“เพาเวอร์บาย แอพพลิเคชั่น” ช้อปง่าย สบายเว่อร์ ครบ จบ ในแอพเดียว

เพาเวอร์บาย ปั้น “เพาเวอร์บาย แอพพลิเคชั่น” เอาใจผู้บริโภคยุคดิจิทัล

ชูจุดเด่น ช้อปง่าย สบายเว่อร์ ครบ จบ ในแอพเดียว

พร้อมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งเหนือทุกขีดจำกัด

 

เพาเวอร์บาย ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล รุกแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มรูปแบบ ส่ง “เพาเวอร์บาย แอพพลิเคชั่น” มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งเหนือทุกขีดจำกัด ช้อปได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยคอนเซ็ปต์ “ช้อปง่าย สบายเว่อร์ กับ Power Buy App” กุญแจสำคัญช่วยเสริมกลยุทธ์การตลาดในรูปแบบออมนิชาเนลให้แข็งแกร่ง ด้วยการนำทุกช่องทางมา Integrate เข้าด้วยกันทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยเน้นตอบโจทย์ Innovative lifestyle ของคนยุคดิจิทัล

นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด “ช้อปง่าย สบายเว่อร์ กับ Power Buy App” ชูจุดเด่นของ 3 ฟีเจอร์สุดง่าย 1. หาง่าย ทุกใบรับประกัน 2. เทียบง่าย ทุกสเปกสินค้า 3. เช็กง่าย เลือกส่งและติดตามได้ รับชมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=jki6r97lUsg และสามารถโหลด เพาเวอร์บาย แอพพลิเคชั่น ได้ทั้ง Android ที่ Play Store และ IOS ที่ App Store มั่นใจ เพาเวอร์บาย แอพ จะช่วยเพิ่มยอดขายออนไลน์อีก 30% พร้อมตั้งเป้ามียอดผู้ใช้งานแอพ 4 ล้านคนต่อเดือน ภายในปี 2566

นายวรวุฒิ พงศ์ชินภัค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการดำรงชีวิตของคนไทย ทุกคนต้องปรับตัวทรานฟอร์มสู่ยุคดิจิทัล ผู้บริโภคมีพฤติกรรมใช้มือถือมากขึ้นทั้งเล่นโซเชียล ช้อปปิ้ง และทำธุรกรรมต่างๆ โดยคนไทยติดอันดับ 1 ของโลก ที่ช้อปปิ้งออนไลน์/สัปดาห์ มากสุดในโลก ไตรมาส 1/2022 อยู่ที่ 68.3%

สะท้อนให้เห็นว่าดิจิทัลแพลตฟอร์มมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจมากขึ้น เพาเวอร์บาย จึงได้ทำการเปิดตัว เพาเวอร์บาย แอพพลิเคชั่น ภายใต้คอนแซ็ปต์ “ช้อปง่าย สบายเว่อร์ กับ Power Buy App” จิ๊กซอว์สำคัญที่ช่วยเติมเต็มและเสริมแกร่งให้กับกลยุทธ์ด้านออมนิชาเนลของบริษัทฯ เชื่อมโยงการช้อปปิ้งจากออฟไลน์สู่ออนไลน์แบบไร้รอยต่อได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด พร้อมตอบโจทย์และเข้าถึงความเป็น Innovative lifestyle ของคนยุคดิจิทัล เพิ่มความสะดวกสบาย เสมือนเพื่อนรู้ใจสำหรับนักช้อป ช้อปได้ทุกที่ ทุกเวลา ครบครันด้วยสินค้าทุกประเภทรายการจากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมอัดแน่นด้วยสิทธิประโยชน์มากมายในแอพเดียว ชู 3 ฟีเจอร์เด่น ได้แก่

Virtual Warranty Card ช้อปง่าย…หาง่าย ทุกใบรับประกัน : หมดปัญหาที่จะต้องมาคอยส่งหรือเก็บใบรับประกันสินค้าอีกต่อไป เก็บใบประกันไว้ในแอพเดียว หาเมื่อไหร่ก็เจอ ไม่ต้องกลัวใบประกันหายอีกต่อไป

