิปปินส์ / เข้าซื้อกิจการธนาคารรัตนสิน ในประเทศไทย

พ.ศ. 2544 – เข้าซื้อกิจการ Overseas Union Bank ในสิงคโปร์

พ.ศ. 2547 – เข้าถือหุ้น 96.1% ในบริษัท ธนาคารเอเชีย จำกัด (มหาชน) ในประเทศไทย

พ.ศ. 2548 – เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของ PT Bank Buana ในอินโดนีเซียเป็น 61.1%

พ.ศ. 2550 – ก้าวลงจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (นาย วี อี เชียง ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร)

พ.ศ. 2552 – เปิดสาขามุมไบ

พ.ศ. 2553 – รวม PT Bank UOB Indonesia กับ PT Bank UOB Buana

พ.ศ. 2556 – ก้าวลงจากตำแหน่งประธานกรรมการ รับตำแหน่งประธานกิตติคุณและที่ปรึกษา

พ.ศ. 2558 – เข้าซื้อกิจการ Far Eastern Bank อย่างเต็มรูปแบบ

พ.ศ. 2561 – เกษียณจากการดำรงตำแหน่งกรรมการ ธนาคารยูโอบี

เกี่ยวกับ ธนาคารยูโอบี

ธนาคาร ยูโอบี เป็นธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์และมีการดำเนินธุรกิจในจีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม อีกทั้งยังมีเครือข่ายระดับโลกที่ประกอบด้วยสำนักงานประมาณ 500 แห่ง ใน 19 ประเทศและเขตการปกครอง ทั้งในเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ

นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2478 ธนาคารยูโอบีได้พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านการควบรวมกิจการที่สำคัญ ปัจจุบันธนาคารยูโอบีได้รับการจัดลำดับให้เป็นธนาคารที่มีความแข็งแกร่งในระดับสากลจากบริษัทจัดลำดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้แก่ Aa1 โดย มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และ AA- โดย ฟิทช์ เรทติงส์ และเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์

ตลอดระยะเวลาเกือบ 9 ทศววรษ ธนาคารยูโอบีดำเนินธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ธุรกิจในระยะยาวโดยการปรับกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคผ่านพลังงานแห่งความสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้องแก่ลูกค้า ยูโอบีพร้อมที่จะพัฒนาอนาคตของภูมิภาคอาเซียนให้เติบโตทั้งประชากรและธุรกิจให้มีความเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงในภูมิภาค

เรายังมีส่วนในการเชื่อมต่อโอกาสทางธุรกิจภายในภูมิภาคนี้ ผ่านเครือข่ายทางการเงินที่แข็งแกร่ง เรามีการจัดทำฐานข้อมูลและรวบรวมข้อมูลเชิงลึกสำหรับพัฒนาและนำเสนอประสบการณ์ทางการเงินส่วนบุคคล และบริการทางการเงินที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลง

ยูโอบีมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจให้แก่ลูกค้า ผ่านกิจกรรมการมีส่วนร่วมทางสังคม สร้างผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ธนาคารเชื่อมั่นในการเป็นผู้บริการทางการเงินที่มีความรับผิดชอบ พร้อมทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมด้านศิลปะ เยาวชน และการศึกษา

เกี่ยวกับ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีเครือข่ายทั่วประเทศ 147 สาขา และเครื่องเบิกเงินสดอัตโนมัติ 343 เครื่อง (ข้อมูลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566) โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ได้แก่ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (อันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวที่ A3) และฟิทช์ เรทติงส์ (อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวที่ A- และความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาวที่ AAA(tha))