เผยแพร่ |
---|
บลจ.วรรณ รุกธุรกิจ Wealth Management รายแรกของบลจ.ไทย เปิดตัวบริษัทในเครือ บล.ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น
บลจ.วรรณ ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เปิดตัวบริษัทในเครือ บล.ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น (บล.ไพน์) เน้นรุกธุรกิจ Wealth Management แบบครบวงจรในฐานะตัวแทนและนายหน้า แนะนำการจัดสรรการลงทุน และลงทุนผ่านระบบ FundConnext และ Streaming Fund+ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพิ่มโอกาสการลงทุนผ่านกองทุนรวมทั้งในประเทศและลงทุนตรงต่างประเทศ ตั้งเป้า 3 ปีเติบโตแบบก้าวกระโดด พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ บริษัทพร้อมเปิดดำเนินการบริษัทในเครือ บริษัทหลักทรัพย์ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด โดย บลจ.วรรณ ถือหุ้น 99% เพื่อดำเนินธุรกิจ Wealth Management แบบครบวงจร ซึ่งจะเน้นกลุ่มลูกค้าบุคคลเป็นหลัก เพื่อให้ตอบโจทย์การให้คำแนะนำลูกค้าแบบรายบุคคลได้มากขึ้น แต่ก็สามารถให้บริการลูกค้านิติบุคคลได้ด้วย โดยการจัดตั้งบริษัทในเครือดังกล่าว นับเป็นหนึ่งก้าวสำคัญก้าวแรกของ บลจ.วรรณ เพื่อเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเป็นไปตามแผนธุรกิจ 3 ปี ที่วางเป้าหมายไว้ก่อนหน้านี้
“บลจ.วรรณ เรามีการพัฒนาตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์สิ่งรอบข้างอยู่เสมอเพื่อต่อยอดธุรกิจของเรา ซึ่ง บล.ไพน์ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ บลจ.วรรณ ที่ต้องการขยายธุรกิจและปรับรูปโฉมให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบถ้วนมากขึ้น โดยที่ผ่านมาวรรณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั้งในและต่างประเทศมาตลอด 30 ปีอยู่แล้ว ดังนั้น การปรับให้ทีมผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่การตลาดทุกคนไปประจำยัง บล.ไพน์ จะช่วยเสริมคุณภาพการบริการควบคู่ไปกับการบริหารผลตอบแทน เพราะสามารถลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลกและเป็นการลงทุนแบบ Open Architecture เปิดรับผลิตภัณฑ์ของทุก ธนาคาร บล. บลจ. หรือประกันในอนาคต ซึ่งจะทำให้การแนะนำการลงทุนดีขึ้นและทำได้อย่างเต็มศักยภาพ” นายพจน์ กล่าว
บลจ.วรรณ ตั้งเป้ารับรู้รายได้จาก บล.ไพน์ ในช่วง 3 ปี ข้างหน้า ประมาณ 350 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนเสริมให้ บลจ.วรรณ ได้เป็นอย่างดีในฐานะช่องทางการลงทุน (Distribution Channel) สำหรับการดำเนินธุรกิจของ บลจ.วรรณ ถัดจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาความเป็นผู้นำเรื่องนวัตกรรมการลงทุนใหม่ๆ ของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น กองทุนทางเลือก (Alternative Investment Funds) และการลงทุน Foreign Investment Funds รวมถึงกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่ผ่านมาบริษัทถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการจัดการการลงทุนต่างประเทศทั้งในเรื่องการเฟ้นหาพันธมิตรการลงทุนทั้งในและต่างประเทศรวมถึงการบริหารสัดส่วนการลงทุนและดูแลค่าเงินให้กับนักลงทุน อีกทั้งยังเพิ่งเสนอขายกองทุน REIT Buy Back กองแรกของประเทศไปเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา และบริษัทยังมีรายได้จากการเป็นนายทะเบียนและทรัสตีมาเสริมอีกด้วย อย่างไรก็ดี บริษัทก็ยังจะหาโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติมในอนาคตเพื่อเสริมความแข็งแกร่งและเพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“ฐานลูกค้าของวรรณและไพน์จะไม่ทับซ้อนกัน บล.ไพน์ จะเน้นเรื่องการเข้าถึงความต้องการลูกค้ารายบุคคล โดยฐานลูกค้าส่วนบุคคลของ บลจ.วรรณ จะถูกโอนย้ายไปยัง บล.