อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ควรเริ่มต้นและเตรียมตัวอย่างไร?

อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ควรเริ่มต้นและเตรียมตัวอย่างไร?

การมีบ้านเป็นของตัวเองนั้นเป็นความฝันของใครหลายๆ คน เพราะบ้านไม่เพียงแต่เป็นที่อยู่อาศัย หรือที่สำหรับพักกายเท่านั้น แต่บ้านยังเป็นที่พักใจ ที่จะทำให้เราได้อยู่กับครอบครัว หรืออยู่กับสภาพแวดล้อมที่ทำให้เรามีพลังใจมากขึ้น แต่การมีบ้านซึ่งเป็นสินทรัพย์ขนาดใหญ่ ก็นำมาซึ่งภาระที่มากมายอีกเช่นกัน โดยเฉพาะในเรื่องของการเงิน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ ไหนจะเป็นรูปแบบของบ้าน ทำเลที่ตั้ง สภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย หากคุณเตรียมตัวที่จะมีบ้านเป็นของตัวเอง ควรจะเตรียมตัวอย่างไรบ้าง มาดูการเช็กลิสต์เพื่อเตรียมความพร้อมให้ครบทุกด้านกันเลยดีกว่า

ตรวจสอบสภาพทางการเงินของตัวเอง

ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น สิ่งสำคัญที่สุดในการที่จะมีบ้านได้สักหลัง ก็คือเรื่องความพร้อมในด้านการเงิน ผู้ที่อยากมีบ้านต้องตรวจสอบสภาพทางการเงินของตนเองให้ดีก่อน โดยเริ่มจากรายได้ประจำ หรือเงินเดือน ว่ามีเงินเดือนเท่าไหร่ มีความมั่นคงในด้านรายได้หรือไม่ เพื่อที่จะสามารถนำเงินในส่วนนั้นมาผ่อนบ้านได้ นอกจากนี้ ก็ต้องสำรวจภาระหนี้สินของตนเองด้วย ว่าจะสามารถจ่ายค่าบ้านได้โดยตนเองไม่ต้องเดือดร้อน และจะต้องมีเงินสำรองที่จะใช้ในการดาวน์บ้าน รวมทั้งจัดการค่าบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับบ้านด้วย เพราะการจะทำให้บ้านนั้นกลายเป็นบ้านที่ใช้อยู่อาศัยได้ ไม่ได้มีแค่เฉพาะค่าบ้านเท่านั้น

เนื่องจากบ้านเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาสูง มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ จึงต้องมีการทำสินเชื่อในการกู้ซื้อบ้านกัน โดยส่วนมากแล้วผู้ที่มีความเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร มีเงินเข้าบัญชีในทุกเดือนก็จะได้รับการอนุมัติในการกู้ได้ไม่ยาก ส่วนจำนวนเงินกู้ก็จะสัมพันธ์กันกับเงินเดือนด้วย ยิ่งเงินเดือนสูงก็มีสิทธิ์ได้วงเงินสูงขึ้นไปด้วย แต่ถ้าหากคุณมีประวัติทางการเงินที่ไม่ค่อยดี หรือติดเครดิตบูโร ก็ต้องไปจัดการปิดหนี้เก่าที่ค้างไว้อยู่ให้เรียบร้อยเสียก่อน จึงจะสามารถทำสินเชื่อบ้านได้

เลือกรูปแบบบ้านที่ต้องการให้ชัดเจน

เชื่อว่าคนที่ฝันอยากมีบ้าน คงจะมีบ้านในฝันกันอยู่ในใจแล้วว่าอยากได้บ้านแบบไหน แต่เมื่อมาสู่ความเป็นจริง บ้านที่เราอยากได้ อาจจะไม่ได้เป็นบ้านแบบในฝันไปทั้ง 100% เพราะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ ทำเลที่ตั้ง ผู้อยู่อาศัยในบ้านด้วย หากอยู่คนเดียวอาจจะพิจารณาจากบ้านไปเป็นคอนโดฯ แทน หรืออยู่กันแค่ 2 คนกับแฟน ไม่ได้มีแผนจะมีลูกกัน การจะซื้อบ้านหลังใหญ่ พื้นที่เยอะๆ ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต และยังไม่ตอบโจทย์ในเรื่องของเงินอีกด้วย เพราะบ้านยิ่งใหญ่ ยิ่งมีพื้นที่เยอะ ก็ยิ่งราคาสูงขึ้นไปด้วย ยิ่งอยู่ในทำเลที่ดี ราคาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว เพราะฉะนั้น จึงต้องเลือกให้ดีว่าต้องการบ้านที่จะใช้อยู่อาศัยจริงๆ แบบไหนที่จะเหมาะกับเรา ทั้งในด้านการใช้ชีวิต และกำลังทรัพย์ที่มีอยู่

ศึกษาและสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์

อีกสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เรามีบ้านที่ต้องการ ในราคาที่สามารถจ่ายได้ คือคอยจับตาดูตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ดี ว่าในแต่ละปีมีแนวโน้มอย่างไรบ้าง ซึ่งเกี่ยวโยงไปถึงสถานการณ์บ้านเมืองต่างๆ ที่ส่งผลกระทบไปถึงธุรกิจในทุกภาคส่วน ซึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็มีทั้งเรื่องการปรับขึ้นราคาของที่ดิน ต้นทุนการพัฒนาโครงการที่สูงขึ้น จะทำให้ส่งผลต่อราคาบ้านในอนาคตอย่างไร ทำเลที่ตั้งก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ หากอยู่ใกล้เส้นทางที่รถไฟฟ้าไปถึงก็จะมีการปรับราคาให้สูงขึ้นไปอีกขั้น อีกทั้งยังมีเรื่องของดอกเบี้ยธนาคารที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อทั้งผู้ประกอบการ และผู้ที่ซื้อบ้านที่ทำให้มีกำลังซื้อ หรือผ่อนจ่ายลดลงไปด้วย เพราะฉะนั้น ผู้ที่ฝันอยากจะมีบ้านก็ต้องเตรียมความพร้อมเอาไว้ในทุกด้าน และคอยศึกษา รวมทั้งวางแผนการเงินให้พร้อม

เริ่มต้นค้นหาบ้านที่ต้องการ

เมื่อคุณได้เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ พร้อมวางแผนการซื้อบ้านไปตามข้างต้นแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มค้นหาบ้านที่คุณต้องการ ซึ่งขั้นตอนนี้คุณอาจจะเริ่มทำไปพร้อมๆ กับการวางแผน หรือเตรียมความพร้อมก็ได้ เพราะการได้ดู ได้เลือกไว้เยอะๆ ก็จะทำให้คุณเห็นภาพของบ้านที่คุณต้องการชัดเจนมากยิ่งขึ้น ก็จะทำให้คุณสามารถวางแผนได้ง่ายขึ้นไปด้วย ซึ่งการค้นหาบ้านที่ต้องการ ก็อาจจะเริ่มต้นง่ายๆ จากการค้นหาทางอินเทอร์เน็ต ตามประกาศขายของโครงการต่างๆ ซึ่งก็ทำให้คุณได้เห็นภาพบ้านออกมาแบบคร่าวๆ ทั้งขนาดบ้าน พื้นที่ ทำเลที่ตั้ง และสามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ในขั้นหนึ่ง สามารถตัดตัวเลือกที่ยังไม่ใช่สำหรับคุณออกไปได้

ตรวจสอบสภาพบ้าน

ไม่ว่าจะเป็นบ้านเก่า หรือบ้านใหม่ สิ่งที่ต้องทำเลยคือการไปดูบ้านให้เห็นกับตาตัวเอง หากเป็นบ้านเก่าก็ต้องดูว่าสภาพบ้านเป็นอย่างไร มีอะไรจะต้องปรับปรุงแก้ไข หากรีโนเวตจะคุ้มไหม หรือเป็นบ้านใหม่ก็ต้องมีการตรวจสอบให้ครบถ้วนก่อนจะรับมอบจากโครงการ โดยอาจใช้ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจบ้านเข้ามาช่วยตรวจสอบให้ หากมีปัญหาเกี่ยวกับบ้านที่จะทำให้เกิดปัญหามาภายหลัง ก็จะได้ให้โครงการทำการแก้ไขให้เรียบร้อยก่อน โดยการดูบ้านนั้นไม่เพียงแต่ดูสภาพของตัวบ้าน แต่ยังรวมไปถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบ ผู้พักอาศัย เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเป็นอย่างไรบ้าง หากอยู่ในหมู่บ้าน ก็ต้องดูว่านิติหมู่บ้านมีการจัดการที่ดีหรือไม่

