เมกาบางนา ฉลองความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ครบรอบ 10 ปี

เมกาบางนา ฉลองความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ครบรอบ 10 ปี ของการเป็น Your Everyday Meeting Place 

 

  • ทุ่มงบการตลาดกว่า 200 ล้านบาท ตลอดปี 2565 พร้อมจับมือคู่ค้าจัดกิจกรรม และโปรโมชั่นขอบคุณลูกค้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำของศูนย์การค้ากรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก
  • พร้อมเดินหน้าต่อเนื่องกับโครงการมิกซ์ยูส “เมกาซิตี้” มูลค่า 67,000 ล้านบาท สร้างเมืองแห่งอนาคตสำหรับความสุขของทุกคน

 

บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเมกาบางนา ฉลองความสำเร็จพร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 อย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำของศูนย์การค้ากรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ที่ต้อนรับลูกค้ามาแล้วมากกว่า 500 ล้านคนตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ยืดหยัดเคียงคู่ชุมชน รวมถึงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาพื้นที่บางนา ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่และเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของผู้คน เตรียมเดินหน้าพัฒนาศูนย์การค้าและโครงการเมกาซิตี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษครบรอบ 10 ปี รวมถึงแคมเปญโปรโมชั่นแทนคำขอบคุณลูกค้าตลอดเดือนพฤษภาคม 2565 นี้

คุณพลินี คงชาญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหาร เมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้
คุณพลินี คงชาญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหาร เมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้

คุณพลินี คงชาญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหาร
เมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้
เปิดเผยว่า “ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เมกาบางนาเป็นศูนย์การค้าที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการศูนย์การค้ามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่พลิกโฉมพื้นที่เปล่าย่านบางนาให้เป็นศูนย์การค้าแนวราบขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยแนวคิดและวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่ต้องการสร้างศูนย์การค้าแห่งนี้ให้เป็นมากกว่าแหล่งช็อปปิ้ง

โดยเรามีความตั้งใจที่จะให้เมกาบางนาเป็น ‘Your Everyday Meeting Place’ ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม อีกทั้งยังนำเสนอประสบการณ์ที่ลูกค้าจะหาไม่ได้จากศูนย์การค้าอื่นๆ ด้วยจุดแข็งในเรื่องขนาดพื้นที่ที่สามารถรองรับการพัฒนาส่วนต่อขยายต่างๆ ทั้ง Commercial Space และ Non-commercial Space อาทิ การสร้างสวนสาธารณะ เมกาพาร์ค บนที่ดินกว่า 7 ไร่ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับคนย่านบางนามาพักผ่อนหย่อนใจโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งลูกค้าจะไม่สามารถหาสถานที่แบบนี้ได้จากศูนย์การค้าที่อยู่ในเมืองอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ เมกาบางนายังพัฒนาและปรับปรุงศูนย์การค้าให้ทันยุคนำเทรนด์อยู่เสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งในเรื่องการปรับปรุงทัศนียภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวก หรือการปรับเปลี่ยนร้านค้าใหม่ๆ การจัดกิจกรรมทางการตลาด รวมไปถึงความร่วมมือจากพันธมิตรต่างๆ ในทุกๆ ด้านที่ทำให้เมกาบางนา เป็น Meeting Place ที่เหมาะสำหรับทุกคนให้สามารถมาใช้เวลาร่วมกันได้อย่างมีคุณภาพและครบทุกความต้องการ ไม่ว่าจะช้อปปิ้ง รับประทานอาหาร ชมภาพยนตร์ ออกกำลัง พักผ่อน หรือแฮงเอาต์กับเพื่อนได้ทุกๆ วัน จนทำให้ปัจจุบันเมกาบางนาเป็นศูนย์การค้าที่ได้รับความนิยม และติดอันดับศูนย์การค้าที่ลูกค้าจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ”

ถึงแม้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมกาบางนาก็สามารถปรับกลยุทธ์รับมือกับสถานการณ์และผ่านวิกฤตมาได้ และเมื่อกลับมาเปิดให้บริการ ทางศูนย์การค้าก็สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการได้เป็นอย่างดี ด้วยมาตรการป้องกันที่เข้มข้นจนทำให้มีจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการถึง 42 ล้านคนในปี 2564 อีกทั้งมีผู้เช่ารายใหม่ๆ ทยอยเข้ามาเปิดให้บริการภายในศูนย์การค้าเมกาบางนาอย่างต่อเนื่อง