Product Comparison ช้อปง่าย…เทียบง่าย ทุกสเปกสินค้า : ลูกค้ามักพบปัญหาเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดูคล้ายกันจนแยกความแตกต่างไม่ออก เราจึงมีฟีเจอร์ที่จะช่วยเปรียบเทียบรายละเอียด และฟังก์ชั่นสินค้าแต่ละรุ่นได้อย่างชัดเจนเข้าใจง่าย เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าให้ตรงความต้องการ

Realtime Tracking ช้อปง่าย…เช็กง่าย เลือกส่งและติดตามได้ : สามารถเลือกวิธีการจัดส่งได้ด้วยตนเอง พร้อมติดตามการจัดส่งสินค้าได้แบบ Real Time ในแอพ เลือกได้ทั้งแบบส่งด่วนภายใน 3 ชั่วโมง หรือจัดส่งพร้อมบริการติดตั้งซึ่งสามารถนัดหมายเวลาที่จะให้ช่างเข้าติดตั้งตามวันเวลาที่สะดวกได้

นอกจากนี้ ลูกค้าเพาเวอร์บายสามารถสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งเหนือระดับ ผ่านแพลตฟอร์มออมนิชาเนลได้อีกหลากหลายช่องทาง ดังนี้

  • Power Buy Shop : ช้อปได้ที่เพาเวอร์บายสาขาใกล้บ้าน ซึ่งปัจจุบันมีมากถึง 140 สาขา ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย
  • Power buy Website : ช้อปง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ powerbuy.co.th มีบริการ click & collect รับสินค้าได้ที่เพาเวอร์บายสาขาที่ลูกค้าเลือกได้ภายใน 1 ชั่วโมง
  • Social commerce
    • Call & Shop : โทรช้อปผ่าน เบอร์ 1324 กด 8 โทรปุ๊บ สั่งปั๊บ รับของทันใจ โดยจะมี Power Buy Guru ผู้ช่วยช้อปส่วนตัวให้บริการในเรื่องข้อมูลสินค้า
    • Chat & Shop : แชตบอกผู้ช่วยส่วนตัวพร้อมช้อปสินค้าที่ไลน์ @powerbuy
    • Facebook Power Buy Thailand : สามารถเลือกช้อปได้ทั้งใน Live ที่ลูกค้าจะได้พบโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในไลฟ์เท่านั้น หรือช้อปผ่านทาง Messenger Inbox ก็ได้
  • บริการ e-Ordering : หากลูกค้าไม่พบสินค้าที่ต้องการในร้าน สามารถแจ้งแบรนด์และรุ่นสินค้าให้พนักงานช่วยค้นหาสินค้าในสต๊อกเพื่อทำการสั่งซื้อได้

สำหรับการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นในครั้งนี้ ถือเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึง Customer Inside ซึ่งจะสามารถนำข้อมูลมาพัฒนาสินค้า บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป รวมทั้งการทำ Personalized Marketing ที่ตอบโจทย์ความต้องการและโดนใจผู้บริโภคยิ่งขึ้น มั่นใจว่าเพาเวอร์บาย แอพ จะช่วยเพิ่มยอดขายออนไลน์อีก 30% พร้อมตั้งเป้ามียอดผู้ใช้งานแอพ 4 ล้านคนต่อเดือน ภายในปี 2566 อย่างแน่นอน” นายวรวุฒิ กล่าวสรุป

พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ช้อปง่าย สบายเว่อร์ กับ Power Buy App” ทางช่องทางออนไลน์ รับชมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=jki6r97lUsg พร้อมสามารถดาวน์โหลด เพาเวอร์บาย แอพพลิเคชั่น ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ Android ดาวน์โหลดได้ที่ Play Store และระบบ IOS ดาวน์โหลดได้ที่ App Store

 

เซ็นทรัล รีเทล

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,550 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565)

อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่

(1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ไทวัสดุ บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม

(2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และ มินิ โก (go!)

(3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป

(4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม

และ (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 58 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัด และประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565)