MC GROUP สุดแกร่ง!! ปิดงบปีบัญชี 65 กำไร 486 ล้านบาท

MC GROUP สุดแกร่ง!! ปิดงบปีบัญชี 65 กำไร 486 ล้านบาท

วันที่ 26 ส.ค. 2565 นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ “แม็คยีนส์” เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานปีบัญชี 2565 (1 กรกฎาคม 2564-30 มิถุนายน 2565) ว่า

กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 486 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 446 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิที่สูงขึ้นเป็น 16.5% สูงกว่าปีก่อน อยู่ที่ 13.7% แม้ว่าอัตราภาษีที่แท้จริงจะเพิ่มขึ้นเป็น 18% จากปีบัญชีก่อนหน้าที่ 14.9%

ทั้งนี้ บริษัทยังคงรักษาความสามารถการทำกำไรได้ดี โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ในระดับ 64.7% เพิ่มขึ้น 5.1% จากปีก่อนอยู่ที่ 59.61% เป็นผลจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาด สัดส่วนของสินค้า และการบริหารช่องทางจัดจำหน่าย ควบคุมค่าใช้จ่ายรอบด้าน ทั้งยังมีการป้องกันความเสี่ยงจากการขึ้นราคาวัตถุดิบ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นพุ่งสูงขึ้น แม้รายได้จากการขายสินค้ารวมลดลง

นายเจมส์ ริชาร์ด กล่าวว่า ในปีบัญชี 2565 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้ารวม 2,923 ล้านบาท ลดลง 9.2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สาเหตุสำคัญมาจากช่องทางจำหน่ายออฟไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางหลักของยอดขายรวมยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

โดยช่องทางร้านค้าปลีกตัวเอง (Freestanding Shop) มียอดขายจำนวน 1,792 ล้านบาท, ห้างสรรพสินค้า (Department Store) จำนวน 664 ล้านบาท, ซูเปอร์สโตร์ (Superstore) จำนวน 19 ล้านบาท และช่องทางออนไลน์ (E-Commerce) จำนวน 303 ล้านบาท

“การทำธุรกิจในสภาวะเศรษฐกิจไทยและอุตสาหกรรมค้าปลีก ตลอดจนการอุปโภคบริโภค            ในประเทศได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 และสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ส่งผลให้ระดับราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น แต่ด้วยกลยุทธ์ของบริษัทที่เน้นทำ Product Mix, การเปิดตัวแคมเปญ MY MC MY WAY ชีวิตเต็มแม็ค, การเปิดสาขา Mc Outlet ที่เปิดได้ครบตามเป้าหมาย 72 สาขา

ทำให้ผลดำเนินงานเติบโตได้แข็งแกร่ง หนุนส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นแตะ 3,675 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 3,603 ล้านบาท ขณะที่อัตราผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 13.4% จากปีก่อนอยู่ที่ 12.4% และยังคงมีนโยบายจ่ายเงินปันผลกับผู้ถือหุ้นต่อเนื่อง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แม็คกรุ๊ป กล่าว

สำหรับฐานะการเงินของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ยังคงเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้เงินกู้กับสถาบันการเงิน และไม่ได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะเดียวกัน มีเงินสดในมือเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,995 ล้านบาทจากปีก่อน 1,864 ล้านบาท การบริหารสินค้าคงคลังก็ทำได้ดีลดลงมาอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท จากปีก่อน 1,250 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

นายเจมส์ ริชาร์ด กล่าวเพิ่มเติม ถึงทิศทางการทำธุรกิจในปีบัญชี 2565/2566 ว่า มีทิศทางที่ดีขึ้น ต่อเนื่องภายหลังได้เปิดประเทศ เห็นสัญญาณการกลับมาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นชัดเจนในไตรมาสสุดท้ายของปีบัญชี 2565 ประกอบกับการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะสนับสนุนให้จีดีพีประเทศขยายตัว ซึ่งในปีหน้า MC GROUP ตั้งเป้ากำไรเติบโตเลข 2 หลัก