ยิ่งไปกว่านั้นเรายังได้แบรนด์ที่เป็น Premium Tier ที่ตัดสินใจมาเปิดที่เมกาบางนาด้วยความเชื่อมั่นในกำลังซื้อของลูกค้าของเรา อาทิ CHANEL FRAGRANCE & BEAUTY, GUCCI BEAUTY, DIOR COSMETICS, YSL, YUZU SUKI, KAM’S ROAST และ ทองสมิทธ์ เป็นต้น

โดยอัตราการเช่าพื้นที่ของเมกาบางนาเต็มเกือบ 100% มาโดยตลอด ซึ่งกลยุทธ์ที่ทำให้เมกาบางนาประสบความสำเร็จมีด้วยกัน 3 กลยุทธ์หลัก ดังนี้

1. EVOLVING TENANT MIX : หัวใจหลักของการบริหารศูนย์การค้าให้เป็น Successful Retail Destination คือ การบริหารจัดการ Tenant Mix โดยเมกาบางนามีการปรับเปลี่ยนพัฒนาร้านค้าต่างๆ ให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและกระแสนิยมของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ โดยเรามีความตั้งใจสร้างให้เมกาบางนาเป็นศูนย์การค้าที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกเจเนอเรชั่น และตอบโจทย์พฤติกรรมการช้อปปิ้งแบบ One-Stop Shopping Destination โดยเรามี Key Anchor ใหญ่ถึง 5 แบรนด์ที่ถือเป็น Magnet สำคัญที่ช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์ คือ

1. อิเกีย ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านจากประเทศสวีเดนซึ่งมาเปิดให้บริการที่เมกาบางนาเป็นสาขาแรกในประเทศไทย

2. โฮมโปร ศูนย์รวมอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ในบ้านที่ครบจบในที่เดียว

3. เซ็นทรัล @เมกาบางนา เรามีการปรับเปลี่ยน Positioning ตัวห้างเดิมเพื่อตอบโจทย์ Customer Profile ของเมกาบางนาที่เปลี่ยนไป ซึ่งมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น จึงมองหาสินค้าและบริการในระดับพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการวางแผนในส่วนต่อขยายเพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้

4. บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ไฮเปอร์มาร์เก็ตที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภค คุณภาพดีในราคาย่อมเยา

5. เมกา ซีนีเพล็กซ์ รวมทั้ง บลูโอ โบว์ล และซับซีโร่ ไอซ์ สเกต ซึ่งเป็นศูนย์รวมความบันเทิงสำหรับทุกคนในครอบครัว

นอกจากนี้ ลูกค้ายังจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่กับร้านค้าใหม่ๆ ที่ทยอยมาเปิดให้บริการ อาทิ  CAMPER, MOSSIMO, SAEMAEUL SIKDANG, MOS BURGER, OHKAJHU, SUSHIRO, ACE, AMD, YAKINIKU LIKE, DYSON DEMO หรือร้านค้าเดิมก็มีการปรับปรุงร้านให้สวยงามยิ่งขึ้นอยู่ตลอดเพื่อสร้างบรรยากาศภายในร้านให้น่าเข้าไปใช้บริการอยู่เสมอ

2. NEW & NOW EXPERIENCE เมกาบางนาเป็นศูนย์การค้าที่ไม่เคยหยุดพัฒนา และสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ให้กับลูกค้ามาโดยตลอด ทั้งการช้อปปิ้งที่ลูกค้าสามารถมาอัพเดตแบรนด์ใหม่ๆ ที่กำลังอยู่ในกระแสนิยม หรือในแง่สิทธิประโยชน์ลูกค้าก็จะได้รับความคุ้มค่ามากกว่า เมื่อมาช้อปที่เมกาบางนาด้วยสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับสมาชิกเมกา สไมล์ รีวอร์ดส กับ 365-Day Marketing Campaign ทุกการใช้จ่ายสามารถสะสมแต้มยิ้ม เพื่อนำมาแลกของรางวัลหรือส่วนลดต่างๆ มากมาย ซึ่งเมกาบางนามีการจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยร่วมกับพันธมิตรต่างๆ และร้านค้าผู้เช่าภายในศูนย์การค้า ทุกกลุ่มผู้เช่า เพื่อมอบความคุ้มค่า และความสนุกในการช้อปปิ้งมากยิ่งขึ้น