ต่อรองราคา

สำหรับการซื้อบ้าน ในการต่อรองราคาจะขอแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ การซื้อบ้านใหม่ และการซื้อบ้านมือสอง ซึ่งในการซื้อบ้านมือสองจะสามารถเจรจาต่อรองได้มากกว่า ส่วนบ้านใหม่จะเน้นไปที่โปรโมชันของโครงการ เมื่อมีการออกบูธตามงานต่างๆ ก็จะมีโปรมาลดแลกแจกแถมให้มากมาย ซึ่งก็จะได้ราคาที่ถูกลงมา ซึ่งผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน หากได้ไปดูมาแล้วชอบ แต่ราคาอาจจะยังไม่ได้ตามที่ต้องการ ก็ต้องคอยติดตามความเคลื่อนไหวของราคาไว้ให้ดี หากมีการลดแล้วคุ้มไหม เช่น การปรับราคาลงเฉพาะผู้ที่ซื้อในงาน หรือทำการจองในงานเท่านั้น การซื้อพร้อมแถมเฟอร์นิเจอร์ โปรโมชันอยู่ก่อนผ่อนทีหลัง หากดูแล้วคุ้มค่า ได้ตามที่ต้องการก็สามารถไปถึงขั้นตอนการจองได้เลย

ส่วนการซื้อบ้านเก่า หรือบ้านมือสองต่อจากผู้อื่น การเจรจาที่จะทำให้เราได้ราคาดีที่สุดก็คือเราต้องเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับบ้าน ทำเลพื้นที่ไว้ให้ครบ พร้อมศึกษา สำรวจราคาบ้านที่อยู่ในพื้นที่นั้น เพื่อใช้การเจรจาด้วยข้อมูล โดยผู้ซื้ออาจจะบอกราคา หรืองบประมาณที่ตนเองสามารถจ่ายได้ไปตรงๆ เลย หากเป็นการเจรจาต่อรองกับเจ้าของบ้านโดยตรง ก็อาจจะทำได้ง่ายกว่าด้วยการสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง โน้มน้าวใจให้ได้ แต่หากเป็นการต่อรองผ่านคนกลาง ก็ต้องพูดถึงข้อมูล ผลประโยชน์ จุดด้อยของบ้านที่เราอาจจะต้องเสียค่าซ่อมเพิ่ม และอาจจะเปรียบเทียบกับราคาของคู่แข่ง ซึ่งการต่อรองอาจจะไม่ได้จบในครั้งเดียว ต้องหาจนกว่าจะได้สิ่งที่เราพึงพอใจจริงๆ เพราะบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะมายอม หรือปล่อยผ่านไปได้ง่ายๆ

ตรวจสอบเอกสาร

เมื่อทำการเจรจาตกลงซื้อขายกันได้ลงตัวแล้ว ก็ถึงเวลาในการเตรียมเอกสารต่างๆ เพื่อใช้ในการทำสัญญาการตกลงซื้อขาย และใช้เพื่อทำสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน โดยเป็นเอกสารทั้งจากฝั่งผู้ซื้อเอง และฝั่งผู้ขาย โดยฝั่งผู้ซื้อก็เตรียมเอกสารยืนยันตัวตน เอกสารยืนยันรายได้ หรือแสดงรายได้ เอกสารหลักประกัน ซึ่งทางนี้ฝั่งผู้ขายจะต้องนำมาให้ เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน หรือแผนที่แสดงที่ตั้งของที่ดิน โดยผู้ซื้อสามารถตรวจสอบโฉนดที่ดิน ชื่อเจ้าของที่ดินได้ที่สำนักงานที่ดิน หรือในปัจจุบันนี้สามารถตรวจสอบผ่านทางแอปพลิเคชัน หรือทางออนไลน์ได้อีกหนึ่งช่องทาง

ตรวจสอบความถูกต้อง

ก่อนจะไปถึงการทำสัญญา การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารต่างๆ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดตามมาในภายหลัง หรือจะต้องเสียเปรียบในการซื้อบ้านครั้งนี้ อะไรที่สำคัญก็ต้องตรวจสอบให้ถูกต้อง หรือมีสัญญา ข้อตกลงว่าจะได้รับอะไรบ้างในการซื้อบ้านครั้งนี้ ก็ต้องตรวจสอบว่าได้รับตามที่ได้ตกลงกันไว้ หากไม่ได้ดังที่ได้คุยกันไว้ ก็ต้องมีการทักท้วง พูดคุยกันให้ตรงกัน จึงจะไปถึงขั้นตอนก่อนทำสัญญาได้ เพราะเมื่อทำสัญญาไปแล้ว หากไม่ได้ตามที่ตกลงกันไว้ ผู้ขายก็อาจจะหลีกเลี่ยงเพราะไม่มีในสัญญา และเกิดปัญหาตามมาได้

