โอมิครอน กระทบเศรษฐกิจไทยมากน้อยแค่ไหน เช็กเลย 

โอมิครอน กระทบเศรษฐกิจไทยมากน้อยแค่ไหน เช็กเลย 
โอมิครอน กระทบเศรษฐกิจไทยมากน้อยแค่ไหน เช็กเลย 

โอมิครอน กระทบเศรษฐกิจไทยมากน้อยแค่ไหน เช็กเลย 

วันที่ 28 ธันวาคม 2564 ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย และที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า หลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก​ สำนักวิจัยฯ ยังไม่ได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของ​เศรษฐกิจ​ไทย​จากที่เคยให้ไว้ที่​ 3.8% เมื่อปลายเดือนพฤศจิ​กายน

แต่มองว่าการระบาดของสายพันธุ์​ใหม่​นี้นับเป็นความเสี่ยงสำคัญของเศรษฐ​กิจ​ไทย​ ส่วนจะกระทบมากน้อยเพียงใด และกระทบภาคส่วนใดทางเศรษฐกิจ​ ได้ประเมิน​การเติบโตของ GDP​ ไทยออกเป็น​ 3 แนวทาง

1. โอมิครอนไม่ระคาย​ GDP​ ไทย​โตได้​ 3.8% ตามคาด

หากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันไม่เร่งขึ้น​ ยอดผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้​ ขณะที่หน่วยงานด้านสาธารณสุข​ยังสามารถรับมือกับสถานการณ์​ได้จนไม่ต้องมีมาตรการจำกัดกิจกรรม​ทาง​เศรษฐกิจ​ เพียงแต่การบริโภคสินค้าและบริการอาจชะลอในระยะสั้น​ โดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหาร​ โรงแรม​ ขนส่งคน​ อาหาร​ และเครื่องดื่ม​​ น่าจะฟื้นตัวได้ภายใน 1 ถึง 2 เดือน​ คล้ายการระบาดรอบสองที่ผ่านมา

นอกจากนี้​ อาจเห็นการเปลี่ยนความคิด จากไม่สามารถป้องกันการระบาดได้ เป็นการต้องอยู่ร่วมกับโควิด​ จึงไม่มีการปิดเมือง​ หรือจำกัดการเดินทางและการใช้จ่ายใดๆ​ และต้องติดตามว่าสายพันธุ์​โอมิครอนอาจไม่ได้ส่งผลรุนแรงต่อสุขภาพ​เท่าสายพันธุ์​เดลต้า​ เพียงแต่ต้องเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อ​

2. ไม่ล็อกดาวน์แต่กระทบภาคบริการไตรมาสแรก​ GDP​ ไทยทั้งปีโตเฉียด 3%

แม้ไม่มีการออกมาตรการจำกัดกิจกรรม​ทาง​เศรษฐกิจ​อย่างเข้มงวด​ แต่การที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว​ จะกระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภค​ และจะยิ่งส่งผลให้การบริโภคชะลอตัว​ลง​ อย่างไรก็ดี​ สถานการณ์​น่าจะคล้ายช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนที่การใช้จ่ายแผ่วลง​ แต่เศรษฐกิจ​ไทย​ยังขยายตัวจากไตรมาสก่อนได้​ ด้วยแรงขับเคลื่อนจากภาคการผลิตและการส่งออก​

กลุ่มที่ได้รับผลกระทบนอกเหนือจากภาคบริการและการท่องเที่ยว​เดินทางแล้ว​ กลุ่มการบริโภคที่ต้องอาศัยความเชื่อมั่นผู้บริโภคและแนวโน้มเสถียรภาพการจ้างงาน​ เช่น​ รถยนต์​ เสื้อผ้า ​และ เฟอร์นิเจอร์ ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย

3. โอมิครอนลามภาคการผลิต​ ห่วงโซ่อุปทานชะงักงัน​ GDP​ ไทยเสี่ยงต่ำ 3%

หากปัญหาการระบาดลากยาวและรุนแรงจนส่งผลให้คนงานล้มป่วยหรือต้องมีมาตรการจำกัดจำนวนคนงานในโรงงานอุตสาหกรรม​ เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานจนกำลังการผลิตลดลง​ กระทบภาคการลงทุน​ อีกทั้งปัญหานี้กระจายไปยังประเทศต่างๆ​ จนโรงงานผลิตวัตถุดิบ​หรือชิ้นส่วนสำคัญต้องหยุดชะงัก​ มีผลให้ห่วงโซ่อุปทานในการผลิตสำคัญๆ​ ต้องพลอยชะงักงันไปด้วย​

