8 สกิล ‘นักการตลาด’ แม้ AI ฉลาดก็ทำแทนไม่ได้!

8 สกิล ‘นักการตลาด’ แม้ AI ฉลาดก็ทำแทนไม่ได้!

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี​นำมาซึ่งการเกิดบรรทัดฐานใหม่ๆ สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญทั้งในชีวิตประจำวัน รวมทั้งในการทำงาน​ ไม่ว่าจะเป็นในมิติที่ทำให้ได้รับความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น​ รวมทั้งความเสี่ยงจากการถูกทดแทนด้วยขีดความสามารถและความฉลาดที่มากขึ้นของ AI โดยเฉพาะในฐานะฟันเฟืองสำคัญในตลาดแรงงานที่อาจจะถูก AI เข้ามาทดแทน แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับ ‘นักการตลาด’ แล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ AI ทดแทนไม่ได้ ซึ่งสาเหตุก็เป็นเพราะหุ่นยนต์ไม่สามารถเข้าใจ 8 สกิลดังต่อไปนี้

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

  1. เข้าใจพื้นฐานของ Machine Learning

Machine Learning เป็นส่วนการเรียนรู้ของเครื่องที่ถูกใช้งานเสมือนเป็นสมองของ AI สามารถเรียนรู้แบบแผนได้หลากหลาย ดังนั้น เราจึงควรมีความเข้าใจหลักการทำงานของ Machine Learning เช่น การค้นหา แยกแยะ การคาดคะเนจากฐานข้อมูล การวิเคราะห์ผลทางสถิติ เป็นต้น เพื่อที่จะได้ประมวลผลข้อมูลได้อย่างถูกต้อง

  1. เข้าใจความต้องการของลูกค้า

แม้ว่า AI จะสามารถรับข้อมูลได้มากกว่าคน และมีความสามารถในการทำงานที่แม่นยำ แต่อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดิบที่ได้จาก AI ยังขาดความคิดสร้างสรรค์ในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และนั่นคือคุณค่าของนักการตลาดที่จะต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ในการออกแบบกลยุทธ์ ดังนั้น ทักษะที่นักการตลาดจะต้องพัฒนา คือการทำความเข้าใจลูกค้า ความต้องการของลูกค้าคืออะไร รู้สึกอย่างไร ต้องการความช่วยเหลือด้านไหน เป็นต้น

 

  1. การสร้างทีมและมอบหมายงาน

อย่างที่รู้กัน ‘ทีมเวิร์ก’ คือปัจจัยสำคัญให้งานประสบความสำเร็จ การจะสร้างทีมและมอบหมายงานจะอาศัยข้อมูลและผลงานอย่างเดียวย่อมไม่เพียงพอ นายจ้างหรือหัวหน้างานอาจจะต้องศึกษานิสัยใจคอ ทัศนคติ ความรับผิดชอบต่องาน การเข้าสังคม หรือแม้แต่การวางตัวของคนเหล่านั้น เพื่อการจัดสรรทีมที่ดี มีความสามัคคี แต่ละคนได้รับงานที่ตรงตามความสามารถที่แท้จริง ซึ่งความสามารถที่แท้จริงของแต่ละคนคงไม่มีระบุใน Resume อย่างแน่นอน เรื่องนี้คนที่ทำงานด้วยกันเท่านั้นจะเข้าใจ ทั้งการประมวลผลของ AI ในปัจจุบันนี้คงไม่แตกฉานถึงขั้นนี้ เพราะสิ่งเหล่านี้จะสั่งสมจากประสบการณ์ การผ่านคน ผ่านโลก และตกผลึกได้

