เผยแพร่ |
---|
จับเทรนด์เป็นโอกาส ‘เพ็ทมอลล์’ บริหารอย่างไร? ให้ยืนหนึ่งในตลาดร้านขายของสัตว์เลี้ยง
มองเป็นเห็นโอกาส Bangkok Bank SME ขอพาไปเจาะลึกแนวคิดแบบ Exclusive ในการดำเนินธุรกิจของ บจก.เผ่าภาคิน เจ้าของธุรกิจสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร ผู้บริหารร้าน Pet Mall (เพ็ทมอลล์) ที่ลูกค้าให้การยอมรับในความทันสมัย สวยงาม และเป็นจุด Check Point สำหรับเจ้าของสุนัขและแมว แบบOne Stop Service ที่มีสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
จุดเริ่มต้น “Supermarket สำหรับสัตว์เลี้ยง”
คุณจิดาภา ตันตระกูล (คุณจุ๋ม) ผู้บริหาร บจก.เผ่าภาคิน เผยว่า จุดเริ่มต้นการทำธุรกิจสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจรเริ่มเมื่อ 19 ปีที่ผ่านมา จากการรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ ซึ่งธุรกิจจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ส่วนแรกคือทำ Consignment โดยนำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเข้าไปจำหน่ายใน Gourmet Market
(กูร์เมต์มาร์เก็ต) และร้านแบบ Stand Alone
“ส่วนแรกที่เราทำร่วมกับกูร์เมต์มาร์เก็ต คือ ดูแลพื้นที่ในโซนที่เป็น Pet Concept ทั้งเรื่องการวางเชลฟ์ขายสินค้าที่เป็นของเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เริ่มต้นจากสาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ จากนั้นจึงทยอยไปสาขาอื่น ๆ ด้วยเช่น สยามพารากอน เอ็มควอเทียร์ เอ็มโพเรียม จนมีครบทุกสาขา เราทำในกูร์เมต์มาร์เก็ต รวมเป็นเวลา 18 ปี อีกส่วนหนึ่งคือ เรามีสาขาที่เป็น Stand Alone ที่อยู่นอกห้าง เช่น เพ็ทมอลล์สาขาถนน.พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 และสาขาทรีโอ้สาย 3 ซึ่งขายปลีกและขายส่ง ส่วนสาขาอื่นๆ จะขายปลีกเท่านั้น เช่น ตลาดต้นไม้ชายคา, ตลาดธนบุรี, K Village (เค วิลเลจ) ซอยสุขุมวิท 26, Plearnary Mall (เพลินนารี่ มอลล์) ที่วัชรพล เป็นต้น”
ตลาดสัตว์เลี้ยงเติบโต สามารถทำเฉพาะได้
ด้วยประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่ผู้บริษัท คลุกคลีมายาวนานทำให้มองภาพของธุรกิจนี้ว่าไม่ใช่แค่ได้ไปต่อ แต่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกสภาพเศรษฐกิจ เพราะเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ และคนอยู่บ้านมากขึ้นช่วงล็อกดาวน์ รวมถึงยัง WFH จากสถานการณ์โควิด19
“เราก็กลับมามองว่าธุรกิจมีการเติบโตขึ้น โดยช่วงที่มีสถานการณ์โควิดเกิดขึ้น พฤติกรรมของคนจะไปห้างสรรพสินค้าน้อยลง และหันมาเลี้ยงสัตว์มากขึ้น สินค้าที่เราขายส่วนใหญ่เป็นอาหารสำหรับสุนัขและแมวหรือเป็นของชิ้นใหญ่ เช่น ของเล่น หรือ Accessory ต่างๆ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าของเราจะซื้อในปริมาณที่มาก พื้นที่ร้านจึงควรจะรองรับลูกค้าได้มากขึ้น”
จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้ผู้บริหารวางแผนงานการออกแบบร้าน เพ็ทมอลล์ สาขาถนนพรานนก และ สาขากัลปพฤกษ์ ให้เป็นอาณาจักรสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ ใช้เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ มีที่จอดรถสะดวกสบาย ทำให้รองรับลูกค้าได้จำนวนมาก
“ฟีดแบ็คถือว่าดีมาก พอเราเริ่มเปิดร้านใน Scale ที่ใหญ่ขึ้น สามารถรองรับจากลูกค้าได้เยอะ ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกที่ ถูกเวลา พอประสบความสำเร็จ เราจึงหันมามุ่งเปิดร้านแบบสแตนอโลน ขยายสาขามากขึ้น ปัจจุบันเรามีทั้งหมด 12 สาขา”
ประสบการณ์ที่ไม่มีขาย แต่อาศัยความเก๋าในเกม
ธุรกิจสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้นทุก ๆ ปี หากย้อนไปเมื่อ 19 ปีก่อน ภาพรวมของตลาดยังไม่คึกคักและได้รับความสนใจมากเท่าปัจจุบัน ซึ่งการจะเข้ามาจับจองพื้นที่ร้านจำหน่ายสินค้าสัตว์เลี้ยงที่ขยายตัวอย่างแรงในตลาดสัตว์เลี้ยงที่มีมูลค่าตลาดรวม 4.18 หมื่นล้านบาท อยู่ที่ผู้ประกอบการรายไหนจะอาศัยจังหวะสร้างฐานลูกค้าและคว้าโอกาสได้ก่อน
“ช่วงที่เราเข้ามาทำธุรกิจนี้ยังมีคู่แข่งไม่มาก คนทำน้อย แต่เทรนด์เริ่มเปลี่ยนไป ใคร ๆ ก็สนใจ ทำให้ปัจจุบันในตลาดมีแบรนด์เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะตลาดแมว โตแบบก้าวกระโดด ความนิยมเริ่มขยับขึ้นมาเท่ากับสุนัขเลยสัดส่วนเพิ่มจาก 20-30% เป็น 50% แล้ว เพราะเดี๋ยวนี้ข้อจำกัดเรื่องการเลี้ยงแมวน้อยลงมาก คนอยู่คอนโดบางที่ก็เลี้ยงได้”
ให้ความสำคัญทั้งหน้าร้าน-หลังร้าน
การบริหารธุรกิจ ประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่ง ผู้บริหารมองว่าทุกองค์ประกอบต้องใส่ใจหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบการจัดการ หรือการบริหารพนักงาน ด้วยแนวคิดนี้จึงทำให้บริษัทมีการ Turn Over พนักงานต่ำมาก เมื่อพนักงานอยู่มานานก็จะมีประสบการณ์ รู้จักสินค้าในร้านเป็นอย่างดี สามารถแนะนำลูกค้าได้ดี
“เราให้ความสำคัญกับงานหลังบ้าน ต่อให้ใช้การจัดการผ่านดิจิทัลเกือบทั้งหมด แต่งานที่ต้องใช้ความละเอียดอย่างเช็คสินค้า ตรวจสอบคุณภาพ ต้องใช้พนักงาน ซึ่งเรามีคนที่ทำงานกับเรามาเป็นสิบปี จึงมีความเข้าใจในสินค้าเป็นอย่างดี สามารถให้คำแนะนำลูกค้าและตอบคำถามเกี่ยวกับสินค้าได้ดี”
นอกจากระบบการจัดการที่ดี สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือ การวาง Planogram ที่ดี ซึ่งคุณจิดาภาจะดูแลเองทั้งหมด ตั้งแต่การวางแพลน การจัดวางเชลฟ์ ทำ Planogram สินค้าภายในร้านให้เป็นหมวดหมู่ และชัดเจน หาสินค้าได้ง่าย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้สะดวก
“เรามีพนักงานคอยให้บริการและคอยแนะนำสินค้าต่าง ๆ แก่ลูกค้า อีกทั้งเรายังให้ลูกค้าสามารถพาสุนัขและแมวมาเดินเล่นและเลือกซื้อสินค้าได้ เหมือนเป็นซูเปอร์มาเก็ตสำหรับพวกเขา ได้มาใช้เวลาร่วมกัน เพราะบ้านเราร้านค้าส่วนใหญ่จะไม่ได้อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าร้านได้”
โควิด อานิสงส์ ดันยอดขายพุ่งสวนกระแส
เพราะพฤติกรรมที่คนอยู่บ้านเยอะ ก็ยิ่งมีเวลาอยู่กับสัตว์มากขึ้น ฉะนั้นสถานการณ์โควิดจึงไม่ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจสัตว์เลี้ยง ในทางตรงกันข้ามยังดันยอดขายให้โตขึ้นด้วย นอกจากสินค้าที่เป็นของใช้ประจำอย่างอาหารสัตว์แบบเม็ด, เพาซ์ หรือของใช้ เช่นแชมพู สบู่ สินค้าประเภทอาหารทานเล่น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงที่คนเลี้ยงสัตว์จะเลือกซื้อเพื่อความสุขทางใจ อยากเห็นสัตว์เลี้ยงมีความสุข กลุ่มสแน็ก และขนมสำหรับสัตว์จึงเติบโตและได้รับความนิยมมาก