หรือของรางวัลต่างๆ ที่เตรียมไว้ให้ลูกค้า ล้วนแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในเทรนด์และคัดสรรแต่สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ อีกทั้งกิจกรรมในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ ตรุษจีน หรือสงกรานต์ เมกาบางนาก็มีการตกแต่งบรรยากาศ แปลงโฉมศูนย์การค้าให้เข้ากับแต่ละเทศกาล และยังมีจัดการแสดงสร้างความสนุกสนานให้กับลูกค้าในทุกเทศกาลสำคัญ ซึ่งลูกค้าสามารถมาใช้เวลาเดินเล่นถ่ายรูปกับครอบครัวได้ สอดคล้องกับแนวคิดที่ว่า เมกาบางนาจะเป็นมากกว่าศูนย์การค้า คือเราอยากให้ลูกค้ามีช่วงเวลาที่ดีที่สุดทุกครั้งเมื่อมาใช้บริการ

3. SUSTAINABILITY & ECO-FRIENDLY OPERATIONS การดึงดูดและการบริหารจัดการจำนวนลูกค้าให้มาใช้บริการที่เมกาบางนา คือความท้าทายและถือเป็นภารกิจที่สำคัญในการทำงานของทีมงานเมกาบางนาทุกคน ด้วยโจทย์นี้เมกาบางนาจึงได้พัฒนาโครงการเมกาซิตี้ (MEGACITY) ซึ่งเป็นการสร้างคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ และไลฟ์สไตล์แบบใหม่ที่จะทำให้เมกาบางนาแตกต่างจากศูนย์การค้าทั่วไปได้อย่างชัดเจน

โดยเรามองว่าโครงการนี้จะสร้างความยั่งยืน (SUATAINABILITY) ในเรื่องของ Traffic ที่จะเข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้า ด้วยความได้เปรียบในด้านพื้นที่ในโครงการซึ่งเป็นที่ดินผืนใหญ่ รวมกว่า 400 ไร่ และเป็นทำเลเศรษฐกิจที่สำคัญ ทำให้เมกาบางนาสามารถพัฒนาพื้นที่นี้ให้กลายเป็นเมืองที่สมบูรณ์แบบได้

โดยเมื่อปี 2560 เมกาบางนาได้ประกาศการพัฒนาโครงการเมกาซิตี้ ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบ “มิกซ์ยูส” มูลค่ากว่า 67,000 ล้านบาท ซึ่งตามแผนพื้นที่นี้จะประกอบไปด้วยที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงเรียน โรงแรม ศูนย์รวม Entertainment รูปแบบต่างๆ รวมไปถึง Attraction อื่นๆ โดยมีศูนย์การค้าเมกาบางนาเป็นศูนย์กลาง ซึ่งคาดว่าหากโครงการเสร็จสมบูรณ์จะทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการในโครงการเมกาซิตี้ และเมกาบางนาถึงวันละ 250,000 คน เกิดเป็นจำนวน Traffic ที่หมุนเวียน ทั้งเมกาบางนาและเมกาซิตี้ ซึ่งการวางแผนในภาพใหญ่ทั้งหมดนี้ จะทำให้โครงการของเราเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

เมกาซิตี้ เป็นโครงการลงทุนระยะยาว ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพันธมิตรทางธุรกิจ และบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่เล็งเห็นโอกาสและศักยภาพของโครงการ โดยปัจจุบันเมกาซิตี้มีการพัฒนาไปแล้วกว่า 40% และได้มีการพัฒนาองค์ประกอบต่างๆ ไปแล้วอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ส่วนต่อขยายเมกา ฟู้ดวอล์ก ที่มาพร้อมกับที่จอดรถ 1,200 คัน และร้านอาหารเพิ่มกว่า 30 ร้าน, อาคารจอดรถอิเกีย 8 ชั้น ที่เชื่อมต่อกับตึกเดิมของอิเกียที่รองรับรถได้เพิ่มถึง 2,000 คัน ซึ่งทำให้ปัจจุบันเมกาบางนาสามารถรองรับรถได้ครั้งละถึง 12,000 คัน,

