KCC ขยับฐานะเป็นโฮลดิ้ง ปลดล็อกให้สามารถซื้อหนี้จาก Non Bank ได้

นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ KCC
นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ KCC

KCC ขยับฐานะเป็นโฮลดิ้ง ปลดล็อกให้สามารถซื้อหนี้จาก Non Bank ได้

บอร์ด KCC ไฟเขียวปรับโครงสร้าง ตั้ง ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง ปูพรมประมูลหนี้ Non Bank ทั้งหนี้หุ้นกู้ หนี้ที่อยู่ในการฟื้นฟูกิจการจากนิติบุคคลอื่น ซึ่งจากเดิมซื้อหนี้ได้เฉพาะจากสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินตามที่ใบอนุญาต AMC กำหนดเท่านั้น แต่จะยังคงเน้นธุรกิจ AMC ที่บริษัทมีประสบการณ์และประสบความสำเร็จมายาวนานเป็นหลัก พร้อมเปิดสูตรแลกหุ้น 1 หุ้น KCC ต่อ 1 หุ้นโฮลดิ้ง ดันโฮลดิ้งจดทะเบียนใน mai แทน

นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ KCC ผู้ดำเนินธุรกิจจัดหาและบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขายและการปรับปรุงทรัพย์สินรอการขายเพื่อจำหน่าย เปิดเผยว่า

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 มีมติอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัทฯ (แผนปรับโครงสร้างฯ) และการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ

โดยจัดตั้ง บริษัท ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (Knight Club Capital Holding Public Company Limited) (บริษัทโฮลดิ้ง) โดยบริษัทจะต้องขออนุมัติต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่11 กันยายน 2566 

ทั้งนี้ การยกระดับเป็นบริษัทโฮลดิ้ง มีวัตถุประสงค์หลัก คือ 1. เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ ลดข้อจำกัดด้านการลงทุน โดยจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กลุ่มบริษัทฯ เพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว 

2. เพื่อให้สามารถแบ่งแยกขอบเขตการบริหารธุรกิจและการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจได้อย่างชัดเจน โดยจะสามารถจำกัดความเสี่ยงจากการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจบริหารสินทรัพย์เดิมซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ

3. เพื่อให้สามารถขยายการลงทุนไปยังธุรกิจใหม่ได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ภายใต้การบริหารงานของผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสายธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้แต่ละธุรกิจสามารถเติบโตและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย นำไปสู่ผลการดำเนินงานที่ดีให้กับกลุ่มบริษัทในอนาคต

และ 4. เพื่อเพิ่มศักยภาพของบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญในแต่ละธุรกิจเนื่องจากแต่ละธุรกิจสามารถกำหนดขอบเขต หน้าที่ ความรับผิดชอบของบุคลากรในแต่ละสายงานได้อย่างชัดเจน

“การยกฐานะขึ้นเป็นโฮลดิ้งจะทำให้มีความคล่องตัว สามารถลงทุนซื้อหนี้จากบุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เฉพาะหนี้จากสถาบันการเงินเท่านั้น ในการปรับโครงสร้างหนี้โดยการฟื้นฟูกิจการ จะมีหนี้อื่นๆ เช่น หุ้นกู้ หนี้การค้า

ซึ่งโดยมากจะถือโดยนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดา ซึ่ง AMC ไม่สามารถเข้าไปซื้อได้ การปรับโครงสร้างเป็นโฮลดิ้งจึงทำให้บริษัทสามารถขยายช่องทางในการซื้อหนี้ได้มากขึ้น เพราะบริษัทมีความชำนาญในเรื่องของการซื้อหนี้อยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี KCC จะยังคงเน้นธุรกิจ AMC ที่บริษัทมีประสบการณ์และประสบความสำเร็จมายาวนานเป็นหลัก ตามทิศทางการเปิดประมูลหนี้ของสถาบันการเงินยังที่มีต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทก็เห็นโอกาสเข้าไปประมูลหนี้ที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้ศาลล้มละลายที่เริ่มมีเพิ่มมากขึ้น” นายทวีระบุ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KCC กล่าวต่อว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้ บริษัท ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง จะทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทจากผู้ถือหุ้น โดยบริษัทโฮลดิ้งจะออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในอัตราการแลกหลักทรัพย์เท่ากับ 1 หุ้นสามัญของบริษัทฯ ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทโฮลดิ้ง

และภายหลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทโฮลดิ้งเสร็จสิ้น จะนำหุ้นสามัญของบริษัทโฮลดิ้งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) แทนหุ้นสามัญของบริษัทฯ หรือ KCC ซึ่งจะถูกเพิกถอนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และ KCC จะถือหุ้นเกือบ100% โดยบริษัทโฮลดิ้ง

นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างครั้งนี้จะไม่กระทบต่อหุ้นกู้ของบริษัท เพราะฐานะการเงิน ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ หรือความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้ไม่แตกต่างไปจากเดิมเนื่องจากบริษัทฯ ในฐานะผู้ออกหุ้นกู้ยังคงมีรายได้มาจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์จากการประกอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์ได้เหมือนเดิมทุกประการ