เผยแพร่ |
---|
ถอดสูตรสำเร็จ ขายแหนม ในเซเว่นฯ ปั้นออร์เดอร์หลักพัน สู่รายได้ 70 ล้าน
บริษัท ไทยอินโนฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ “แหนมดอนเมือง กม.26” และ “สุทธิลักษณ์” ถือเป็นอีกหนึ่ง SMEs ที่มี DNA ตรงตามแบบฉบับของ 7-Eleven SME DNA ทั้งในด้าน นักคิด นักพัฒนา นักสู้ และ นักแก้ปัญหา ส่งผลให้ในวันนี้ “ไทยอินโนฟู้ด” ก้าวสู่ผู้ประกอบการ SMEs ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดขายเฉพาะร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ปี 2564 สูงถึง 70 ล้านบาท
จุดเริ่มต้นธุรกิจ อาหารพื้นบ้าน
คุณภาคภูมิ หอมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอินโนฟู้ด จำกัด ในฐานะทายาทรุ่น 3 ผู้นำทัพส่งสินค้าของดีที่ผลิตจากภูมิปัญญาชาวบ้านเข้าเซเว่น อีเลฟเว่น เล่าให้ฟังว่า
ย้อนกลับไปเมื่อ 40 กว่าปีก่อน ครอบครัวเริ่มทำธุรกิจผลิตแหนม ภายใต้ชื่อ “แหนมดอนเมือง กม.26” ซึ่งได้รับการตอบรับและเป็นที่รู้จักอย่างดีมาจนถึงปัจจุบัน แต่เมื่อตนได้เข้ามาช่วยธุรกิจที่บ้าน ก็มองว่าแหนมเป็นอาหารพื้นบ้านที่จะหาซื้อได้จากตลาดสดเท่านั้น ทำให้ผู้บริโภคที่ไม่มีเวลา ไม่มีโอกาสได้รับประทาน
จึงมีการพูดคุยกับทางเซเว่น อีเลฟเว่น ว่าต้องการจะนำสินค้าชนิดนี้เข้าวางจำหน่าย โดยต้องการสร้างแบรนด์ใหม่ เพื่อให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าของ เซเว่นฯ จึงได้เกิดเป็นแบรนด์ “สุทธิลักษณ์” ผลิตแหนมคุณภาพดี รสชาติดั้งเดิม แต่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติด้านการผลิต มีการนำเทคโนโลยีการฉายรังสีมาใช้ ก่อให้เกิดเป็นนวัตกรรมอาหารรูปแบบใหม่
“เราถือเป็นเจ้าแรกในตลาดที่นำเทคโนโลยีการฉายรังสีมาใช้กับการถนอมอาหารประเภทแหนม เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่ในเนื้อหมู ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพ สามารถช่วยยืดอายุการจัดเก็บสินค้าให้ยาวนานถึง 2 เดือน โดยปราศจากสารกัมมันตรังสีตกค้าง ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นโรงงานนำร่องในโครงการอาหารฉายรังสี จากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคด้านความปลอดภัยทางอาหาร และที่สำคัญ ทำให้แหนมเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถรับประทานได้ทันทีไม่ต้องนำไปผ่านความร้อน อีกทั้งยังเป็นโรงงานนำร่องด้านการใช้ต้นเชื้อชีวภาพในกระบวนการผลิตแหนมที่ได้รับการคัดเลือกจากศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) อีกด้วย” ทายาทรุ่น 3 อธิบายอย่างละเอียดถึงนวัตกรรมสุดล้ำ
แค่ปรับก็เปลี่ยน สนุกกับธุรกิจ หากผิดก็เริ่มใหม่
แม้จะหาช่องว่างทางการตลาดเจอ จนพัฒนาสินค้าให้มีความแตกต่าง แต่ก็ใช่ว่าสินค้าตัวแรกที่ผลิตภายใต้แบรนด์สุทธิลักษณ์ ที่วางจำหน่ายอย่าง แหนมสไลซ์พร้อมรับประทาน จะประสบความสำเร็จ คุณภาคภูมิ ยอมรับว่า การตอบรับของตลาดยังไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้
“ช่วงแรกๆ เราขายได้ 2,000-3,000 ชิ้นต่อวันเท่านั้น ตอนนั้นคิดว่าทำไมสินค้าเราถึงขายได้น้อย จึงได้ไปปรึกษากับทางเซเว่นฯ ว่าควรปรับตรงไหน ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำที่ดีมาก ทางบริษัทจึงเริ่มเปลี่ยนสีแพ็กเกจจิ้ง จากเดิมเป็นสีชมพู มาเป็นสีแดง เพื่อให้สินค้าที่บรรจุอยู่ภายในโดดเด่นไม่กลืนไปกับสีของแพ็กเกจจิ้ง รวมทั้งปรับเปลี่ยนวิธีการบรรจุ จากเดิมห่อละ 10 ชิ้น เรียงแบบ 2 แถว มาเป็น 12 ชิ้นเรียง 4 แถว หลังจากปรับ ยอดขายก็เปลี่ยน เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ภายในเวลาเพียงไม่ถึงเดือน”
เหตุการณ์ลักษณะนี้ ถ้าเกิดกับใครอาจจะทำให้ท้อ จนไม่อยากเดินต่อ แต่สำหรับ คุณภาคภูมิ มองว่าเป็นบทเรียนธุรกิจที่สอนให้รู้จักเรียนรู้ และต่อสู้ อยากให้ทุกคนสนุกกับการทำธุรกิจ อย่าไปคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่ต้องใช้ความอดทนในการทำ เมื่อไหร่ที่คิดแบบนี้ คือการตีกรอบและกดดันตัวเอง จนทำให้เรารู้สึกอึดอัด และไม่อยากไปต่อ
“หมูยอหนังหมู” เปิดประสบการณ์ รสสัมผัสใหม่
หลังจากที่ แหนมสไลซ์พร้อมรับประทาน ประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับที่ดี ทายาทรุ่น 3 จึงเดินหน้าพัฒนาแตกไลน์สินค้าใหม่ต่อเนื่อง แต่ยังคงคอนเซ็ปต์อาหารพื้นบ้านไว้อย่างเหนียวแน่น อย่างหมูยอจัมโบ้ ขนาด 400 กรัม ล่าสุด หมูยอหนังหมู ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากของฝากขึ้นชื่อทางภาคอีสาน ที่มักซื้อติดไม้ติดมือกลับมาทุกครั้ง แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เดินทางไปทางภาคอีสานก็อาจจะไม่มีโอกาสได้รับประทาน
ไทยอินโนฟู้ด จึงลดช่องว่างในส่วนนี้ โดยยังคงชูความโดดเด่นของเครื่องเทศ ด้วยพริกไทยป่นใหม่ทุกวัน เพื่อคงความหอม และเพิ่มรสสัมผัสด้วยหนังหมู ให้ความรู้สึกหนึบหนับ เคี้ยวเพลิน แม้ว่าจะวางจำหน่ายในเซเว่นฯ ได้ไม่นาน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะได้รับความสนใจไม่น้อย ทำให้คุณภาคภูมิ หอมสุวรรณ มีความมุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง