ธุรกิจประมูลรถยนต์ คึกคัก หลังโควิดคลี่คลาย คาดปีนี้ตลาดโตอีก 15%

ธุรกิจประมูลรถยนต์คึกคัก หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย จบไตรมาสแรกปีนี้ทั้งตลาดจัดประมูลไปแล้วประมาณกว่า 65,000 คัน คาดปีนี้ตลาดโตจากปีก่อน 15% “แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น” รุกใช้กลยุทธ์ความทันสมัยของระบบประมูลสู้ทั้งออนไลน์และออนไซต์ที่สำนักงานแห่งใหม่ หวังยอดขายปีนี้ทะลุ 700 ล้าน

วันที่ 6 มิถุนายน 2565 นายอนุชาติ  ดีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจประมูลรถยนต์รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ในปี 2564 ที่ผ่านว่า

แม้ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดโดยตรง แต่ผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้กำลังซื้อลดลง เห็นได้จากยอดขายรถยนต์ใหม่ในปี 2564 ลดลงประมาณ 4% แต่ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ยอดขายกลับมาเติบโตขึ้นประมาณ 10%

นอกจากนั้นในธุรกิจรถยนต์มือสองที่มีมูลค่าตลาดปีละประมาณ 80,000-90,000 ล้านบาท ก็มีการเติบโตอย่างคึกคักเช่นกัน โดยคาดว่าเติบโตประมาณ 10-15% และแนวโน้มยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง

ในส่วนของธุรกิจประมูลรถยนต์ ซึ่งถือเป็น Supply ใหญ่ที่สุดของตลาดรถยนต์มือสอง เริ่มมีรถยนต์เพิ่มขึ้นจากครึ่งหลังของปี 2564 ที่ยอดรถยนต์เข้าลานประมูลลดลงมาตลอด แต่ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 มีปริมาณเพิ่มขึ้นโดยคาดว่าตลาดรถยนต์ที่ผ่านการประมูลมีประมาณ 65,000 คัน และคาดว่าในปี 2565 จะเติบโตจากปี 2564 ประมาณ 10-15%

สำหรับสภาพการแข่งขันในธุรกิจประมูลรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันในตลาดมีประมาณ 7-8 แห่ง ที่ทำการประมูลรถยนต์ทั้งในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์ การแข่งขันยังถือว่าไม่รุนแรง เพราะแต่ละแห่งจะมีฐานลูกค้ารถยนต์ประมูลที่แตกต่างกัน

โดยในช่วงโควิด ทุกลานประมูลได้ปรับให้มีระบบการประมูลแบบออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้ประมูลที่ไม่ต้องการเดินทาง โดยสัดส่วนการประมูลออนไลน์จากอดีตที่มีสัดส่วนประมาณ 25-30% เพิ่มเป็นประมาณ 75-80% และในช่วงที่จำกัดการเดินทางและการรวมตัวของลูกค้า มีการประมูลออนไลน์ถึง 100%

นายอนุชาติ กล่าวว่า ในส่วนของ “แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น” ปัจจุบันมีสัดส่วนการตลาดอยู่ในอันดับ 2 ของประเทศ นอกจากจะมีการประมูลในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์แล้ว ยังมีการประมูลแบบ Apple E-bidding ที่เป็นการฝากราคา และการให้บริการลูกค้าที่ต้องการฝากขายรถในช่องทาง Apple Auto Trade ที่ตอบสนองความหลากหลายของลูกค้าได้อย่างดี

และหลังจากบริษัทย้ายสำนักงานใหญ่มาที่บริเวณถนนติวานนท์ จังหวัดปทุมธานี บนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ถือเป็นลานประมูลที่ใหญ่ทันสมัยโอ่โถงที่สุด มีระบบประมูลแบบ E-Auction ที่ล้ำสมัย พื้นที่จัดเก็บสต๊อกและลานประมูลมากกว่า 25 แห่ง ทั่วประเทศ สามารถตอบสนองลูกค้าที่เป็นสถาบันการเงินทุกแห่งในฐานะผู้ขาย และกลุ่มลูกค้าผู้ซื้อรถยนต์ที่เป็นผู้ประกอบการรถยนต์มือสองทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นฐานลูกค้าสำคัญในการทำให้การซื้อ-ขาย รวมถึงลูกค้ารายย่อยที่เป็นบุคคลธรรมดาด้วย และด้วยความพร้อมในทุกๆ ด้าน

จึงคาดว่าปี 2565 นี้ บริษัทคาดว่าจะสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท และในอนาคตบริษัทยังศึกษาลู่ทาง จัดประมูลสินค้าอื่นๆ นอกเหนือจากรถยนต์ เพื่อนำพาบริษัทขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจการประมูลต่อไปอีกด้วย