ส่วนต่อขยายโซนเมกา สมาร์ท คิดส์ แหล่งรวมสถาบันสอนเสริมทักษะกว่า 20 แห่ง, Mega Harborland สนามเด็กเล่นในร่มขนาดใหญ่, สวนสาธารณะเมกาพาร์ค, โรงเรียนประถมศึกษานานาชาติ ดิษยะศริน กรุงเทพ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ซึ่งโครงการแรกได้แล้วเสร็จและทำการส่งมอบแก่ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว และมีอีก 1 โครงการที่ก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ พร้อมจะส่งมอบให้กับผู้ซื้อโครงการได้ภายในปี 2566 นี้

และโครงการที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้ คือ TOPGOLF (ท็อปกอล์ฟ) ซึ่งจะเป็นท็อปกอล์ฟ แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นที่กว่า 29 ไร่ในโครงการเมกาซิตี้ โดยท็อปกอล์ฟจะเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์แห่งใหม่ของทุกคนไม่ใช่แค่เพียงนักกอล์ฟ เพราะที่นี่ได้รวบรวมเอาการเล่นเกม กีฬา มินิกอล์ฟ ร้านอาหาร ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารไทยและนานาชาติ สปอร์ตบาร์ รวมถึงบาร์รูฟท็อป นำเสนอไลฟ์สไตล์แบบใหม่ให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม

โดยจะพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 3 ปี 2565 เมกาบางนาเชื่อมั่นว่า ท็อปกอล์ฟจะเป็น Magnet สำคัญ ช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าหลากหลายกลุ่มให้เข้ามาใช้บริการ และมอบประสบการณ์ความบันเทิงใหม่แบบที่ไม่สามารถหาได้ที่ไหนอย่างแน่นอน

คุณพลินี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “การพัฒนาเมกาบางนาและโครงการเมกาซิตี้ ยังคงเป็นเป้าหมายหลักในการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้น คือ การขยายพื้นที่ของเซ็นทรัล @เมกาบางนา เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10,000 ตารางเมตร พร้อมกับปรับโฉมใหม่เพื่อให้สามารถจัดสรรโซนนิ่งสินค้าและบริการได้อย่างชัดเจนมากขึ้น

รวมถึงการเปิดส่วนที่เป็น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และเพิ่มสินค้าบริการที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของเมกาบางนาเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ และนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดทางภาคตะวันออก ทำให้โครงการเมกาซิตี้เป็นที่สนใจของนักลงทุน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาพัฒนาโรงแรมภายในโครงการ โดยจะเป็นโรงแรมสำหรับเจาะกลุ่มนักธุรกิจ บนพื้นที่รวมกว่า 13,000 ตารางเมตร”

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการบริหารศูนย์การค้าเมกาบางนา คือ ECO-FRIENDLY OPERATIONS โดยเมกาบางนาใช้งบลงทุนไปกว่า 1 พันล้านบาทในการพัฒนาโครงการอนุรักษ์พลังงานและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ชุมชน เพื่อตอบโจทย์การอยู่ร่วมกันอย่างมีคุณภาพ ช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชนและโลก อาทิ ลดการใช้สารเคมีในการทำความเย็นภายในอาคารทั้งหมด เพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพและเพิ่มความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่รวมทั้งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม

การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ รวมเกือบ 17,000 แผงเต็มพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร บนหลังคาที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 13 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 8.3 ล้านกิโลกรัมต่อปี และลดการใช้พลังงานของระบบปรับอากาศได้มากกว่า 20% อีกทั้งยังมี

การสร้างโรงบำบัดน้ำเสียมาตรฐานระดับสากลโดยใช้เทคโนโลยีเมมเบรนแทนการใช้สารเคมี โดยน้ำที่ผ่านไส้กรองสามารถนำมาใช้หมุนเวียนในกิจกรรมดูแลรักษาต้นไม้ และงานทำความสะอาดภายในศูนย์การค้า ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำประปาได้มากกว่าปีละ 1 แสนหน่วย

นอกจากนี้ เมกาบางนายังเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชนในส่วนต่อขยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะเมกาพาร์ค ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ (11,200 ตารางเมตร) เป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ของชาวบางนา ที่มีสนามเด็กเล่นพร้อมเครื่องเล่นสำหรับเด็กที่มีมาตรฐานปลอดภัย อาทิ บ้านต้นไม้ น้ำพุ และน้ำตกจำลอง และยังเปิดให้เป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง ให้สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และส่วนต่อขยาย

