สมุนไพรสุภาภรณ์ ‘ตำนานสกินแคร์’ ส่งต่อ Gen 3 ธุรกิจกงสีที่เน้นค่อยๆ โต แต่ยั่งยืน

สมุนไพรสุภาภรณ์ ‘ตำนานสกินแคร์’ ส่งต่อ Gen 3 ธุรกิจกงสีที่เน้นค่อยๆ โต แต่ยั่งยืน

สมุนไพรสุภาภรณ์ กับการบริหารธุรกิจของทายาทรุ่นที่ 3 คุณมะตูม อัคเรศ สุขตลอดชีพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือสุภาภรณ์ หรือ Supaporn Group หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศมาหลายปี สู่แนวคิดที่จะมาปลุกธุรกิจครอบครัวสู่เส้นทางที่มั่นคงและยั่งยืน

คุณมะตูม เล่าถึงการเริ่มต้นธุรกิจครอบครัวของคุณย่า (คุณสุภาภรณ์ สุขตลอดชีพ)  ที่คิดสูตรผงขมิ้นขัดหน้า เริ่มจากการนำผงขมิ้นมาบรรจุใส่ถุงพลาสติกเพื่อทำผงขัดหน้าออกมาจำหน่าย โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านมาพัฒนาสูตรด้วยตนเอง จนกลายมาเป็น ‘สมุนไพรสุภาภรณ์’ และต่อยอดมาถึงทายาทรุ่นที่ 2 (คุณปู อรพรรณ สุขตลอดชีพ) ได้พัฒนาสินค้าในระดับ OTOP ให้เป็นที่ยอมรับของคนไทยทั้งประเทศ และเพิ่งช่องทางขายผ่านหน่วยรถ (Distributor) ของตนเอง

หากย้อนไปเมื่อ 55 ปีที่แล้ว แบรนด์สุภาภรณ์เริ่มต้นจากร้านซาลอนย่านตลาดพลู ใช้แนวคิดการเติบโตด้วยกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง และมีจุดยืนชัดเจนในเรื่องสมุนไพรและคุณภาพในราคาจับต้องได้ จนทำให้ผลิตภัณฑ์ติดตลาดในต่างจังหวัด และตีตลาดขยายไปทั่วประเทศ พร้อมเข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้ในที่สุด

ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย สินค้าสกินแคร์สมุนไพร ที่มีประสบการณ์ในตลาดสกินแคร์สมุนไพรไทยมากว่า 55 ปี มีแบรนด์หลัก 3 แบรนด์คือ สุภาภรณ์ , ปทุมมาศ และไอศิกา โดยมีบริษัทในเครือ 3 บริษัท ภายใต้เครือสุภาภรณ์ (Supaporn Group) คือ บริษัท สยามเซฟเวย์เทรดดิ้ง จำกัดบริษัท สมุนไพร สุภาภรณ์ อิมปอร์ต เอ็กซปอร์ต จำกัด และ บริษัท เฮิร์บ บิวตี้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด 

โดดเด่นด้วยสมุนไพรไทย 

สินค้าในเครือของสุภาภรณ์มีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องสมุนไพรและคุณภาพ โดยสินค้าชิ้นแรกที่คิดค้นด้วยตัวเองคือ ‘ผงขัดหน้าสมุนไพรสุภาภรณ์ สูตรต้นตำรับ’ และตามด้วยสินค้าสกินแคร์อื่นๆ โดยใช้สมนุไพรไทยเป็นหลักในการผลิต 

“สินค้าผงเพียวสมุนไพร 100% สุภาภรณ์ ทุกอย่างเป็นสมุนไพรหมดเลย ปลอดสารเคมี เป็นความงามที่ยั่งยืนจากธรรมชาติ นี่เป็นจุดขายหนึ่งของสุภาภรณ์ เพราะเราดังเรื่องนี้มา จนสินค้าเป็นความต้องการของตลาดมาต่อเนื่อง”

นอกจากมีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องสมุนไพร แบรนด์ในเครือสุภาภรณ์ยังพยายามนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการสร้างจุดต่างอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Package ที่โดดเด่น เพื่อสื่อสารไปให้ผู้บริโภครับรู้และจดจำได้ การทำการตลาดทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ เพราะปัจจุบันเกิดแบรนด์ต่างๆ ธุรกิจใหม่ๆ สินค้าที่มีความหลากหลายขึ้นแทบจะทุกวัน เชื่อว่าการสร้างความแตกต่างให้ธุรกิจจะสามารถเพิ่มยอมขายได้      

“ทุกวันนี้ครีมซองมีขายเยอะมาก เราจะทำอย่างไรให้แบรนด์เราแตกต่าง คนเห็นแล้วต้องชัด Package ต้องโดดเด่นว่าเป็นสมุนไพรนะ เพราะเราไม่ได้ไปสู้กับแบรนด์ Mass Market อยู่แล้ว” 

พร้อมยังมั่นใจได้ว่าสินค้าจากเครือสมุนไพรสุภาภรณ์ ทุกชิ้นนั้นเป็นสินค้าคุณภาพที่ดี สะอาด ปลอดภัย ผ่านการตรวจสอบ ฆ่าเชื้อ ได้มาตรฐานสากล

เจาะลูกค้าให้ตรงแบรนด์ เพิ่มยอดขาย แตกไลน์ธุรกิจ

ปัจจุบันแบรนด์สมุนไพรสุภาภรณ์ ขยายแตกไลน์เป็นแบรนด์ต่างๆ เพื่อเจาะกลุ่มความต้องการของผู้บริโภคในหลายช่วงวัย อาทิ แบรนด์ ปทุมมาศ ไอศิกา สุภาภรณ์แกรนด์ โดยการชูความโดดเด่นของเครื่องสำอางและสกินแคร์ที่ทำมาจากสมุนไพรไทย ซึ่งมีสินค้าวางจำหน่ายทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และไฮเปอร์มาร์ท พร้อมทั้งมีการส่งสินค้าไปต่างประเทศ เพื่อให้ทั่วโลกได้รู้จักสมุนไพรไทย

“เป้าหมายคือเราอยากจะเป็นผู้ครองตลาด และอยากเจาะกลุ่มผู้บริโภคทุกช่วงอายุ แบรนด์สุภาภรณ์ที่อยู่มานาน ก็จะเจาะกลุ่มคนอายุ 30 ปีขึ้นไป ส่วนแบรนด์ปทุมมาศจะเจาะกลุ่มคนอายุ 20 ปีขึ้นไป ทั้งสองแบรนด์ก็จะมีความแตกต่างกันทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ นอกจากนี้ ก็ยังมีบริษัทที่รับผลิตสินค้าให้แบรนด์อื่นด้วย ก็จะได้รายรับทั้งสองทาง”

อีกทั้งยังมองว่า การแตกไลน์ธุรกิจ จะง่ายต่อการทำการตลาด เพราะจะได้เจาะกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน โดยที่ผ่านมาแบรนด์สุภาภรณ์มีการรีแบรนด์ และมีการปรับตัวตลอดเพื่อที่จะให้อยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเห็นการเปลี่ยนแปลงมาตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา

OEM สู่การเพิ่มโอกาส ลดความเสี่ยง

สมุนไพรสุภาภรณ์ ให้ความสำคัญวางแผนขยายตลาดการส่งออกจริงจังมากขึ้น ทั้งในรูปแบบนำสินค้าแบรนด์สุภาภรณ์ ไปจำหน่ายที่ต่างประเทศ และทำ OEM (Original Equipment Manufacturer) โดยมีบริษัทในเครือ บริษัท สมุนไพรสุภาภรณ์ อิมปอร์ต เอ็กซปอร์ต จำกัด รับผลิตสินค้าเครื่องสำอาง สบู่ ยาสีฟัน ที่ทำจากสมุนไพรให้ผู้ประกอบการในประเทศไทย และยังรับผลิตสินค้าส่งออกต่างประเทศ อาทิ จีน ซาอุดิอาระเบีย ฮ่องกง เวียดนาม

นอกจากนี้ยังเป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางสมุนไพรไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน CODEX GMP ที่พร้อมให้คำปรึกษาด้านการวิจัยและพัฒนาสมุนไพรธรรมชาติ

“OEM ถือเป็นธุรกิจของเราอีกอย่างหนึ่ง รับผลิตทั้งแบรนด์มหาชน แบรนด์ขายตรง แล้วก็แบรนด์ในเครือของสุภาภรณ์ ในอนาคตก็จะมีการขยาย OEM ในการรับสินค้ามากขึ้น และก็จะมีสินค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาอีก เพื่อเจาะกลุ่มที่แตกต่างออกไปของผู้บริโภค”

ส่งสมุนไพรไทย ตีตลาดต่างประเทศ

จากประสบการณ์ทำงานและธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ทำให้คุณมะตูมมีความเชี่ยวชาญในการเปิดตลาดกับคู่ค้าต่างประเทศ นำสินค้าในเครือบริษัทออกวางจำหน่ายในประเทศแถบเอเชียและตะวันออกกลาง เปิดตลาดการขายสินค้าออนไลน์ วางกลยุทธ์การตลาดของสินค้าทั้งหมดในเครือ ผลิตสินค้าใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ยุคดิจิทัลมากขึ้น จากการขายผ่านตัวแทนกว่า 9,000 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ เช่น เซเว่น อีเลฟเว่น อีกกว่า 10,000 สาขา รวมถึงช่องทางการตลาดออนไลน์ การสร้างร้านค้า Official ผ่านอีมาร์เก็ตเพลสทั้งในและต่างประเทศ

“ตลาดสมุนไพรมียอดเติบโตหมื่นล้าน และตลาดสกินแคร์ก็โตขึ้นทุกปี ซึ่งเราอยู่ในตลาดสมุนไพร Niche Market เราเน้นขายหลักๆ ที่โมเดิร์นเทรด ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านยี่ปั๊ว ซาปั๊ว โดยเฉพาะร้านตามต่างจังหวัดถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ ซึ่งเรามีสินค้ามากกว่า 100 SKU (Stock Keeping) โดยจัดจำหน่ายผ่านบริษัทรับจัดจำหน่ายสินค้าในเครือคือ บริษัท สยามเซฟเวย์เทรดดิ้ง จำกัด” 

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีการส่งออกสินค้าไปขายตามห้างในต่างประเทศ เช่น เมียมา กัมพูชา สปป.ลาว ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะ สินค้าสมุนไพรไทย ไม่ว่าจะเป็น สปาผิว สบู่ ยาสีฟัน

สำหรับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์ยังเป็นผู้บริโภคกลุ่มผู้หญิง แต่ปัจจุบันสามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มผู้ชายได้ประมาณ 15% เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น ทำให้สมุนไพรสุภาภรณ์ไม่หยุดที่จะพัฒนา ด้วยการต่อยอดพัฒนาโปรดักส์ร่วมกับแผนก R&D (Research and Development) และยังมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการพัฒนาสินค้าอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมองว่า การลงทุนในการทำการตลาดคือมีแต่ได้ แต่แต่ที่สำคัญต้องลงให้ถูกจุดถึงจะเพิ่มยอดขายได้ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางสื่อต่างๆ

“แม้แต่กระทั่ง TikTok ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งเราจะต้องไปนั่งขัดหน้าผ่าน TikTok ทาไปเต้นไป ก็จะเห็นได้ว่าโซเชียลมีเดียช่วยได้เยอะมาก ต้องรู้จักนำเทคโนโลยีตรงนี้เข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ และต้องลงมือทำถึงจะเกิดผล” 

ตลาดสมุนไพรไทยโต ส่งเสริมเกษตรกรให้มีรายได้

สมุนไพรสุภาภรณ์นอกจากจะสร้างธุรกิจมาอย่างยาวนาน ยังมีนโยบายซื้อวัตถุดิบสมุนไพรกับเกษตรกรโดยตรง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง หวังเพื่อช่วยส่งเสริมเกษตรกรไทยให้มีรายได้ที่ดี

“เราติดต่อซื้อขายกับเกษตรกรโดยตรง เพราะอยากสนับสนุนเกษตรกรไทยให้มีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดี ส่วนเรื่องมาตรฐานก่อนที่จะนำไปผลิต ต้องผ่านการเข้าแล็บทดลองฆ่าเชื้อ เพราะคำนึงวัตถุดิบต้องถึงความสะอาด”

นอกจากนี้คุณมะตูมยังมองว่า ปัจจุบันคนหันมานิยมใช้สมุนไพรเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับเกิดกระแสค่านิยมการบริโภคอาหารปลอดภัยอย่างกว้างขวาง ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้ตลาดสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี 

อีกทั้งรัฐบาลเองก็เล็งเห็นถึงโอกาสทองในการส่งเสริมเกษตรกรไทย ด้วยการส่งเสริมให้ปลูกสมุนไพรให้กว้างขวางมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้เกษตรกรไทย

“ตลาดสมุนไพรโตขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคนรุ่นใหม่เริ่มหันมาใช้สมุนไพร และมองเห็นคุณค่าสมุนไพรมากขึ้น อีกทั้งภาครัฐเองก็พยายามผลักดันเรื่องนี้เหมือนกัน ส่วนภาคเกษตรก็มีโอกาสโตขึ้นแน่นอนสำหรับสินค้าที่เป็นสมุนไพรธรรมชาติ โดยเฉพาะในต่างประเทศ” 

บริหาร ‘กงสี’ อย่างไร ให้ธุรกิจรุ่ง

จากประสบการณ์บริหารธุรกิจในต่างประเทศมาหลายปี และหลากหลายอุตสาหกรรม ประกอบกับได้รับการอบรมการบริหารงานโดยตรงจากผู้บริหารรุ่น 1 และรุ่น 2 ทำให้คุณมะตูมเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่มีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลในการทำงาน โดยไม่หยุดพัฒนาเครือสุภาภรณ์ให้ก้าวไกลมากกว่าเดิมอย่างมั่นคง พร้อมมุ่งหวังว่าสินค้าสมุนไพรไทยจะเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก

“หาประสบการณ์จากที่อื่น บ่มเพาะตัวเองหลายปีกว่าจะได้รับความเชื่อใจจากผู้บริหารรุ่น 1 และรุ่น 2 เริ่มจากเป็นพนักงานทั่วไป ต้องพิสูจน์ตัวเอง จนขึ้นมาบริหารได้ ซึ่งคนในบ้านก็เข้มงวดอยู่เหมือนกัน”

เครือสุภาภรณ์ดำเนินธุรกิจด้วยระบบกงสี โดยมีสมาชิกในครอบครัวทำงานร่วมกัน มีการวางแผนสืบทอดธุรกิจอย่างถี่ถ้วน ให้ความสำคัญกับการแบ่งผลประโยชน์ให้กับสมาชิก เพื่อลดโอกาสความขัดแย้ง และที่สำคัญคือรักษาความสัมพันธ์อันดีในครอบครัวที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้กิจการครอบครัวดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและรุ่งเรือง

“เสน่ห์ของการทำงานในระบบกงสี คือการไว้เนื้อเชื่อใจกัน สำคัญคือนอกจากจะเป็นผู้บริหารธุรกิจ ยังต้องบริหารความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย ต้องยอมรับว่าธุรกิจใหญ่ๆ ที่เติบโตมาได้ก็มาจากครอบครัวทั้งหมด”

คุณมะตูมยังเล่าอีกว่า คุณย่าที่เป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจ มีนโยบายอยากให้ธุรกิจอยู่ครองตลาดไปยาวนาน พร้อมทั้งสอนลูกหลานทำธุรกิจโดยไม่ต้องเปรียบเทียบกับบริษัทอื่น 

“คุณย่าจะสอนลูกหลานลูกหลานตลอดว่าให้พอใจในสิ่งที่เรามี ทำทุกวันให้ดีพอ แข่งกับตัวเอง ไม่ต้องไปดูว่าเขาจะก้าวกระโดดขนาดไหน นโยบายผู้ก่อตั้งก็อยากให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องหวือหวา แต่ยังเป็นที่ต้องการของตลาด”

คุณมะตูม อัคเรศ และคุณสุภาภรณ์ สุขตลอดชีพ
คุณมะตูม อัคเรศ และคุณสุภาภรณ์ สุขตลอดชีพ

แม้ธุรกิจสมุนไพรที่เกี่ยวข้องกับความงามจะเติบโตมากถึงหมื่นล้านบาท แต่คุณมะตูมก็มั่นใจว่าบริษัทมีความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งสามารถชิงส่วนแบ่งในตลาด ด้วยเครือข่ายตัวแทนร้านค้ากว่า 9,000 แห่ง และในเซเว่น อีเลฟเว่นอีก 10,000 สาขา อีกทั้งยังมีช่องทางตลาดออนไลน์ต่างๆ ที่รับสินค้าในเครือไปขาย ส่งออกสินค้าไปจำหน่ายที่ต่างประเทศ รับผลิตสินค้า OEM จะสามารถเพิ่มยอดขาย และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ พาธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

รู้จัก เครือสุภาภรณ์ (Supaporn Group) ได้เพิ่มเติมที่ : 

https://www.supapornherb.com/

https://www.facebook.com/Spp.herb/

https://www.facebook.com/PatummasHerbs/

https://www.facebook.com/IsikaHerbs/

https://www.facebook.com/oem.spp

https://www.youtube.com/watch?v=TwApnxDwZAI&t=80s

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ
คลิกหรือสายด่วน1333