นอกจากนี้ กลุ่มเป้าหมายของร้านเพ็ทมอลล์วางไว้ที่ B+ ทำให้แม้ว่าเศรษฐกิจจะเป็นแบบไหน แต่คนเลี้ยงสัตว์ส่วนใหญ่มักจะให้น้ำหนักและเลือกจับจ่ายสินค้าของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ โดยเฉพาะเทรนด์ “ทาสแมว” ที่คนชื่นชอบและหันมาเลี้ยงแมวมากขึ้น โดยแต่ละบ้านจะมีค่าใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงในแต่ละเดือนอยู่ที่ 5,000-10,000 บาท
“สำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยสำหรับสัตว์เลี้ยง น้องแมวมาแรงเลย พวก Accessery ต่าง ๆ ร้านเรามีของให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะร้านค้าที่อยู่รอบนอกโซนราชพฤกษ์และกัลลปพฤกษ์ ลูกค้าจะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อก็จะขายดี แต่ร้านในเมืองลูกค้าส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในคอนโดมีเนียม จะมีพื้นที่เลี้ยงสัตว์น้อย ต่อให้เป็นกลุ่มที่กำลังซื้อมาก ที่อยู่อาศัยแพง พื้นที่จำกัด การซื้อของฟุ่มเฟือยก็จะไม่ค่อยมาก
พฤติกรรมคนเลี้ยงสัตว์จะซื้อแชมพูที่ดี อาหารที่ดี ไม่เกี่ยงเรื่องราคาเลย แต่การทำตลาดของเราต้องอาศัยเวลากว่าที่คนจะรู้ว่าสินค้าของเราดี และไม่แพง เราขายในราคาที่เหมาะสมมีทั้งราคาขายปลีก ขายส่ง มีความหลากหลาย เลือกซื้อได้ตั้งแต่สินค้าราคาถูกไปถึงพรีเมียม อีกกลุ่มหนึ่งที่ซื้อประจำ คือลูกค้าที่มาซื้อเพื่อนำไปบริจาค กลุ่มนี้จะไม่ได้เน้นของที่แพงมาก แต่ซื้อเพื่อนำไปช่วยเหลือสัตว์ที่ขาดแคลนจริงๆ“
Step Up ก้าวต่อไปของ ‘เพ็ทมอลล์’
เมื่อถามถึงแผนงานระยะต่อไปของ ‘เพ็ทมอลล์’ “อนาคตอาจจะมีการขยายสาขาเพิ่มเติม ซึ่งต้องดูเรื่องของทำเลที่ตั้งร้านและความเหมาะสมด้านอื่น ๆ ด้วย”
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เข้ามา Disrupt พฤติกรรมและวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ไปแทบสิ้นเชิง โดยเฉพาะปัจจัยร่วมที่เป็นเมกะเทรนด์อย่างการที่หลายประเทศรวมถึงไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ รวมถึงคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เลือกใช้ชีวิตโสด หรือมีลูกน้อยลง ส่งผลให้ครอบครัวมีขนาดเล็กลงจากเดิม
‘สัตว์เลี้ยง’ จึงกลายเป็นสิ่งเติมเต็ม ที่หลายๆ บ้านเลือกเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว ปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลให้ “ตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยง” ในประเทศไทย เติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด คาดว่าจะยังเติบโตและมี Demand เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รู้จัก ได้เพิ่มเติมที่ : ร้าน Petmall (บจก.เผ่าภาคิน) ได้เพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/petmallthailand
Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333