ทำสัญญาซื้อขาย

มาถึงขั้นตอนสำคัญ ขั้นตอนที่คุณใกล้จะกลายเป็นเจ้าของบ้านสักหลังที่คุณได้วางแผน และเลือกมาเองกับมือ ต้องทำความเข้าใจในเรื่องของสัญญากันก่อน ซึ่งในการทำสัญญาก็มีตั้งแต่สัญญาจองซื้อ สัญญาจะซื้อจะขาย และสัญญาซื้อขาย โดยแต่ละแบบก็มีความแตกต่างกันดังต่อไปนี้

สัญญาจองซื้อ เป็นสัญญาสำหรับการซื้อขายบ้านในประเภทที่ยังไม่มีการก่อสร้าง เช่น โครงการบ้าน หรือคอนโดฯ ต่างๆ ที่กำลังจะทำการก่อสร้างขึ้น ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดในเรื่องแปลงที่ดินอย่างชัดเจน แต่ทำการจองไว้ก่อนว่าจะซื้อในโครงการนี้

สัญญาจะซื้อจะขาย เป็นเอกสารที่มีการตกลงว่าจะซื้อขายกันแน่นอน โดยมีระบุเงื่อนไขต่างๆ ทั้งหมดอย่างชัดเจน รวมถึงวันโอนกรรมสิทธิ์ เป็นสัญญาที่มีผลทางกฎหมายหากมีการผิดสัญญาก็สามารถฟ้องร้องเอาผิดได้ แต่หากมีการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายก็สามารถยกเลิกสัญญาได้ ซึ่งสัญญาจะซื้อจะขายยังเป็นเอกสารที่ใช้ในการยื่นขอสินเชื่ออีกด้วย

สัญญาซื้อขาย เป็นส่วนสุดท้ายที่มีการตกลงซื้อขายกันจริงๆ ซึ่งจะมีผลตามกฎหมาย เพื่อทำให้การซื้อขายนั้นจบลง โดยสัญญานี้จะต้องทำต่อหน้าเจ้าพนักงาน และได้รับการจดทะเบียนโดยเจ้าพนักงาน ของสำนักงานที่ดินในท้องที่เท่านั้น ซึ่งเมื่อมีการทำสัญญา ก็จะถือว่าเป็นอันสิ้นสุด ไม่สามารถยกเลิกได้

รอรับการโอนกรรมสิทธิ์

เมื่อถึงวันที่จะได้รับการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน สิ่งที่ต้องเตรียมคือเอกสารที่ใช้ในการโอน รับโอน โดยทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องเตรียมมาให้ครบถ้วน สำหรับผู้ที่ขอสินเชื่อ ก็ต้องเตรียมเอกสารหนังสือจำนอง และใบเสร็จค่าจดจำนองไปด้วย พร้อมทั้งต้องเตรียมเงินสำหรับการชำระค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติม โดยจะทำที่สำนักงานที่ดิน ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ที่บ้านในฝันของเรา จะได้กลายมาเป็นบ้านของเราจริงๆ

สานฝันคนอยากมีบ้าน เริ่มวางแผนได้ตั้งแต่วันนี้

การอยากมีบ้านจะไม่ใช่ความฝันลมๆ แล้งๆ ของมนุษย์เงินเดือนอีกต่อไป หากรู้ว่าควรเริ่มต้น และเตรียมตัวอย่างไรในการซื้อบ้าน ไปจนถึงขั้นตอนของการจะได้บ้านมาสักหลัง โดยทุกท่านสามารถเริ่มสานฝันตนเองได้ตั้งแต่วันนี้ โดยเริ่มตั้งแต่การวางแผนทางด้านการเงิน เลือกรูปแบบบ้านที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย บ้านที่คุณอยากได้ ก็จะไม่ใช่เพียงความฝันอีกต่อไป ดังนั้น หากคุณอยากเลือกซื้อบ้านดีๆ ที่จัดการขั้นตอนได้ง่าย ไม่ต้องยุ่งยาก มาลองดูที่ KCL PROPERTY บริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นตัวกลางการซื้อขายสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ขายบ้าน ขายทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม รีสอร์ท เรสซิเดนซ์ ที่ดิน อื่นๆ อีกมากมาย