ไพน์ โดยจะย้ายตามความประสงค์ลูกค้า อย่างไรก็ดีผมมองว่า การโอนย้ายดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับลูกค้ามากกว่าเพราะลูกค้าจะมีโอกาสการลงทุนที่ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายนอกเหนือจากของ บลจ.วรรณ อีกทั้ง บล.ไพน์ ไม่เหมือนบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ ที่เน้นการลงทุนในหุ้นเป็นหลักแต่จะเน้นการลงทุนในเชิง Wealth Management มากกว่า โดยมีผลิตภัณฑ์ทั้ง ตราสารหนี้ กองทุนรวม และหุ้นกู้อนุพันธ์ รวมถึงสินทรัพย์ลงทุนอื่นๆ ในอนาคต ที่จะผ่านการคัดกรองจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และจัดเป็นพอร์ตการลงทุนให้ลูกค้าตามความเหมาะสม” นายพจน์ กล่าว
นายพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.วรรณ เราจะยังคงรุกการเติบโตในส่วนกองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลูกค้านิติบุคคลและสถาบันองค์กรขนาดใหญ่รวมถึงตัวแทนขาย (Selling Agents) โดยในแผนพัฒนาองค์กร 3 ปีหน้านี้ บริษัทมีแผนในการขยายธุรกิจในระดับระดับภูมิภาค (Regional) เพิ่มเติม นอกจากนี้ บริษัทยังได้เริ่มเตรียมตัวสำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนประเภทสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets) ซึ่งอาจต้องมีการขยายธุรกิจเพิ่มเพื่อรองรับความต้องการในอนาคตด้วย
ด้าน นายสุรศักดิ์ ธรรมโม ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของ บล.ไพน์ วางเป้าหมายเป็น ONE-Stop Financial Service ให้กับนักลงทุน โดยมีผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่การตลาดของ บล.ไพน์ ช่วยแนะนำการลงทุนให้เหมาะกับนักลงทุนตามสถานการณ์เศรษฐกิจและความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้ อีกทั้งมีผลิตภัณฑ์การลงทุนที่กว้างขึ้นมาก
“เราวางเป้าหมายเริ่มต้นด้วย AUA (Asset Under Advisory) เดิมประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท และวางเป้าหมายการเติบโตไปเป็น 3 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปีนี้โดยผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เราแนะนำให้ลูกค้าและนักลงทุนจะไม่ได้กระจุกตัวอยู่แค่การลงทุนในกองทุนรวมในไทยเท่านั้น แต่รวมถึงสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ และการลงทุนตรงในกองทุนรวมต่างประเทศด้วย ซึ่งตลาดการลงทุนในต่างประเทศนั้นมีความหลากหลายมากและยังมีสินทรัพย์ในการลงทุนให้ค้นหา เพื่อเปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนได้อีกมาก” นายสุรศักดิ์ กล่าว
สำหรับแผนธุรกิจช่วงแรกจะเริ่มต้นนำร่องด้วยผลิตภัณฑ์กองทุนรวมในประเทศที่เป็นที่คุ้นเคยผ่านระบบ FundConnext และ Streaming Fund+ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และวางแผนจะเริ่มเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมทั่วโลกในรูปแบบลงทุนตรงต่างประเทศในช่วงต้น-กลางปีหน้านี้ รวมถึงผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้โดยเฉพาะในตลาดแรกหรือ IPO ประกอบการให้คำแนะนำแบบ Asset Allocation บน Open Architecture ทั้งการลงทุนระยะสั้นถึงกลาง ยาว และการลงทุนแบบจับจังหวะตลาดให้เหมาะกับสไตล์การลงทุนของลูกค้า โดย บล.ไพน์ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการแนะนำการลงทุนได้เพราะมีผลิตภัณฑ์จากทั้ง บลจ. ชั้นนำในประเทศและต่างประเทศ ตราสารหนี้ในตลาดแรก หุ้นกู้อนุพันธ์ ซึ่งอาจรวมถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต
นายสุรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จุดเด่นของ บล.ไพน์ ที่แตกต่างคือการนำทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถในการวิเคราะห์การลงทุนได้อย่างยอดเยี่ยม มารวมเข้ากับผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายและครอบคลุมทั่วโลกแล้วเสริมด้วยนวัตกรรมและแพลตฟอร์มการลงทุน ให้เข้ากับตัวลูกค้าและนักลงทุน ผ่านขั้นตอนรายงานการลงทุนที่เข้าใจง่ายและครบถ้วน