  1. คิดแบบ Growth Mindset

AI ไม่มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนมนุษย์ที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ในทันทีทันใด ดังนั้น การคิดแบบ Growth Mindset จะทำให้นักการตลาดตัดความกังวลที่ AI จะมาแทนที่ หรือเลิกกังวลว่าเราจะไม่สามารถทำหน้าที่ได้ดีเท่า AI เพราะการคิดแบบ Growth Mindset คือความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง ไม่กลัวที่จะล้มเหลว ไม่กลัวที่จะเริ่มต้นใหม่ เพราะคนที่มี Growth Mindset เหล่านี้ จะรู้จักพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

  1. ความคิดสร้างสรรค์

ความคิดสร้างสรรค์เป็นทักษะพื้นฐานของนักการตลาด โดยเฉพาะในยุคดิจิทัล การสื่อสารผ่านออนไลน์ยิ่งจะต้องสื่อสารให้ผู้อ่านหรือผู้ชม สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารไปในทิศทางเดียวกันกับที่องค์กรต้องการจะสื่อความหมาย ดังนั้น การผลิตคอนเทนต์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ในการผลิต เพื่อให้ดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการใช้ AI ช่วยในการผลิตคอนเทนต์มีประโยชน์อย่างมหาศาล เพราะการประมวลผลของ AI จากการเก็บคำ หรือข้อความต่างๆ บนออนไลน์ จะทำให้เรารู้ว่าลูกค้าชอบคอนเทนต์แบบไหน และคอนเทนต์แบบไหนทำให้ลูกค้าคลิกเข้ามาดู ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนนักการตลาดในการที่จะผลิตคอนเทนต์ให้โดนใจลูกค้า

  1. การคิดเชิงวิพากษ์ และการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน

แม้ว่า AI จะสามารถคำนวณเรื่องต่างๆ ได้แม่นยำมากขึ้น เก็บข้อมูลได้มากมาย แต่ในหลายๆ เรื่องก็ยังต้องใช้ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ในการตัดสินบางเรื่องอยู่ เช่น ทนายอาจใช้ AI เก็บข้อมูลหลักฐานต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณาคดี แต่สุดท้ายอัยการหรือผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินก็ยังคงเป็นมนุษย์นั่นเอง

  1. ทักษะการโน้มน้าวใจ

นับว่าเป็นหัวใจสำคัญในการปิดข้อตกลงทางธุรกิจในทุกๆ ครั้ง โดยทักษะซอฟต์สกิลเหล่านี้ ล้วนเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับมนุษย์อย่างมาก เพราะตราบใดที่เรายังต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น แม้เพียงแค่ 1 คนเราก็ยังจำเป็นต้องใช้ทักษะเหล่านี้ไม่มากก็น้อย

  1. นักวางแผน-วางกลยุทธ์

ในการทำธุรกิจถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะเป็นกระบวนการกำหนดกลยุทธ์หรือทิศทางของบริษัท รวมถึงการตัดสินใจจัดสรรทรัพยากรทั้งในส่วนของเงินทุนและบุคลากร ประเด็นสำคัญอยู่ที่การวางเป้าหมายในอนาคตสำหรับบริษัท อาจเป็นในกรอบ 3-5 ปีหรือมากกว่านี้ โดยมีแผนการทำธุรกิจที่เขียนแจกแจงไว้อย่างดีกำกับไว้ด้วย สิ่งเหล่านี้จะต้องประกอบด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เข้าใจธุรกิจ และ ‘กล้าเสี่ยง’ ซึ่งข้อนี้สำคัญ เราคงไม่เคยได้ยินมาก่อนใช่ไหมว่า AI มีการตัดสินใจโดยปราศจากข้อมูล ขณะที่นักวางแผน นักวางกลยุทธ์ ไม่เพียงใช้ข้อมูล แต่ยังมีสกิลที่เรียกว่า ‘โยนหัวก้อย’ คือไม่รู้หรอกว่าการตัดสินใจแบบนี้จะดีหรือตรงกันข้าม แต่มีความเชื่อมั่นและกล้าทำโดยสัญชาตญาณซึ่งสิ่งนี้เราจะหาไม่ได้ในหุ่นยนต์

Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก หรือสายด่วน 1333