เมกา ฟู้ดวอล์ก ภายใต้บรรยากาศกึ่งเอาต์ดอร์พร้อมโขดหิน ลำธาร และน้ำตก อีกทั้งการปรับภูมิทัศน์ด้านนอกของโซนเมกา ฟู้ดวอล์ก ในคอนเซ็ปต์ Scandinavian Playground ประกอบด้วยสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่พร้อมสายน้ำ (Stream Valley) ที่ลูกค้าชอบมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ และบ่อทราย (Sand Dune) ให้เด็กๆ มาเล่นฟรี ภายใต้สวนต้นไม้อันรื่นรมย์ที่หาได้ยากในเมือง เพื่อให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน ซึ่งจริงๆ ทางศูนย์การค้าสามารถนำพื้นที่ดังกล่าวไปพัฒนาในเชิงพาณิชย์ได้ แต่เราเลือกที่จะมอบพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับชุมชนและลูกค้าของเรา

ทั้งนี้ ในโอกาสครบรอบ 10 ปี เมกาบางนาได้ทุ่มงบประมาณการตลาดกว่า 20 ล้านบาท ส่งมอบแคมเปญและโปรโมชั่นสุดพิเศษ “Megabangna 10th Anniversary” เพื่อแทนคำขอบคุณให้กับลูกค้าที่สนับสนุนเมกาบางนามาตลอด โดยตลอดเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2565 เมื่อใช้จ่ายที่เมกาบางนาตามเงื่อนไข สามารถลุ้นรับรางวัลได้มากมายมูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท รางวัลใหญ่เป็นรถยนต์ Honda Accord 1.5 TURBO EL มูลค่า 1,499,000 บาท, กล้อง Leica Q2 มูลค่า 197,000 บาท, บัตรกำนัลแทนเงินสดจากอิเกีย มูลค่า 50,000 บาท และรางวัลอื่นๆ รวมทั้งหมด 10 รางวัล,

และเตรียมช้อปลุ้นเซอร์ไพรส์กับ Surprised Weekend! ในวันที่ 7-8 พฤษภาคม หากมาช็อปที่เมกาบางนาเตรียมตัวลุ้นรับเซอร์ไพรส์จาก 10 ร้านค้าที่ร่วมรายการ มูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท พร้อมรับสิทธิพิเศษจากร้านค้าทั่วทั้งศูนย์การค้า ถึง 2 ต่อ ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ โดยต่อที่ 1 เมื่อทานอาหารหรือช้อปครบตามเงื่อนไข รับทันทีส่วนลดพิเศษ หรือของพรีเมี่ยม หรือเมนูพิเศษจากร้านค้าที่ร่วมรายการกว่า 80 ร้าน และต่อที่ 2 รับของพรีเมี่ยมคอลเล็กชั่นพิเศษฉลอง 10 ปี เมกาบางนา เมื่อ กิน/ช้อปครบตามเงื่อนไข

และพิเศษสุดๆ ในวันเกิดของเมกาบางนา สมาชิกเมกาสไมล์ รีวอร์ดส รับคะแนนสะสม 10 เท่า เมื่อช้อปในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 วันเดียวเท่านั้น! สำหรับลูกค้าที่ช้อปและสะสมคะแนน 100 ท่านแรก (จำกัดยอดซื้อไม่เกิน 100,000 บาท) นอกจากโปรโมชั่นที่เราเตรียมไว้แทนคำขอบคุณและคืนกำไรให้ลูกค้าแล้วนั้น เรายังได้มีการตกแต่งพื้นที่อย่างยิ่งใหญ่สวยงามและมีกิจกรรมสร้างสีสัน สร้างบรรยากาศการช้อปปิ้งให้ครึกครื้นทุกช่วงวันหยุด ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้

“ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ‘We Create A Better Everyday Life for the Many People’ ยังคงเป็นปณิธานสำคัญในการทำงานของพนักงานและผู้บริหารศูนย์การค้าเมกาบางนาเสมอมา เราต้องการสร้างสรรค์และพัฒนาพื้นที่สำหรับทุกๆ คน และชุมชน เพื่อให้สามารถเติบโตไปพร้อมๆ กับธุรกิจของเราได้ รวมทั้งการส่งเสริมการใช้ชีวิตแบบมีคุณภาพและยั่งยืนสำหรับคนไทยและประเทศไทย เมกาบางนาจะยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการของเรา เพื่อยกระดับตลาดรีเทล ของไทยให้แข่งขันกับเวทีโลกได้อย่างภาคภูมิ” คุณพลินี กล่าวสรุป