เช่น​ รถยนต์​ รถจักรยานยนต์​ อุปกรณ์​อิเล็กทรอนิกส์​ และอาหารแปรรูป​ เช่น ไก่แปรรูป​ และอาหารทะเลแช่แข็ง​ ซึ่งจะกระทบการส่งออกของไทยอีกทอดหนึ่ง​ แม้กำลังซื้อในต่างประเทศจะไม่ทรุดตัวก็ตาม​ เนื่องจากขาดแคลนสินค้าส่งออก​ อีกทั้งปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และค่าระวางเรือที่สูงยังกดดันการค้าโลกต่อเนื่อง​ได้​

นอกจากภาคการผลิตแล้ว​ ภาคการก่อสร้างก็เสี่ยงชะลอตัว​จากปัญหาขาดแคลนแรงงาน​ หรือมาตรการจำกัดคนในพื้นที่​ ซึ่งรวมทั้งการก่อสร้างภาครัฐและภาคเอกชน​ สำนักวิจัยฯ มองว่า เศรษฐกิจ​ไทย​ ปี​ 2565 จะดีกว่าปี ​2564​ อย่างน้อยคนไทยมากกว่า 70% ได้รับวัคซีนไปแล้ว​ และกำลังเดินหน้ารับเข็มกระตุ้นต่อเนื่อง​ อีกทั้งคนไทยได้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับไวรัสนี้ได้ดีกว่าเดิม

โดยสรุป​ การระบาดของโอมิครอนน่าจะมีผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค​ ส่งผลให้การใช้จ่ายของประชาชนชะลอตัวชั่วคราวในช่วงปลายเดือนธันวาคมต่อเนื่องถึงเดือนมกราคม​ แต่หากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังต่ำกว่าระดับ 1 หมื่นรายต่อวัน​ การเกิดเวฟสี่เช่นนี้ก็ไม่น่ากระทบเศรษฐกิจ​ไทย​รุนแรง​ และอาจเห็นการบริโภคเร่งขึ้นหลังความเชื่อมั่นฟื้น​ หรือเกิด​ pent-up demand โดยเฉพาะเมื่อคนไทยได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นกันอย่างทั่วถึง​ และยอดผู้ติดเชื้อลดลง​

ขณะที่การท่องเที่ยวจากต่างชาติอาจลดลงกว่าที่คาดบ้าง​ แต่ไม่ได้คาดหวังมากนักจากการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในช่วงไตรมาสแรก​ เพราะคาดว่านักท่องเที่ยวจะมามากกว่า 1 ล้านคนต่อไตรมาสในช่วงไตรมาสสามเป็นต้นไป​ ขณะที่จำนวนหลักแสนในช่วงไตรมาสแรกอาจลดลงบ้างก็ไม่น่ากระทบเศรษฐกิจ​ไทย​มาก​

ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ​จากมาตรการทางการคลังน่าจะพอพยุงกำลังซื้อได้​ และเม็ดเงินราว 3 แสนล้านบาทอาจหยิบมาใช้ได้ในช่วง​แรกของการระบาด​ และหากยืดเยื้อก็สามารถกู้เพื่อพยุงเศรษฐกิจ​ได้​ ส่วนมาตรการทางการเงินก็น่าจะผ่อนคลายต่อเนื่องด้วยการคงอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ 0.50% ต่อปี​ และเร่งปล่อยซอฟต์โลนเพื่อเสริมสภาพคล่อง​ให้ธุรกิจ​ขนาดเล็กและผู้ได้รับ​ผลกระทบ​จาก​การ​ระบาด​รอบ​นี้​

โดยการส่งออกสินค้าน่าจะยังคงเป็นแรงพยุงเศรษฐกิจไทยได้ต่อเนื่อง​ อีกทั้งกำลังซื้อระดับกลาง-บนน่าจะยังแข็งแรงอยู่​ เพียงรอความเชื่อมั่นและแรงจูงใจให้ใช้จ่ายจากมาตรการรัฐ​ ส่วนการท่องเที่ยวจากต่างชาติน่าจะยังเป็นตัวสนับสนุน​เศรษฐกิจ​ไทย​ได้ในช่วงครึ่งปีหลัง​