อร่อยไซซ์มินิ ‘รุ่งเจริญ’ ตีโจทย์น้ำพริกได้ใจผู้บริโภค ด้วย Business Transformation

อร่อยไซซ์มินิ รุ่งเจริญตีโจทย์น้ำพริกได้ใจผู้บริโภค ด้วย Business Transformation

แม้จะมีน้ำพริกสูตรเด็ด ใช่ว่าความสำเร็จจะกองอยู่ตรงหน้า สู่ Case Study สำหรับ SMEs และภาคธุรกิจอื่นๆ ว่า คุณธนาวัฒน์ โพธิ์เผื่อนน้อย กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.พี.เอ็น.ฟู้ดส์ จำกัด ใช้กลเม็ดใดปั้นน้ำพริกไซซ์มินิแบรนด์ รุ่งเจริญ มัดใจคนเมือง-คนรุ่นใหม่บ้านเรา พร้อมกับเปลี่ยนตัวเองจากน้ำพริกตลาดสดสู่การเป็นน้ำพริกแถวหน้าเมืองไทยมุ่งโกอินเตอร์รุกตลาด CLMV

สานต่อธุรกิจครอบครัว โจทย์ใหญ่ท้าทายคนรุ่นลูก

คุณธนาวัฒน์ กล่าวว่า ด้วยความที่อยู่ในครอบครัวทำธุรกิจค้าขาย โดยพ่อกับแม่เริ่มต้นจากการทำอาหารแล้วหันมาทำน้ำพริกขายปลีกในตลาดจังหวัดสมุทรปราการ ทำให้ตนเองมีภาพจำ-ซึมซับเกี่ยวกับธุรกิจการทำอาหารและน้ำพริก ซึ่งสิ่งที่เห็นแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ การเป็นอาชีพที่ลำบาก แต่พ่อกับแม่ก็สามารถเลี้ยงลูกๆ ได้ อีกส่วนหนึ่งก็คือความรู้สึกภูมิใจเมื่อไปช่วยพ่อ-แม่ แล้วได้ยินลูกค้าชมว่าน้ำพริกอร่อย

หลังจากสำเร็จการศึกษาด้านการตลาด ได้ขอรับช่วงทำธุรกิจขายน้ำพริกต่อจากพ่อ-แม่ เนื่องจากทั้ง 2 ท่านอายุมากแล้ว โดยตอนนั้นยังเป็นแบบตักชั่งกิโลขาย

ช่วงที่รับช่วงต่อจากพ่อ-แม่ เมื่อปี 2549 OTOP กำลังบูม ตนเองจึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ นำมาสู่การพัฒนาสินค้า แต่ความยากคือต้องมาเริ่มต้นใหม่ เช่น ธุรกิจรุ่นคุณพ่อ-คุณแม่มีขั้นตอนดำเนินกิจการอย่างไร มีสูตรอะไรบ้าง แล้วจะพัฒนาสินค้ายังไง ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ ลองผิดลองถูก ถึงแม้จะมีจุดแข็งคือน้ำพริกซึ่งมีสูตรอยู่แล้วก็ตาม

การทำธุรกิจขณะนั้นเป็นการทำน้ำพริกใส่กะละมังตักขายตามงานโอท็อป ต่อมาตนเองมองว่าผลิตเพื่อขายส่งน่าจะดีกว่า ดังนั้น จึงต้องมีการพัฒนาแพ็กเกจจิ้ง ทดลองทำน้ำพริกใส่กระปุกติดฉลากนำไปฝากขายตามร้านต่างๆ แต่เจอปัญหาสินค้าเหมือนกับเจ้าอื่น ร้านค้าต่างๆ บอกว่ามีน้ำพริกกระปุกอยู่แล้ว รวมถึงแบรนด์ รุ่งเจริญ ยังไม่เป็นที่รู้จัก

แพ็กเกจจิ้ง’ Pain Point น้ำพริก จุดไอเดีย ‘ถ้วย’ มินิ

กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.พี.เอ็น.ฟู้ดส์ จำกัด เล่าว่า การทำน้ำพริกแบบกระปุกส่งผลให้ถูกร้านค้าต่างๆ ปฏิเสธ นำมาสู่แนวคิดจะทำอย่างไรให้น้ำพริกแตกต่างจากที่อื่น-ขยายตลาดได้ จึงมีการเก็บข้อมูลตามที่บริษัทไปจำหน่ายตามงานโอท็อป ณ มหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งนักศึกษาไม่ค่อยให้ความสนใจเนื่องจากรู้สึกว่าเป็นสินค้าที่ไม่ทันสมัย ดังนั้น บริษัทต้องพัฒนาแพ็กเกจจิ้งให้ดูทันสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

