โจรปล้น 10 ครั้งไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว “ไฟไหม้” ภัยใกล้ตัวที่ป้องกันได้ 

โจรปล้น 10 ครั้งไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว “ไฟไหม้” ภัยใกล้ตัวที่ป้องกันได้ 

“โจรปล้น 10 ครั้งไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว” คำกล่าวที่ดูแสนคร่ำครึ และถูกนำมาพูดเปรียบเปรยเตือนสติกันมาอย่างยาวนานยังคงความจริงอยู่เสมอ ไม่ว่าเทคโนโลยีในการป้องกันอัคคีภัย ความปลอดภัยจะก้าวไปไกลขนาดไหน แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะความละเลย ความประมาทของมนุษย์ได้

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะผู้คนส่วนใหญ่มักคิดว่าอัคคีภัยเป็นเรื่องไกลตัว แต่แท้จริงแล้วเป็นภัยใกล้ตัวที่มักเกิดขึ้นเสมอ และบ่อยครั้งก็สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างร้ายแรง

ในรอบปี 2565 ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ อาคาร 6 ชั้น สีลมซอย 2, ชุมชนบ่อนไก่, ตึกแถวย่านบางบอน, ตึกแถวสี่คูหาย่านสำเพ็ง, ที่เก็บแบตเตอรี่สำหรับรถกอล์ฟ สมุทรปราการ, ผับชลบุรี, ตึก EnCo อาคาร A ล่าสุด สถาบันจัสแมกไทย ถนนสาธร บางเคสมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10 ราย

เหตุการณ์ไม่คาดคิดเหล่านี้อาจไม่สามารถควบคุมได้ แต่หากมีมาตรการป้องกันที่ดี และอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ก็จะช่วยบรรเทา ทุเลาความเสียหายในการเกิดเหตุ ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ควรมีความรู้ และตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกใช้อุปกรณ์และระบบดับเพลิงที่ได้มาตรฐาน เพื่อช่วยป้องกันและลดการสูญเสียต่อทรัพย์สินและอันตรายต่อชีวิต

ข้อมูลจาก บริษัท ไฟร์เทรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ FTE ผู้ออกแบบระบบดับเพลิง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดับเพลิงครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ระบุว่า การสร้างความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับที่อยู่อาศัย สถานประกอบการทุกขนาด ทั้งนี้ ควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันเหตุเพลิงไหม้ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

  1. อุปกรณ์และระบบเตือนภัย อาทิ อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ตรวจจับความร้อน แจ้งเหตุเพลิงไหม้
  2. อุปกรณ์และระบบดับเพลิง อาทิ เครื่องดับเพลิงแบบมือถือ ระบบดับเพลิงด้วยน้ำ, โฟม, สารสะอาด, ก๊าซ เป็นต้น

สำหรับที่อยู่อาศัยประชาชนทั่วไป ควรเลือกใช้ระบบเตือนภัยและอุปกรณ์ดับเพลิงที่ได้มาตรฐาน เช่น อุปกรณ์เตือนภัย ถังดับเพลิง หัวกระจายน้ำดับเพลิง ติดตั้งในบริเวณที่เหมาะสม ศึกษาทำความเข้าใจวิธีการใช้งาน รวมถึงหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์เป็นประจำทุกเดือน

หรือตรวจสอบตามที่มาตรฐานสากลและกฎหมายกำหนด เช่น ทดสอบสัญญาณเตือน, อุปกรณ์ตรวจจับต่างๆ, ตรวจสอบหัวกระจายน้ำ, ดูแลถังดับเพลิงให้อยู่ในสภาพ ไม่บุบ บวม หรือขึ้นสนิม และตรวจสอบระดับความดันและปริมาณสารเคมีให้อยู่ระดับที่พร้อมใช้งานได้อยู่เสมอ

สำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็ก-กลาง อาทิ ร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง สามารถเลือกใช้อุปกรณ์และระบบที่เหมาะสมตามขนาดพื้นที่ประกอบธุรกิจ รวมถึงจัดเตรียมช่องทางหนีไฟ มีแผนผังและวิธีการหลบหนีไปยังบริเวณที่ปลอดภัยเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างถูกต้อง

ส่วนผู้ประกอบการขนาดใหญ่ อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า ถือเป็นความรับผิดชอบ ตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคารปี พ.ศ. 2522 กฎกระทรวงฉบับที่ 33 ปี พ.ศ. 2535 ว่าด้วยการกำหนดโครงสร้างและอุปกรณ์อันเป็นส่วนประกอบของอาคารสูงและอาคารใหญ่พิเศษ

และกฎกระทรวงฉบับที่ 39 ปี พ.ศ. 2537 ว่าด้วยการกำหนดแบบวิธีการเกี่ยวกับการติดตั้งระบบการป้องกันอัคคีภัย ระบบแสงสว่างและการระบายอากาศเพื่อควบคุมการสร้างอาคารสูงให้มีความปลอดภัยต่อการเกิดอัคคีภัย

รวมถึงประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยในโรงงาน พ.ศ. 2552 ระบุไว้ว่า “โรงงานที่มีสถานที่จัดเก็บวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นวัตถุที่ติดไฟได้ที่มีพื้นที่ต่อเนื่องติดต่อกันตั้งแต่ 1,000 ตารางเมตรขึ้นไป ต้องติดตั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติ เช่น ระบบหัวกระจายน้ำดับเพลิงอัตโนมัติ หรือระบบอื่นที่เทียบเท่าให้ครอบคลุมพื้นที่นั้น”

นอกเหนือจากกฎหมายและข้อบังคับดังกล่าวแล้ว ผู้ประกอบการควรตระหนัก และประเมินความเสี่ยงของอัคคีภัยที่จะเกิดขึ้น เพราะนอกจากระบบดับเพลิงจะช่วยลดความเสียหายต่อทรัพย์สินและความปลอดภัยของชีวิตบุคลากรในพื้นที่แล้ว ยังสามารถช่วยป้องกันการหยุดชะงักของการดำเนินงาน และสภาพคล่องทางธุรกิจด้วยเช่นกัน

ปัจจุบันระบบดับเพลิงมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดจนมาตรฐานการทำงานของอุปกรณ์ ที่ช่วยป้องกันและลดความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอยากให้ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการขนาดเล็ก-ใหญ่ ตระหนักถึงสิ่งนี้และให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

โดยงบประมาณทำระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ระบบดับเพลิง สำหรับบ้าน 1 หลัง จะอยู่ที่ประมาณ 1,500-10,000 บาท อาคารทั่วไป 500,000-1,000,000 บาท โรงงานอุตสาหกรรม มีตั้งแต่ 3 ล้าน-80 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่, ความสูงของอาคาร, ชนิดของวัตถุดิบที่ใช้ดับเพลิง เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าสำหรับบ้าน 1 หลัง การลงทุนไม่ได้มากมายมหาศาลเมื่อเทียบกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น หรือแม้แต่ระบบของโรงงาน สถานประกอบการที่มีราคาค่างวดค่อนข้างสูง แต่ก็คุ้มค่ากว่ามากเมื่อเทียบกับความสูญเสีย และความเสียหายทางธุรกิจที่อาจเกิดขึ้น