MOSHI ปิดงบปี 65 กวาดรายได้ 1,895 ล้าน ตั้งเป้าหนุนกำลังซื้อฟื้นตัว

MOSHI ปิดงบปี 65 โชว์ฟอร์มเหนือคาด กวาดรายได้ 1,895 ล้านบาท กำไรสุทธิโต 92.9% บอร์ดไฟเขียวเคาะจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.10 บาทต่อหุ้น และจ่ายเป็นหุ้นปันผล เดินหน้าทำผลงานปี 66 ต่อเนื่อง ตั้งเป้ายอดขายเติบโต Double Digits หนุนกำลังซื้อฟื้นตัว

‘บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย ประกาศผลงานปี 2565 ทำรายได้พุ่ง 1,895.89 ล้านบาท เติบโต 50.01% และมีกำไรสุทธิ 253.17 ล้านบาท เติบโต 92.9%

บอร์ดไฟเขียวประกาศจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญในอัตรา 10 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายเป็นเงินสด 0.10 บาทต่อหุ้น พร้อมเดินหน้าทำผลงานปี 66 ต่อเนื่อง ตั้งเป้ายอดขายเติบโต Double Digits รุกสร้างการเติบโตผ่าน 4 ส่วนธุรกิจ หนุนกำลังซื้อฟื้นตัว เร่งอัดแผนการตลาดเพิ่มความหลากหลายของสินค้า รองรับความต้องการผู้บริโภค

นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 642.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.14% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 475.44 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 118.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.15% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 85.19 ล้านบาท

โดยเป็นผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญผลักดันภาพรวมการดำเนินงานในปี 2565 เติบโตเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีรายได้รวมจำนวน 1,895.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.01% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,263.84 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 253.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 131.27 ล้านบาท โดยอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 40% ถือเป็นการรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

โดยที่ผ่านมาร้าน Moshi Moshi และผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับกระแสความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก และเป็นที่กล่าวถึงในโซเชียลมีเดียแบบไวรัล (Viral) เป็นระยะๆ ด้วยความโดดเด่นของการเลือกกลุ่มสินค้าที่ถูกใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นมีการออกแบบที่เน้นประโยชน์ใช้สอย ดีไซน์ที่ทันสมัยและมีความหลากหลาย

ประกอบกับราคาสินค้ามีความย่อมเยาทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและลูกค้าทั่วไปได้ในวงกว้าง นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง จึงได้รับประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) ช่วยให้สามารถทำการเจรจากับผู้ผลิตหลักโดยตรงได้ เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเรื่องของราคามากขึ้น ทำให้สามารถขายผลิตภัณฑ์ในราคาที่ดีกว่าคู่แข่ง ยิ่งทำให้สัดส่วนสินค้านำเข้าเติบโต และสามารถผลักดันสัดส่วนกำไรให้เพิ่มสูงมากขึ้น

นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานในปี 2565 ที่เติบโตได้อย่างโดดเด่น ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 จึงมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผล โดยแบ่งเป็นการจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล หรือจำนวนไม่เกิน 30 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 30 ล้านบาท

และจ่ายเป็นเงินสด ในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record date) พร้อมกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 นี้

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOSHI กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ายอดขายเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก (Double Digits) โดยมาจาก 4 ส่วนธุรกิจ คือ 1) การเพิ่มความหลากหลายของสินค้า โดยตั้งเป้าเพิ่ม 2 Categories ใหม่ รวมถึงเพิ่มประเภทและรูปแบบของสินค้าให้สามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น ทั้งนี้ สินค้าส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในร้าน Moshi Moshi เป็นสินค้าภายใต้ตราสินค้าบริษัทฯ ที่ออกแบบเพื่อจำหน่ายในร้าน Moshi Moshi โดยเฉพาะ (Exclusive)

โดย ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสินค้าหลากหลายประเภทมากถึง 12 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องใช้ในบ้าน (Home Furnishing) กระเป๋า (Bag) เครื่องเขียน (Stationery) ตุ๊กตา (Plush Toy) ของใช้แฟชั่น (Fashion) อุปกรณ์เสริมความงาม (Beauty) เครื่องแต่งกาย (Apparel) เครื่องสำอาง (Cosmetic) อุปกรณ์ด้านไอที (IT) ของเล่น (Toy) อาหารและเครื่องดื่ม (Food & Drink) และอื่นๆ (Others)