นำมาสู่คำถามที่ว่า น้ำพริกคู่กับคนไทย สามารถกินได้ทุกมื้อ แต่ทำไมคนไทยไม่กินทุกมื้อ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจาก พกพาไม่สะดวก ต้องมาจัดเก็บหลังกินเสร็จ ซึ่งเป็นหนึ่งใน Pain Point ที่ตัวเองเคยพบเจอ นั่นก็คือการนำเอาน้ำพริกกระปุกมากิน แล้วกินไม่หมดในครั้งเดียว ก่อนนำแช่ตู้เย็นไว้ แล้วเกิดการหลงลืม ส่งผลให้น้ำพริกเสียต้องทิ้งไป

จึงมีแนวคิดว่าน่าจะทำน้ำพริกให้พอดีกินสำหรับมื้อนั้นๆ โดยทำให้กลุ่มลูกค้าสามารถรับประทานได้ทุกมื้อ พกพาไปได้ทุกที่ ไปต่างประเทศก็พกพาสะดวก คนเมือง-คนรุ่นใหม่รู้สึกทันสมัย จึงมีการพัฒนาแพ็กเกจจิ้งขึ้นมา

ปรับขนาดบรรจุภัณฑ์น้ำพริกให้เล็กลง ช่วยเปลี่ยนมุมมองจากกับข้าวให้กลายเป็นเครื่องเคียง ไม่ว่ามื้อนี้จะกินอะไร ควรมีน้ำพริกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งด้วย ทำให้น้ำพริกกลายเป็นเครื่องเคียงอยู่ในแต่ละมื้ออาหาร นำมาสู่แพ็กเกจจิ้งแบบ ถ้วย’ มินิ ฉีกแล้วเทได้เลย

หาช่องทางที่ถูก…สร้างโอกาสทางธุรกิจน้ำพริกมินิรุ่งเจริญ

หลังจากที่หาซัพพลายเออร์ผลิตแพ็กเกจจิ้งแบบ ถ้วย’ มินิ ได้สำเร็จ จึงเริ่มทำตลาดโดยจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ แม้จะเปลี่ยนแนวทางการตลาดมาฝากขายตามร้านขายของฝาก ในช่วงเทศกาลปีใหม่-สงกรานต์ก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน

คุณธนาวัฒน์ จึงกลับมาทบทวนหาข้อบกพร่องของแบรนด์ รุ่งเจริญ ก่อนได้ข้อสรุปว่าอาจวางกลุ่มเป้าหมายผิดตลาด ควรนำสินค้าไปเสนอร้านที่ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ จึงหันไปจับตลาดกลุ่มลูกค้าร้านสะดวกซื้อต่างๆ เช่น แฟมิลี่มาร์ท ต่อมาได้มีการนำผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่ายใน ฟู้ดแลนด์ และแม็กซ์แวลู

ก่อนที่จะเกิดจุดเปลี่ยนสำคัญก็คือน้ำพริกมินิแบรนด์ รุ่งเจริญ’ ได้ไปออกบู๊ธงานจัดแสดงสินค้า แล้วได้รับความสนใจจากฝ่ายจัดซื้อของ ‎7-Eleven จากการเจรจาพูดคุยทางบริษัทได้รับโอกาสนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในร้านสะดวกซื้ออันดับ 1 ของเมืองไทย

สิ่งที่ตามมาก็คือต้องปรับเปลี่ยนโรงงานผลิตให้ได้มาตรฐานต่างๆ เช่น อย., GMP, HACCP, HALAL หลังจากที่ได้จำหน่ายใน ‎7-Eleven ส่งผลให้ยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 800% ต่อเดือน เนื่องจากสินค้าตรงกับกลุ่มลูกค้าของร้านสะดวกซื้อ เป็นคนเมือง พกพาสะดวก โดยปัจจุบันได้มีการจำหน่ายน้ำพริกทุกรสชาติผ่านทุกช่องทางกว่า 100 ล้านถ้วย

นอกจากนี้ น้ำพริกมินิแบรนด์ รุ่งเจริญ’ ได้มีลูกค้าซื้อไปจำหน่ายแล้วในประเทศ CLMV รวมถึงจากการที่บริษัทได้จัดสินค้าไปจำหน่ายตามสาขา ‎7-Eleven ในประเทศเพื่อนบ้านด้วย

