ก้าวสู่ปีที่ 50 ‘เอส แอนด์ พี’ เสิร์ฟ 50 เมนูในตำนาน และ เทศกาลข้าวแช่

‘เอส แอนด์ พี’ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 จัดงาน “เอส แอนด์ พี 50 ปี 50 เมนูในตำนาน” และ “เทศกาลข้าวแช่” ตอกย้ำผู้นำธุรกิจอาหาร เติบโตคู่สังคมไทย

วันที่ 13 มีนาคม 2566 คุณวิทูร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในวันที่ 14 ตุลาคมที่จะถึงนี้ เอส แอนด์ พี จะดำเนินธุรกิจครบรอบ 50 ปี นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่แบรนด์เดินทางมาถึงครึ่งศตวรรษ ภายใต้วิสัยทัศน์ เป็นแบรนด์ร้านอาหารไทย เค้กและเบเกอรี่ ที่ลูกค้าเลือกใช้บริการมากที่สุดในประเทศไทย

โดยในปีที่ 50 นี้ บริษัทได้วางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ไว้ดังนี้  1. Trusted Quality มุ่งมั่นและพัฒนา รวมถึงนำเสนอสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างความสุขให้แก่ทุกคนในครอบครัว 2. Future Growth สร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ทั้งเกษตรกร ลูกค้า คู่ค้า นักลงทุน รวมถึงพนักงาน เพื่อเติบโตอย่างมั่นคง

และ 3. Sustainability Development ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในสังคม รวมถึงพัฒนาเมนูสุขภาพ โดยออกแคมเปญ Wellness Menu เมนูเพื่อสุขภาพแบบครบวงจร และ Healthy Bakery ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพ รวมถึงพัฒนาเมนูที่ได้รับการรับรองฉลากทางเลือกเพื่อสุขภาพ (Healthier Choice)                           

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า ในปีนี้บริษัทจะออกแคมเปญ และจัดกิจกรรมพิเศษมากมายเพื่อเฉลิมฉลองตลอดทั้งปี ภายใต้ธีมโลกสดใส ชีวิตสุขสันต์ (Healthy Life-Happy World) โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว รวมถึงแคมเปญ เอส แอนด์ พี  50 ปี 50 เมนูในตำนาน จะมีทั้งเมนูพิเศษที่นำกลับมาขายใหม่อีกครั้ง อาทิ เมนูก๋วยเตี๋ยวกุ้งสับ-เนื้อสับ เมนูยำมะเขือย่าง เมนูยำผักบุ้งกุ้งกรอบ เมนูกุ้งกระเบื้อง

และเมนูซิกเนเจอร์ที่ขายดีตลอดกาล อาทิ เมนูข้าวคลุกกะปิ ซึ่งเป็นเมนูขายดีอันดับหนึ่งในปี 2565 มียอดขายจำนวน 165,812 จาน เมนูข้าวไก่อบ เมนูข้าวผัดอเมริกัน เมนูข้าวหน้ากุ้งผัดพริกขี้หนู เมนูเส้นจันท์ผัดไทยกุ้งสดจัมโบ้ และเมนูข้าวซอยน่องไก่

นอกจากนี้ยังมี เมนูข้าวแช่-ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้ เอส แอนด์ พี อาหารไทยโบราณที่ปัจจุบันหาทานได้ยาก เนื่องจากมีกระบวนการทำอย่างพิถีพิถัน และมีจำหน่ายเฉพาะช่วงหน้าร้อนเท่านั้น 

คุณกำธร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการผลิต บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า “เอส แอนด์ พี เป็นผู้นำธุรกิจอาหารอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เรามีการควบคุมคุณภาพการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การลงไปให้องค์ความรู้แก่เกษตรกร ในการร่วมพัฒนาวัตถุดิบ เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ และยังเป็นการสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกร

ผ่านกระบวนการผลิตที่มีการควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอนให้ตรงตามมาตรฐาน ด้วยจุดแข็งของ เอส แอนด์ พี ที่ประกอบธุรกิจร้านอาหาร เราจึงมีเชฟที่พร้อมพัฒนาเมนูอาหารใหม่ๆ โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพ รสชาติ ความหลากหลายของเมนู และความสะอาด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ โรงงานอาหารลาดกระบัง ที่ใช้เป็นครัวกลางจัดหาและผลิตอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานและผลิตภัณฑ์ไส้กรอก ภายใต้แบรนด์ “ควิกมีล” และ “พรีโม่” จำหน่ายทั้งหน้าร้าน เอส แอนด์ พี และช่องทางค้าปลีกในโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ รวมถึงส่งออกไปยังทวีปเอเชีย ยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย

และมีโรงงานเบเกอรี่อีก 3 แห่ง ได้แก่ โรงงานเบเกอรี่ สุขุมวิท 62 โรงงานเบเกอรี่บางนา-ตราด กม.23.5 และโรงงานเบเกอรี่ จังหวัดลำพูน โดยโรงงานทั้ง 4 แห่ง มีกำลังการผลิตอาหารและเบเกอรี่ปริมาณกว่า 12,000 ตันต่อปี และยังมีการจัดตั้งโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าของบริษัท S&P Smart Distribution Center บางนา-ตราด กม.23.5 เป็นศูนย์กลางด้านการวางแผนคลังสินค้า และการขนส่ง เพื่อบริหารจัดการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากนี้บริษัทยังนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้เพื่อช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ สำหรับกระบวนการทำงานของโรงงานมีการติดตั้งโซลาร์รูฟ (Solar Roof) ที่โรงงานเบเกอรี่บางนา-ตราด กม.23.5 และโรงงานอาหารลาดกระบัง เพื่อใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิต ส่งเสริมการผลิตเบเกอรี่รักษ์โลกจากพลังงานทางเลือก ลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นต์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เค้กกล้วยหอม บัตเตอร์เค้ก มาร์เบิลเค้ก รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักรที่ช่วยทำให้กระบวนการการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดกำลังคน และลดค่าใช้จ่ายในการผลิตได้

นอกจากนี้ ยังนำระบบเทคโนโลยีหุ่นยนต์อัตโนมัติ RPA (Robotic Process Automation) มาใช้ในกระบวนการทำงาน เพื่อบริหารจัดการข้อมูล และตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูล ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน และทำให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

คุณมณีสุดา ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมในส่วนของแคมเปญเทศกาลข้าวแช่ว่า “สำหรับกลยุทธ์การสื่อสารเทศกาลข้าวแช่ บริษัทได้นำเสนอคอนเทนต์และวางแผนสื่อประชาสัมพันธ์ โดยเน้นขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุด “ข้าวแช่ เอส แอนด์ พี อร่อย ชื่นใจ” ซึ่งได้ แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ และ อลิศ-ธนัชศลักษณ์ ฮัดสัน มาช่วยตอกย้ำความอร่อยและสดชื่น เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้หวานฉ่ำ

โดยสื่อสารผ่านสื่อออฟไลน์ ออนไลน์ และสื่อในร้านเอส แอนด์ พี รวมถึงกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ สำหรับชุดข้าวแช่-ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้เซตใหญ่ จำหน่ายราคาชุดละ 298 บาท สามารถรับประทานที่ร้านหรือซื้อกลับบ้าน

และสำหรับช่องทาง S&P Delivery 1344 สามารถสั่งชุดข้าวแช่-ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้เซตเล็ก ในราคาชุดละ 198 บาท และท่านที่ต้องการรับประทานข้าวแช่อย่างเดียวก็มีจำหน่ายในราคาเพียงชุดละ 145 บาท ทั้งหมดนี้ เสิร์ฟในบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ที่สามารถย่อยสลายได้ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”