2) เพิ่มการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม (SSSG) บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโต Double Digits อย่างต่อเนื่อง จากการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพิ่มความหลากหลายของสินค้า การจัดกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มเติม และแคมเปญกระตุ้นอื่นๆ รวมถึงกลยุทธ์ Co-Branding กับ Influencer หรือตัวการ์ตูนลิขสิทธิ์ต่างๆ มาวางจำหน่ายในร้านของบริษัทฯ อีกทั้งมีการเพิ่มยอดขายต่อบิล (Ticket Size) ให้มากขึ้น

3) การเปิดสาขาเพิ่มเติม โดยมุ่งเน้นเปิดในจังหวัดที่ยังไม่มีสาขาร้าน Moshi Moshi ทั้งเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดหัวเมือง รวมถึงการเปิดสาขาเพิ่มรูปแบบใหม่ Standalone และการพัฒนาแฟรนไชส์ พร้อมทั้งศึกษาตลาดต่างประเทศไปควบคู่กัน โดยในไตรมาส 1/2566 เตรียมเปิดอีกไม่น้อยกว่า 3 สาขา

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาด้วยการตอบรับของผู้บริโภค ทำให้บริษัทฯ ขยายการให้บริการโดยการเพิ่มจำนวนสาขาร้าน Moshi Moshi ในไตรมาส 4/2565 จำนวน 5 สาขา ได้แก่ ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต, Big C บางพลี, Robinson ราชพฤกษ์, Terminal 21 พระราม 3 และ Lotus หาดใหญ่ ส่งผลให้ในปัจจุบันมีสาขาของบริษัทฯ ที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 106 สาขา

4) กิจกรรมการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ บริษัทฯ ได้ศึกษาเทรนด์การตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อกำหนดกิจกรรม รูปแบบ และสื่อในการทำการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ในแต่ละช่วงเวลาของปี ให้สอดคล้องกับแต่ละสถานการณ์และเพื่อกระตุ้นยอดขาย

ล่าสุด MOSHI ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างปรากฏการณ์ความสนุกครั้งยิ่งใหญ่ ในการเป็นผู้สนับสนุนครั้งแรก ในคอนเสิร์ต NCT DREAM TOUR ‘THE DREAM SHOW2 : In A DREAM’ in BANGKOK (เอ็นซีที ดรีม ทัวร์ ‘เดอะ ดรีม โชว์ 2 : อิน อะ ดรีม’ อิน แบงค็อก) ในวันที่ 10-12 มีนาคม 2566 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

ซึ่ง NCT DREAM นับเป็นวงบอยแบนด์จากค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ SM Entertainment ที่มีชื่อเสียงและฐานแฟนคลับผู้ติดตามอยู่ทั่วโลก ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ บริษัทฯ คาดหวังว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าร้าน Moshi Moshi และ NCTzen ชาวไทย มาร่วมสร้างประสบการณ์ความสนุกและความบันเทิงระดับโลกกับเรา

“ในปี 2566 จะผลักดันการเติบโตต่อเนื่อง สอดรับกับแนวโน้มการเติบโตในอุตสาหกรรมค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ในปัจจุบันกำลังซื้อฟื้นตัวดีขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากประเทศจีนที่โหยหาการเดินทาง ส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวเร็ว แรง และเติบโตสูง และปริมาณการจับจ่ายใช้สอยก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก”

“ประกอบกับสถานการณ์จับจ่ายในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากเทศกาลเฉลิมฉลองในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงสำคัญที่สุดของธุรกิจค้าปลีก มีการจับจ่ายคึกคักที่สุดของปี เพราะคนไทยนิยมจัดปาร์ตี้สังสรรค์จับสลากแลกของกัน การซื้อไปแจกและการซื้อสินค้ามอบให้แก่กัน ทำให้สินค้าร้านโมชิ โมชิ มักเป็นตัวเลือกของลูกค้าในเทศกาลปีใหม่ เทศกาลวันเด็ก และเทศกาลแห่งความรัก เรียกได้ว่าสินค้า Moshi Moshi เป็นสินค้าที่ผู้รับได้รับแล้วจะมีความสุขอย่างแน่นอน” นายสง่า กล่าว