เรียนรู้สิ่งใหม่ สร้างโอกาสธุรกิจ

ขณะนั้นกระแสการใช้อินเทอร์เน็ตกำลังมาแรง บริษัทจึงมีการส่งสตอรี-รายละเอียดน้ำพริกทาง อีเมลมาร์เก็ตติ้ง’ ให้กับบุคคลที่คาดว่าจะสนใจ หลังจากนั้นมีลูกค้าติดต่อซื้อสินค้า มีดีลเลอร์สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย ทำให้มองว่าช่องทางนี้น่าจะไปได้ดี

เมื่อทราบว่าช่องทางออนไลน์คือโอกาสสำหรับน้ำพริกมินิรุ่งเจริญ จึงได้มีการทำการตลาด-โฆษณาผ่าน Google Ads และเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีคู่แข่งในการทำออนไลน์ ทำให้บริษัทกลายเป็นเจ้าแรกของสินค้าประเภทนี้ในการทำโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ พี.พี.เอ็น.ฟู้ดส์ จึงเปลี่ยนช่องทางการจำหน่ายหลักมาเป็นออนไลน์ แต่ก็มีการโฆษณาช่องทางอื่นๆ ด้วย เพื่อหาตัวแทนจำหน่าย นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเพจในเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นช่องทางหลักในการสร้างแบรนดิ้งทำให้ผู้คนรู้จัก น้ำพริกรุ่งเจริญ

‘Business Transformation’ เคล็ดลับความสำเร็จ

สำหรับเรื่องนี้ คุณธนาวัฒน์ อธิบายว่า สิ่งที่ทำให้ บริษัท พี.พี.เอ็น.ฟู้ดส์ จำกัด ผ่านวิกฤตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น วิกฤตเศรษฐกิจ น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 การเมือง หรือแม้แต่โควิด-19 ก็ไม่ค่อยส่งผลกระทบกับยอดขาย เนื่องจากการ Business Transformation ที่ทุกองค์กรต้องรู้จักปรับตัวตามสถานการณ์เพื่ออยู่รอด เช่น ปรับเปลี่ยนวิธีการผลิต-แพ็กเกจจิ้ง การทำให้สินค้าได้คุณภาพมาตรฐานต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด

จากถ้วยรีไซเคิลพัฒนาสู่ถ้วยย่อยสลายเองได้

คุณธนาวัฒน์ กล่าวว่า การรับประทานน้ำพริกมินิรุ่งเจริญช่วยลดการสูญเสียอาหาร-อาหารเหลือทิ้ง เนื่องจากมีขนาดพอเหมาะ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคอมเมนต์จากโลกโซเชียลมีเดียที่สะท้อนให้เห็นปัญหาว่าเมื่อผู้บริโภคกินเยอะแล้วถ้วยกลายเป็นขยะกองพะเนินขนาดย่อมๆ

ด้วยโจทย์เรื่องปัญหาขยะ น้ำพริกมินิรุ่งเจริญจึงได้เข้าร่วมโครงการกับศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารแห่งมหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อพัฒนาถ้วยที่สามารถย่อยสลายเองได้ ซึ่งโครงการนี้ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนทดลองใช้ว่าสามารถนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ได้จริงหรือไม่ หากสามารถใช้ได้จริงก็จะเป็นนวัตกรรมใหม่ของบริษัทที่นอกจากจะกินแล้วไม่เหลือทิ้ง ถ้วยที่เป็นภาชนะก็จะไม่เป็นขยะ ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์โลกที่ผู้คนกำลังให้ความสำคัญ

แม้จะมีของดีอยู่ในมือ แต่การจะทำให้ธุรกิจ Success นั้นไม่ง่าย ภาคธุรกิจต้องตามหา ‘Key Business’ ให้เจอ ซึ่งคุณธนาวัฒน์ โพธิ์เผื่อนน้อย กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.พี.เอ็น.ฟู้ดส์ จำกัด ได้ใช้การเรียนรู้ Business Transformation นำพาน้ำพริกมินิรุ่งเจริญสู่ความสำเร็จ เด็ดใจคอน้ำพริกรุ่นใหม่บ้านเรา พร้อมตั้งเป้ารุกตลาด CLMV ก่อนขยายไปอาเซียนและเอเชียต่อไปในอนาคต

รู้จัก ‘บริษัท พี.พี.เอ็น.ฟู้ดส์ จำกัด’ เพิ่มเติมได้ที่

https://www.ppnfoods.com/

https://www.facebook.com/namprikmini/

Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก หรือสายด่วน 1333