ประโยชน์ 5 ประการ ของการถือหุ้นระยะยาว ในปี 2022

กลยุทธ์การลงทุนระยะยาว เป็นกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับการถือครองการลงทุนเป็นระยะเวลามากกว่า 1 ปีเต็ม กลยุทธ์นี้รวมถึงการถือครองสินทรัพย์ เช่น พันธบัตร หุ้น กองทุนรวมดัชนี (ETF) กองทุนรวม และอื่นๆ หากเราต้องการใช้วิธีการลงทุนระยะยาว เราต้องมีวินัยและความอดทน เนื่องจากนักลงทุนต้องสามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง พร้อมไปกับการเฝ้ารอผลตอบแทนที่สูงขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญตลาดการเงินหลายราย แนะนำให้ถือหุ้นในระยะยาวและชี้ว่า S&P 500 เคยประสบผลขาดทุนเพียง 11 ปี จากทั้งหมด 47 ปี นับตั้งแต่ 1975 จนถึง 2022 ชี้ให้เห็นว่าผลตอบแทนของตลาดหุ้นค่อนข้างผันผวนในกรอบเวลาที่สั้นลง สถิตินี้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนในอดีตได้รับผลกำไรที่สูงขึ้นมากเมื่อลงทุนในระยะยาว

ในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ นักลงทุนอาจถูกดึงดูดให้เล่นหุ้นแบบไม่จริงจังเพื่อเพิ่มผลตอบแทนระยะสั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การถือครองหุ้นในระยะยาวก็สมเหตุสมผลกว่าและจะมอบผลตอบแทนโดยรวมที่สูงขึ้นแก่เราได้

ในบทความนี้ เราจะแสดงวิธีที่คุณอาจได้รับประโยชน์จากการถือครองหุ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น

ผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่า

ประเภทสินทรัพย์ หมายถึง ประเภทของการลงทุนที่เฉพาะเจาะจง โดยมีลักษณะและคุณสมบัติเหมือนกัน เช่น สินทรัพย์ที่สร้างรายได้คงที่ (พันธบัตร) หรือตราสารทุน ซึ่งมักเรียกว่าหุ้น ประเภทสินทรัพย์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงอายุของคุณเอง ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เป้าหมายการลงทุน และจำนวนเงินทุนที่คุณต้องการใช้ แต่สินทรัพย์ประเภทใดล่ะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักลงทุนระยะยาว

หากเราดูผลตอบแทนของประเภทสินทรัพย์ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เราจะพบว่าโดยทั่วไปแล้ว หุ้นทำผลงานได้เหนือกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ เกือบทั้งหมด โดย S&P 500 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 11.82% ต่อปี ระหว่างปี 1928 ถึง 2021 ซึ่งจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับตั๋วเงินคลัง (Treasury Bill) อายุ 3 เดือน กับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี (Treasury Note) ที่ให้ผลตอบแทนเพียง 3.33% และ 5.11% ตามลำดับ

ตลาดเกิดใหม่มีศักยภาพที่จะให้ผลตอบแทนสูงสุดในตลาดตราสารทุน แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ในอดีตสินทรัพย์ประเภทนี้เคยได้รับผลตอบแทนประจำปีโดยเฉลี่ยสูง แต่ความผันผวนในระยะสั้นกลับส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน ตัวอย่างเช่น ผลตอบแทนรายปีของดัชนีวัดผลตอบแทนของตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (ดัชนี MSCI Emerging Markets Index) เป็นเวลา 10 ปี อยู่ที่เพียง 2.89% ณ วันที่ 29 เมษายน 2022

เทรดไปกับราคาขาขึ้นและขาลง

หุ้นถือเป็นการลงทุนระยะยาว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่หุ้นจะมีมูลค่าลดลง 10% ถึง 20% หรือมากกว่านี้ในระยะเวลาที่สั้นลง นักลงทุนมีโอกาสก้าวผ่านจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดเหล่านี้โดยไม่ได้รับผลกระทบมากนักได้ในช่วงหลายปีหรือหลายสิบปีเพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาวที่ดียิ่งขึ้น

เมื่อมองย้อนกลับไปดูสถิติผลตอบแทนของตลาดหุ้นตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1920 นักลงทุนแทบไม่สูญเสียเงินลงทุนใน S&P 500 เป็นระยะเวลา 20 ปี แม้จะเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ วันจันทร์ทมิฬ (Black Monday) ภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ไอที และวิกฤตการณ์ทางการเงิน ซึ่งนักลงทุนก็จะได้รับกำไรหากลงทุนใน S&P 500 และถือไว้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 20 ปี

แม้ว่าผลลัพธ์ในอดีตไม่สามารถรับประกันว่าคุณจะได้รับผลตอบแทนในอนาคตอย่างแน่นอน แต่เราขอแนะนำว่าการลงทุนระยะยาวในหุ้นมักให้ผลลัพธ์ที่เป็นบวก หากให้เวลานานเพียงพอ ลองดูหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม รวมถึงช่วงเวลาซื้อขายได้ที่เทรดหุ้น Exness

นักลงทุนอาจประเมินทิศทางตลาดผิดพลาด

หากให้พูดกันแบบเปิดอก ส่วนใหญ่เราอาจไม่มีความใจเย็นพอ ไม่มีเหตุผล หรือไม่สามารถตั้งสติได้ตลอดเวลาอย่างที่เราพูดว่าเราทำได้ ข้อบกพร่องอย่างหนึ่งในพฤติกรรมของนักลงทุนคือแนวโน้มที่จะใช้อารมณ์ตัดสินใจ หลายคนบอกว่าตนเองเป็นนักลงทุนระยะยาว แต่พอตลาดหุ้นเริ่มดิ่งลงก็กลับถอนเงินออกเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนเพิ่มเติม

นักลงทุนจำนวนไม่น้อยไม่สามารถลงทุนในหุ้นต่อได้เมื่อเกิดการกลับตัว และมักจะกระโดดกลับเข้ามาซื้อเมื่อตลาดวายแล้ว พฤติกรรมการซื้อสูงขายต่ำประเภทนี้มักทำให้ผลตอบแทนของนักลงทุนแย่ลง

นักลงทุนที่หมกมุ่นกับตลาดหุ้นมากเกินไปมักจะเสียโอกาสในการประสบความสำเร็จ เพราะประเมินทิศทางตลาดบ่อยเกินไป กลยุทธ์ซื้อและถือระยะยาวให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ามาก ขอแนะนำให้เรียนรู้วิธีลงทุนในหุ้น ทำความรู้จักว่าหุ้นคืออะไรได้เพิ่มเติม           

อัตราภาษีต่ำลงเมื่อลงทุนระยะยาว

กำไรที่ได้รับจากการขายสินทรัพย์จากการลงทุนใดๆ เรียกว่า “กำไรจากส่วนต่างราคา” หรือ Capital Gain ซึ่งรวมถึงทรัพย์สินส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ หรือการลงทุน เช่น หุ้น พันธบัตร และอสังหาริมทรัพย์

กำไรที่นักลงทุนได้จากการขายหลักทรัพย์ภายใน 1 ปีปฏิทินของการซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวจะถูกคิดภาษีรวมกับรายได้ปกติ ซึ่งเรียกว่ากำไรจากการลงทุนระยะสั้น อัตราภาษีนี้อาจสูงถึง 37% ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรายได้รวมที่ปรับแล้ว (AGI) ของแต่ละบุคคล

แต่หลักทรัพย์ใดก็ตามที่ขายหลังจากถือครองมานานกว่า 1 ปีจะเป็นกำไรจากการลงทุนระยะยาว กำไรจะถูกเก็บภาษีในอัตราสูงสุดเพียง 20% นักลงทุนที่มีฐานอัตราภาษีต่ำอาจมีสิทธิ์ได้รับอัตราภาษีจากการลงทุนระยะยาว 0% (ความแตกต่างอาจขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ)

ประหยัดได้มากกว่า

ประโยชน์หลักประการหนึ่งของวิธีการลงทุนระยะยาวคือ “เงิน” การถือหุ้นในพอร์ตของคุณนานขึ้นจะคุ้มทุนมากกว่าการซื้อและขายตามปกติ เพราะยิ่งคุณถือเงินลงทุนนานเท่าใด ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายก็ยิ่งน้อยลง จำนวนเงินที่คุณจ่ายค่าธรรมเนียมการซื้อขายหรือการทำธุรกรรมขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและบริษัทการลงทุนที่ดูแลพอร์ตการลงทุนของคุณ

ตัวอย่างเช่น บริษัทอาจเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นซึ่งจะถูกหักเมื่อคุณซื้อและขายผ่านโบรกเกอร์ ค่าใช้จ่ายประเภทนี้จะถูกหักออกจากบัญชีของคุณทุกครั้งที่มีการซื้อขายหุ้น ซึ่งหมายความว่ายอดคงเหลือในพอร์ตจะลดลงทุกครั้งที่มีการขาย

ผู้ที่ลงทุนในหุ้นสามารถสร้างรายได้จากกลยุทธ์การซื้อขายมากมายที่แตกต่างกัน นักลงทุนที่มีประสบการณ์มากและมีจำนวนเงินทุนที่สูงกว่าอาจสามารถทำกำไรได้ตามการเคลื่อนไหวของราคาและสร้างรายได้โดยใช้เทคนิคการเทรดระยะสั้น

แต่เทคนิคนี้อาจไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นหรือไม่สามารถรับความเสี่ยงในระดับสูงได้ การถือหุ้นในระยะยาวจะช่วยให้คุณก้าวผ่านจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของตลาดไปได้ ได้รับประโยชน์จากอัตราภาษีที่ต่ำลง และประหยัดได้มากกว่า

แล้วต้องถือหุ้นนานเพียงใดจึงจะเรียกว่าเป็นระยะยาว? คำตอบคือ เช่นเดียวกับสินทรัพย์อื่นๆ ที่คุณต้องถือหุ้นอย่างน้อย 12 เดือนจึงจะถือเป็นการลงทุนระยะยาว หากระยะเวลาสั้นกว่านั้นจะเป็นการถือครองระยะสั้น